สหมงคลฟิล์ม Business Model
ทันทีที่ภาพยนตร์ไทยเรื่อง องค์บาก ทำรายได้ครบ 100 ล้านบาท "เสี่ยเจียง" สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ประกาศว่า หนังเรื่องนี้จะทำเงินให้เขาไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท และผู้กำกับ "ปรัชญา ปิ่นแก้ว" ต้องมีเงินเข้ากระเป๋าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ในขณะที่ "พนม ยีรัมย์" นักแสดงนำ จะได้สิ่งตอบแทนที่มากกว่าค่าตัวมากมายนัก
(นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2546)
รางวัลของชีวิต
บ้านหลังใหญ่ สูง 7 ชั้น ในพื้นที่ 200 ตารางวา ในซอยอารีย์สัมพันธ์แห่งนั้นใหญ่โตและหรูหรา
เหมือนบ้านบุคคลที่ฐานะดีคนอื่นๆ ทั่วไปในเมืองไทย เพียงแต่ความไม่ธรรมดาอยู่ที่ว่าเมื่อประมาณ
18 ปี่ที่แล้ว เจ้าของบ้านหลังนี้เคยท้อแท้กับชีวิตจนแทบจะปิดฉากชีวิตตัวเอง
อาศัยแรงฮึด ลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง และครั้งนี้ชัยชนะก็เป็นของเขา
(นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2546)
ฟิล์มสีฟูจิ วันนี้ไม่มีเบิร์ด
นับเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้ ของโต้โยค่ายฟิล์มสีฟูจิ
สมพันธ์ จารุมิลินท กรรมการบริหารและผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กับการไม่ต่อสัญญาว่าจ้าง
ธงไชย แมคอินไตย์ หรือเบิร์ด…! เป็นพรีเซ็นเตอร์ของฟูจิ อีกต่อไป
(นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2537)
เสี่ยเจียง ...อาณาจักรหนังพันล้าน
สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ใครๆ ก็เรียกเขาว่า “เสี่ยเจียง” เจ้าของอาณาจักรสหมงคลฟิล์ม ผู้มีเครือข่ายธุรกิจภาพยนตร์ไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เขาคือบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในวงการหนังไทย เพียงเขาขยับเขยื้อน วงการหนังไทยก็สั่นสะเทือนแล้ว!
(Positioning Magazine กรกฎาคม 2549)
ชมศจี เตชะรัตนประเสริฐ นักดีลเลอร์ของ “เสี่ยเจียง”
คำกล่าวที่ว่า “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” ดูจะเหมาะสมกับ “ชมศจี” ลูกสาวคนสวยของ “เสี่ยเจียง” สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ในช่วงขวบปีที่ผ่านมา เธอได้กลายเป็นเสมือนหัวเรี่ยวหัวแรงในการดีลธุรกิจขายหนังทั้งในและต่างประเทศ ทำให้สหมงคลฟิล์มกลายเป็นแบรนด์ผู้ผลิตภาพยนตร์ที่ได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลก
(Positioning Magazine พฤศจิกายน 2548)
อวิกา เตชะรัตนประเสริฐ …โรงหนังของชีวิต
ผู้หญิงตัวเล็กๆ เพรียวบาง ผมยาวเหยียดตรง ให้เธอลองยิ้มซิ!..รอยยิ้มที่สร้างดวงตาหยีๆ ของเธอ ย่อมบ่งบอกได้ว่า เธอเป็นลูกสาวของใคร ใช่, เธอเป็นทายาทของ “เสี่ยเจียง” สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ เป็นสาวน้อยนักบริหารการตลาด ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในเวลานี้ของสหมงคลฟิล์ม
(Positioning Magazine พฤศจิกายน 2548)
เสี่ยเจียงต้องมนต์"เรน"ทาบเล่นหนัง ล้มแผนเข้าตลาดหุ้น-ร่วมทุนตปท.-ลุยซีจี
เสี่ยเจียงล้มแผนเข้าตลาดหุ้น เปิดแนวทางรุกครบวงจร เปิดกว้างร่วมทุนทั้งไทยและต่างชาติ ประเดิมผนึก 4 ชาติ ไทย ฮ่องกง เกาหลี ไต้หวัน สร้างหนังใหญ่แนวทริลเลอร์ เสี่ยเจียงสนทาบทาม "เรน" รับบทตัวเอก ส่วนแนวทางร่วมทุนกับคนไทยประเดิมไปแล้ว 3 เรื่อง ขนหนังขายต่างชาติหวังฟัน 1,500 ล้านบาท พร้อมทุ่มอีก 100 ล้านขยายสตูดิโอแห่งใหม่ ซุ่มตั้งบริษัททำซีจี
(ผู้จัดการรายวัน 8 พฤษภาคม 2549)
หวั่นแรงต้านเมเจอร์ฯ ขายตั๋ว80บาท นำร่อง นศ.
เมเจอร์ฯวาง แผนสยบข้อกล่าวหาผูกขาดโรงหนัง เผยเตรียมออกตั๋วราคา 80 บาทก่อนสิ้นปี "วิชา" มั่นใจทำหลายราคาช่วยขยายฐานลูกค้าและจำนวนคนดู เตรียมเดินสายโรดโชว์ดึงทุนนอกเข้าลงทุนดันเมเจอร์โกอินเตอร์ โต้หนังเสี่ยเจียงคุณภาพแค่หนังแผ่น แม้งดส่งก็ไม่กระทบเมเจอร์ โบรกฯเชียร์ซื้อหุ้น MAJOR เหตุควบรวมทำให้ต้นทุนและหนี้บริษัทลดลง
(ผู้จัดการรายวัน 14 มิถุนายน 2547)
"เมเจอร์" ดัดหลังหนังแย่ไม่หวั่นเสี่ยเจียงถอนทัพ
เมเจอร์ฯ ประกาศเดินหน้าธุรกิจใหม่ซื้อภาพยนตร์จำหน่ายเอง มั่นใจไม่กระทบพันธมิตรรายเดิม
แนะเสี่ยเจียงคิดผิดหากเมินเมเจอร์ฯ ชี้ปัญหาตลาดหนังล้นโรง มีกว่า 300 เรื่องต่อปี
แต่ทำเงินเพียง 30 เรื่อง ปรับนโยบายคัดหนังคุณภาพเข้าฉายเท่านั้น แก้เกมผู้สร้างหนังหัวใสใช้โรงเป็นทางผ่านสู่การขายหนังแผ่น
(ผู้จัดการรายวัน 4 มิถุนายน 2547)