ว่าด้วยเรื่อง เสาอากาศไอโฟน 4
สตีฟ จ็อบส์ ยอมรับว่า “พวกเราไม่สมบูรณ์แบบ โทรศัพท์ก็ไม่สมบูรณ์แบบ พวกเราต้องการให้ผู้ใช้ทุกคนมีความสุข” และเป็นที่ทราบกันดีในวงการว่า สมาร์ทโฟนมีจุดด้อย ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายในอุตสาหกรรมนี้
(Positioning Magazine สิงหาคม 2553)
ไอโฟน 4 บาง เหลี่ยม แต่แรง
ระบบตรวจจับความเอียงเครื่องแบบ 3 แกน พัฒนามาจากเทคโนโลยีที่ใช้ในยานอวกาศและเครื่องบิน สามารถนำไปพัฒนาเป็นคำสั่งอัจฉริยะอื่นๆ ในอนาคต เช่น คำสั่งปิดหน้าจอเมื่อกำลังโทรศัพท์ หรือคำสั่งไม่รับสายเรียกเข้าเมื่อผู้ใช้พลิกโทรศัพท์คว่ำ รวมถึงคำสั่งที่จะทำให้ iPhone 4 ถูกพัฒนาเป็นอุปกรณ์เกมลักษณะเดียวกับ Wii ในอนาคต
(Positioning Magazine กรกฎาคม 2553)
ไอโฟน คิลเลอร์ ฉายานี้ซัมซุงขอจอง
ถูกจับตาตั้งแต่ยังไม่เปิดตัว ว่าซัมซุง Galaxy S จะมาเป็น “iPhone Killer” เพราะด้วยหน้าตาและการใช้งานถอดแบบ iPhoneมาแบบเต็มๆ พร้อมด้วยแพลตฟอร์มขวัญใจชาว Geek ทั่วโลกอย่าง ”แอนดรอยด์” จึงทำให้หลายคนลุ้นว่าฝันของแบรนด์เกาหลีแบรนด์นี้จะไล่ตามฆ่า iPhone ได้จริงหรือไม่
(Positioning Magazine มิถุนายน 2553)
เมื่อผู้ใหญ่ต้องเป็นวัยรุ่นของเอชทีซี
หลังจากซัมซุงสร้างปรากฏการณ์ “Candy Effect” ให้เป็นที่ร่ำลือในวงการมือถือไปแล้ว เอชทีซีขอเดินตามด้วยการรุกตลาด “แมส” เป็นครั้งแรกด้วยรุ่น HTC Smart ที่เอชทีซีพยายามเป็นวัยรุ่นสุดๆ พลิกจากความเป็นสมาร์ทโฟนสำหรับผู้ใหญ่ Geek และแน่นอนเมื่อมาทีหลัง ก็ยิ่งต้องหากลยุทธ์การตลาดที่แตกต่าง
(Positioning Magazine พฤษภาคม 2553)
เกรย์มาร์เก็ตคึกคัก
นอกจากสงครามในสนามใหญ่ของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือแล้ว ในเกรย์มาร์เก็ต ทั้งแบล็คเบอร์รี่ หรือบีบี และไอโฟนก็คึกคักไม่แพ้กัน จนทำให้ลูกค้าที่อยากใช้ทั้งสองแบรนด์หาซื้อได้ง่ายขึ้น และด้วยความสามารถของบรรดาผู้ขายทำให้เครื่องที่หิ้วเข้ามา สามารถปลดล็อกแล้วไปซื้อแพ็กเกจจากค่ายมือถือได้ หรือแม้แต่การไปซื้อต่างค่าย คือซื้อจากทรูมูฟ ไปใช้เอไอเอส ดีแทค ก็ทำได้ง่าย
(Positioning Magazine เมษายน 2553)
The Game Changer
ความแรงของ “ไอโฟน” ทำให้แอปเปิลสามารถต่อรองกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั่วโลกในการรับภาระค่าเครื่องบางส่วน แลกกับผูกแพ็กเกจที่ลูกค้าต้องใช้บริการระยะหนึ่ง “ไอโฟน” จึงกลายเป็น “อาวุธหลัก” และเป็น “ผู้เปลี่ยนเกม” ของค่ายมือถือที่ต้องการบุกตลาด Non voice หรือบริการสื่อสารข้อมูล รวมไปถึงการทำให้ค่ายมือถือมองเห็นโอกาส และขยายแนวรุกมากขึ้น ด้วยการมองหาพันธมิตรแบรนด์สมาร์ทโฟนต่างๆ มาจัดแพ็กเกจพิเศษให้ลูกค้า เพื่อทดแทนตลาดโทรศัพท์มือถือที่เริ่มอิ่มตัว นี่คือจังหวะสำคัญที่ไอโฟนกำลังเป็นผู้ผลิกเกมในตลาดโทรศัพท์มือถือในอนาคต
