ลำน้ำพองตัวอย่างแห่งการอนุรักษ์
บ่อยครั้งที่เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม เหยื่อและโจทก์มักเป็นชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่จำเลยก็มักเป็นโรงงานและภาคธุรกิจอยู่ร่ำไป รวมถึงกรณีแม่น้ำพองเมื่อ 10-20 ปีก่อน แต่ภาพเหล่านั้นจะกลายเป็นเพียงประวัติศาสตร์ที่ไม่มีวันซ้ำรอย ด้วยจิตสำนึกต่อสาธารณะของทุกฝ่าย เฉกเช่นปัจจุบัน
(นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2551)
อะไรที่นำกลับมาใช้ได้อีกต้องเอากลับมาให้หมด
อุตสาหกรรมเยื่อกระดาษโดยทั่วไปมักเป็นไม้เบื่อไม้เมากับปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่สำหรับที่ฟินิคซ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ นอกจากไม่ยอมปล่อยให้มีอะไรหลุดออกไปสร้างปัญหานอกโรงงานแล้ว ยังพยายามเอาของเสียทุกชนิดที่ได้จากทุกกระบวนการผลิตกลับมาใช้ใหม่ให้หมด
(นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2550)
ใช่ว่าชื่อ “เครือซิเมนต์ไทย” ทำอะไรก็ง่ายไปทั้งหมด
แม้ชื่อเครือซิเมนต์ไทยจะได้รับการยอมรับในวงกว้างเรื่องการค้า ธรรมาภิบาล และความรับผิดชอบต่อสังคม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าชื่อนี้จะขลัง จนทุกกิจกรรมที่ทำทุกคนต้องเชื่อมั่นทันทีที่เห็นชื่อ การเข้าไปซื้อกิจการฟินิคซ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ จึงเป็นกรณีศึกษาที่ดี ที่เครือปูนใหญ่ต้องใช้เวลานับปี กว่าคนรอบข้างจะมั่นใจได้ว่า โรงงานที่ซื้อมานี้ปลอดภัยแล้ว
(นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2550)
SPP เข้าซื้อ PPPC หุ้นละ110บ. พร้อมขออนุมัติถอนจากตลท.
SCC แจ้งบริษัทลูก SPP เข้าเทกฯกิจการ PPPC หลังเข้าถือหุ้น 77.83% เกิน Trigger Point โดยจะซื้อในราคาหุ้นละ 110 บาท รวมมูลค่า กว่า 2 พันล้านบาท คาดยื่นคำเสนอซื้อภายใน 3 กันยายนนี้ เตรียมขออนุมัติผู้ถือหุ้นเพิกถอน PPPC ออกจากตลท.
(ผู้จัดการรายวัน 26 สิงหาคม 2547)
PPPCปันผลหุ้นสามัญละ4บาทไทยเคนฯกำไรพุ่งจากปรับหนี้
ฟินิคซ พัลพฯกำไรงวดปี 46 อยู่ที่ 1,161 ล้านบาท เพิ่มขึ้น แค่ 8% เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบและเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น
ฉุดกำไรขั้นต้นลดลง ประกาศจ่ายปันผลผู้ถือหุ้นสามัญอัตรา 4.00 บาทต่อหุ้น และหุ้นบุริมสิทธิ
4.50 บาทต่อหุ้น ด้านไทยเคนเปเปอร์โชว์กำไรเฉียด 800 ล้าน แต่เป็นกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ถึง
728 ล้านบาท
(ผู้จัดการรายวัน 28 มกราคม 2547)
คลังโอน10หุ้นให้วายุภักษ์1
ดีเดย์ตั้งกองทุน รวมวายุภักษ์ 1 ธ.ค.นี้ หลังจากเปิด ให้ประชาชนจองวันที่ 11
พ.ย. 2546 พร้อมรับโอน 10 หลักทรัพย์ จากกระทรวงการคลังในราคาส่วน ลด 15% มูลค่ารวมกว่า
7 หมื่นล้าน บาท จากราคาตลาดสูงกว่า 8 หมื่น ล้านบาท เพื่อสร้างหลักประกันให้กับผู้ลงทุนที่จะได้ผลตอบแทนไม่ต่ำกว่าปีละ
3%
(ผู้จัดการรายวัน 29 ตุลาคม 2546)