รัฐบาลพ่ายสงครามชิงมวลชน “รัฐมนตรีคุมสื่อ” มือไม่ถึงขั้น
อดีตนายกฯ ที่ต้องต่อสู้เพื่อกลับประเทศ และคืนสู่อำนาจอีกครั้ง จึงให้ความสำคัญทุ่มสรรพกำลังในเรื่องนี้เต็มพิกัด ทั้งสื่อหลัก สื่อทางเลือก หรือสื่อใหม่ (New Media) ในโลกดิจิตอลโดยจะเห็นได้จากทัพสื่อ “สีแดง” ดาหน้าเข้าสู่แนวรบกันเป็นแผง
(Positioning Magazine ธันวาคม 2552)
เทียบฟอร์ม อภิสิทธิ์ – ทักษิณ
ด้วยความที่ต้องเร่ร่อนออกนอกประเทศ ทักษิณซึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นอดีตเจ้าพ่อดาวเทียม ถนัดกับการใช้เครื่องมือสื่อสารอยู่แล้ว จึงใช้ประโยชน์จากทวิตเตอร์มากเป็นพิเศษ เพื่อชิงพื้นที่ข่าวทั้งสื่อหลักและสื่อเว็บ ทำให้ชื่อของทักษิณไม่ได้หายไปไหน แต่ยังสามารถติดตามข่าวสารจากเขาได้ตลอดเวลา เช่น ข่าวการเดินทางไปเจรจาธุรกิจกับผู้นำหรือคนสำคัญประเทศต่างๆ ข่าวพิณทองทาบุตรสาวได้โควตาหวยที่อูกันดา และข่าวลงทุนผลิตเพชร
(Positioning Magazine กันยายน 2552)
Tweet อภิสิทธิ์ & ทักษิณ
นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 23 สิงหาคม ร่วมให้กำลังใจนายกอภิสิทธิ์ผ่านทาง Twitter ทุกความเห็นส่งถึงนายกฯ แน่นอน (ทีมงาน) ทักษิณ ชินวัตร 26 สิงหาคม ก็ขอร้องรัฐบาลอย่ามัวโกหกรายวันอยู่เลย ไปดูแลปัญหาปากท้องประชาชนดีกว่า ปล. แล้วผมจะถ่ายรูปเพชรไปให้ดูนะครับ
(Positioning Magazine กันยายน 2552)
“ทักษิณ ชินวัตร” The Power Hunter
ไม่ใช่แค่ต่อสู้เพื่อให้ได้ทรัพย์สิน 7.6 หมื่นล้านบาทที่อ้างว่าเป็นของตนเองคืน ไม่ใช่แค่ต่อสู้หนีจำคุก 2 ปี และไม่ใช่แค่ต่อสู้ทางการเมืองเพื่อหวังกลับสู่อำนาจเท่านั้น เพราะผลจากการกระทำของ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่เปิดเกมรุกอย่างหนักนับตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2551 จนมาถึงวัน “สงกรานต์เดือด” บอกชัดเจนว่า “ทักษิณ” ต้องการมากกว่านั้น จนส่งแรงขับให้เขาทำทุกอย่างถึงขั้นแตะต้องสถาบันเบื้องสูง จุดอ่อนไหวที่สุดของสังคมไทย ไม่พ้นต้องจัดเป็น “ผู้ทรงอิทธิพล” ในด้านมืด ที่ทำลายชื่อเสียงประเทศไทย และทำให้สังคมไทยแตกแยกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
(Positioning Magazine พฤษภาคม 2552)
“ทักษิณ ชินวัตร” Brand Power
แม้จะไม่มีตำแหน่งทางการเมืองใดๆ แม้แต่ตำแหน่งเดียว แถมยังเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีถูกรัฐประหาร จนต้องระเห็จออกนอกประเทศพักใหญ่ และมีคดีความที่ต้องตามแก้อีกมากมาย แต่ใครก็รู้ว่า “ทักษิณ ชินวัตร” คือ The man behind the science ผู้ทรงอิทธิพลตัวจริงของรัฐบาลชุดนี้ ยังคงเป็นแบรนด์อันทรงพลัง ที่มีผลต่อจุดเปลี่ยนทางการเมือง ชนิดที่ต้องจับตา
(Positioning Magazine มิถุนายน 2551)
แมนฯซิตี้ ฟรีคิกเจาะตลาดจีน
มองถึงโมเดลสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ “ทักษิณ ชินวัตร” ต้องยอมรับว่ามีกลยุทธ์ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ ด้วยแผนเชิงรุกเจาะตลาดแฟนบอลแถบเอเชีย ซึ่งถือว่าเป็นดินแดนที่คลั่งไคล้ฟุตบอลมากที่สุดในโลก
(Positioning Magazine มกราคม 2551)
เจาะขอบสนาม “แม้ว ซิตี้” เทกโอเวอร์ บันลือโลก
ด้านหนึ่งของการตัดสินใจซื้อทีมสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของอดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” มองในเชิงธุรกิจ การเลือกทีมนี้ไม่ธรรมดา เพราะทั้งผลประกอบการ รายได้ สนาม และที่สำคัญแฟนบอลเมืองแมนเชสเตอร์มีจุดที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ขณะอีกด้านหนึ่งเป้าหมายของทักษิณย่อมไม่แตกต่างจากภาพนักธุรกิจที่มีรอยมลทิน ซึ่งต้องการซักรอยเปื้อนนี้ออก หวังว่าการอยู่ในที่สว่างจะช่วยสร้างแบรนด์ใหม่ให้ตนเอง
(Positioning Magazine สิงหาคม 2550)
“ทักษิณ ชินวัตร” ปฏิบัติการทวงอำนาจ
คุณคิดว่าอะไรคือสิ่งหล่อเลี้ยงให้ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” ยังคงมีลมหายใจอยู่...เงินที่มีอยู่มากมายพร้อมซื้อสิ่งต่างๆ ที่ขวางหน้า หรือความหวังที่จะกลับมาเป็นใหญ่ในประเทศไทย หรือความแค้นที่มีต่อคณะนายทหารที่รัฐประหารยึดอำนาจ แค้นต่อคนที่ตะโกนขับไล่ให้ออกจากประเทศ และแค้นต่อการปฏิบัติการฟ้อง เพื่อยึดทรัพย์ ยุบพรรคไทยรักไทย และส่งเข้าคุกให้หมดอนาคตทางการเมือง
(Positioning Magazine มิถุนายน 2550)
จากไฮ-ทักษิณ ถึง แมนเชสเตอร์ซิตี้
แม้จะสูญเสียอำนาจทางการเมือง ต้องกลายเป็นอดีตนายกพลัดถิ่น แต่ชื่อของ ทักษิณ ชินวัตร และไทยรักไทย กลับไม่ได้เงียบหายไปด้วย ด้วยกลยุทธ์การช่วงชิงพื้นที่ข่าว เพื่อสร้างความจำ ในตัวแบรนด์ทักษิณและไทยรักไทยด้วยเครื่องมือต่างๆ ทั้งเว็บไซต์ ทีวีดาวเทียม อีเวนต์ และการปล่อยข่าว
(Positioning Magazine พฤษภาคม 2550)