(Positioning Magazine เมษายน 2553)
iPhoneism
ขณะที่ ”ไอโฟน” รุ่นแรกเปิดวางจำหน่ายที่อเมริกาเมื่อกลางปี 2550 กลุ่มไฮเอนด์ของตลาดสมาร์ทโฟนในไทยอย่าง “ดอน” หนุ่ม Geek และ ”ดร.โจ” ผู้บริหารบริษัทไอทีแห่งหนึ่ง ที่เพิ่งกลับจากอเมริกา รีบออร์เดอร์ให้เพื่อนหิ้ว ”ไอโฟน” มาให้ทันที ช่วง 3 ปี ทั้ง ”ดอนและดร.โจ” เปลี่ยนไอโฟนมาแล้ว 3 เครื่อง ไล่ตามทุกรุ่นที่ไอโฟนเปิดตัว นอกจากนี้ ”ไอโฟน” ยังกลายเป็นของฝากที่กลุ่มไฮเอนด์หิ้วมาให้เพื่อนและครอบครัวเมื่อไปอเมริกา จนวัฒนธรรมไอโฟนที่แสดงออกด้วยอาการทัชหน้าจอระบาดไปทั่วในหมู่ Trendsetter ของเมืองไทย ที่มี 3 กลุ่มหลักๆ คือ ผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี กลุ่ม Openion Leader กลุ่ม Stylish
(Positioning Magazine เมษายน 2553)
Return of the King
“ไอโฟน” เปลี่ยนโลกสมาร์ทโฟนได้เพียงชั่วข้ามคืน เมื่อ”สตีฟ จ็อบส์” เผยโฉมไอโฟนรุ่นแรกเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2550 ที่พาเอากลุ่ม Geeks และ Techies ทั้งหลายซี๊ดปาก และไม่ลังเลที่จะเป็น ”สาวก” อย่างเหนียวแน่น เพราะ “ไอโฟน” ทำสิ่งเหนือความคาดหมายให้กลายเป็นจริงสำหรับสมาร์ทโฟน ด้วยคุณสมบัติโทรศัพท์ฉลาด แต่ใช้งานง่าย ได้ความบันเทิง ดูดี เก๋ เท่ และที่สำคัญ ”ทัช” ของจริงที่นุ่มนวล และ ”มัลติทัช” แสดงผลดังใจ
(Positioning Magazine เมษายน 2553)
Android แรงพอจะฆ่าไอโฟนหรือ
ถ้าชอบกูเกิล ก็จะรักแอนดรอยด์ คือจุดแข็งของแพลตฟอร์ม สมาร์ทโฟนของกูเกิลที่กำลังมาแรง จน ”การ์ทเนอร์” บริษัทวิจัยระดับโลกคาดว่าในปี 2012 สมาร์ทโฟนที่ใช้แอนดรอยด์จะมีมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากโนเกีย ซิมเบียน เท่านั้น นั่นหมายถึงการแซงหน้าทั้งไอโฟนแบล็คเบอร์รี่ และวินโดวส์ โมบาย เลยทีเดียว (ยกเว้นแต่ว่าวินโดวส์ โมบาย 7 จะออกมาได้เจ๋งจริง)
(Positioning Magazine เมษายน 2553)
ปรากฏการณ์ Candy Effect
ขณะที่ใครๆ ก็สนใจไอโฟน แต่ซัมซุงเล็งเห็นกลุ่ม Follower ก่อนใครจึงชิงเปิดตัวตระกูล “แคนดี้” ไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้วยหน้าตาที่คล้ายไอโฟนขนาดย่อมพร้อมสีสันสดใสสไตล์ลูกกวาด แต่เป็นฟีเจอร์โฟนที่ความสามารถครบครันที่สำคัญคือเชื่อมต่อเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ แถมยังแชตได้เหมือนบีบี ด้วยดีไซน์และคุณสมบัติที่รวมจุดเด่นของทั้ง 2 แบรนด์เข้าไว้ด้วยกันจึงเป็น Beginner สำหรับผู้ที่อยากทดลองใช้สมาร์ทโฟนในราคาไม่ถึง 6 พันบาท ทำให้แคนดี้สร้างยอดขายมากกว่า 5 หมื่นเครื่องต่อเดือนในปีที่ผ่านมา ผลักดันให้ซัมซุงก้าวขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในตลาดเบียดแชมป์เก่าหลายสมัยอย่างโนเกียเป็นครั้งแรก
(Positioning Magazine เมษายน 2553)