บรรหาร ศิลปอาชาอดีตนายกฯ ที่ใช้มือการเงินเปลืองที่สุด
บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 รับหน้าที่บริหารประเทศตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. 2538 เวลาผ่านพ้นมาเป็นเพียงเวลาปีเศษเท่านั้น แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าตั้งแต่บรรหารเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น เขาได้ใช้มือดีทางการเงินมาแล้วถึง 4 คน ในระยะเวลาอันสั้นหลังจากที่ได้รับตำแหน่ง ที่คนเหล่านั้น ได้ถูกปลด บีบบังคับ และเก็บกดจนต้องลาออกไปเองและบทสรุปที่ทุกคนได้รับนั้นล้วนไม่สวยงาม
(นิตยสารผู้จัดการ ธันวาคม 2539)
"บรรหาร ศิลปอาชา" The Last Scene Power
ระหว่างที่ผ้าสีดำผืนใหญ่คลุมปิดป้ายชื่อพรรคชาติไทย พร้อมกับเสียงสั่นเครือ ตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของ “บรรหาร ศิลปอาชา” และสมาชิกพรรคอีกหลายคน เมื่อบ่ายวันที่ 2 ธันวาคม 2551 ผู้เฒ่าแห่งเมืองสุพรรณบุรีในวัย 76 ปีคนนี้กำลังหัวใจสลาย หลังจากถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคชาติไทย ที่ก่อตั้งมานานถึง 34 ปี จนทำให้ “บรรหาร” กับลูกชาย และลูกสาว พร้อมคีย์แมนที่ขับเคลื่อนพรรครวม 19 คน ต้องเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี แม้จะยังเหลืออิทธิพลอยู่บ้างในการจัดตั้งรัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” แต่เสียงร่ำไห้ในวันนั้นคือสัญญาณว่าถึงเวลาแล้วที่ต้อง “นับถอยหลัง” สำหรับการเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่เคยเป็น “ตัวแปร” ทางการเมืองของ “บรรหาร ศิลปอาชา”
(Positioning Magazine พฤษภาคม 2552)
บรรหาร ศิลปอาชา ปลาไหล Never Die
บรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ถือเป็นนักการเมืองรุ่นใหญ่ลายครามที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในแวดวงการเมืองไทย เขาเล่นการเมืองมาครึ่งค่อนชีวิต ผ่านร้อนผ่านหนาวบนเส้นการเมืองมาอย่างโชกโชก จนได้รับฉายาว่าเป็น “มังกรการเมือง” หรือกระทั่งเป็น “หลงจู๊การเมือง”
(Positioning Magazine มิถุนายน 2551)
บรรหาร ศิลปอาชา ตัวแปรเสถียรภาพรัฐบาล
“บรรหาร ศิลปอาชา” นักการเมืองรุ่นลายครามวัย 75 ปี ที่ไม่อ่อนแรงไปตามวัยที่มากขึ้น แต่กลับยิ่งเพิ่มดีกรีเข้มข้น และพร้อมแสดงความมี “อิทธิพล” ทางการเมืองให้กับพรรคชาติไทย ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ด้วยยุทธศาสตร์การใช้สถานะความเป็นแบรนด์เบอร์ 3 ในตลาดให้เป็นประโยชน์ ที่สามารถร่วมกับพรรคใหญ่เบอร์ 1 ชิงส่วนแบ่งที่นั่ง ส.ส. ในสภาผู้แทนราษฎร จัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่
(Positioning Magazine มิถุนายน 2550)