Low Cost Effect
คืนวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา แอร์เอเชียเปิดให้ลูกค้าจองตั๋วเดินทางด้วยโปรโมชั่น Free Seat แล้วก็เล่นเอาเว็บไซต์ของแอร์เอเชียล่มแล้วล่มอีก ปรากฏารณ์ดังกล่าว สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์แบบใหม่ที่เกิดขึ้น
(Positioning Magazine 17 ตุลาคม 2554)
“เป็นแฟนแล้วบินฟรี” ถอดสูตรปั้นแฟน...แอร์เอเชีย
จุดเปลี่ยนที่ทำให้ Fan Page ของไทยแอร์เอเชียได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้เด่นชัด ขณะเดียวกันก็แสดงศักยภาพของ Social Media ก็คือ ผลจากความวุ่นวายทางการเมืองเมื่อไตรมาส 2 ที่ผ่านมา หลังเหตุการณ์สงบลงราว 3 สัปดาห์ เราออกแคมเปญบินฟรี 10,000 ที่นั่ง
(Positioning Magazine ตุลาคม 2553)
ได้เวลาปล่อยของ “ถูก”
แม้ว่าไข้หวัด 2009 และบรรยากาศการเมืองไทยยังดูมาคุ เป็นปัจจัยลบที่ทำให้ธุรกิจสายการบินในประเทศไทยต่างต้องกุมขมับ แถมเดือนนี้ยังเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยวที่ทำให้ธุรกิจการบินที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต้องกุมขมับยกกำลังสอง แต่ก็ใช่ว่าการเดินทางโดยเครื่องบินจะไม่มีดีมานด์เอาเสียเลย...
(Positioning Magazine กรกฎาคม 2552)
พรีเพด พา “โลว์คอสต์” บิน
เริ่มจากโลว์คอสต์แอร์ไลน์ อย่าง “ไรอันแอร์” คิดกลยุทธ์การตลาดได้ล้ำหน้าบินสูงกว่าคู่แข่งได้อีกครั้ง ด้วยการจับมือกับพันธมิตร สร้างฐานลูกค้าด้วย “พรีเพด การ์ด” ซึ่ง “ไรอันแอร์” คุยว่านี่คือโปรแกรมที่ใช้ “พรีเพด การ์ด” ทำตลาดระหว่างแบรนด์ต่างๆ ที่หลากหลายมากที่สุดเท่าที่เคยมีในอังกฤษ
(Positioning Magazine ธันวาคม 2551)
“แอร์เอเชีย” ยังบินได้
การวางตำแหน่งตลาด กำหนดยุทธศาสตร์ และบริหารจัดการของความเป็นโลว์คอสต์แอร์ไลน์ที่ชัดเจนมาตั้งแต่ต้น ทำให้ไทยแอร์เอเชีย น่าจะเป็นสายการบินเดียวที่มีโอกาสรอดมากที่สุดในยามนี้ ก่อนหน้านี้ ทศพล แบเลเว็ลด์ ซีอีโอของไทยแอร์เอเชีย อาจเครียดจัดจนนอนหลับไม่เต็มตื่น จากปัญหาการเมืองรุมเร้าตกเป็นจำเลยสังคมว่าเป็น "นอมินี" ซื้อหุ้นไทยแอร์เอเชียจากชินคอร์ป แถมผลกำไรติดลบ
(Positioning Magazine สิงหาคม 2551)
“นกแอร์” ปีกหัก
เพียงแค่ 2 เดือน คือช่วงพฤษภาคม – มิถุนายน 2551 นกแอร์ขาดทุนไปแล้ว 104 ล้านบาท จากพิษน้ำมันที่ราคาพุ่งขึ้นมาแตะเกือบ 150 เหรียญสหรัฐ ลบกำไรและความหวังที่มีมาตลอด 3 ปี ว่า “นกแอร์” จะเป็น Fighting Brand ของการบินไทยรักษาฐานลูกค้าอีกกลุ่มนี้ในตลาดโลว์คอสต์แอร์ไลน์ แต่สภาพวันนี้ไม่ต่างอะไรกับ “นก” ที่ปีกหักไปแล้วข้างหนึ่ง ขณะที่บริษัทแม่อย่างการบินไทยในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ 39% เองก็ยังแทบเอาตัวไม่รอด
(Positioning Magazine สิงหาคม 2551)
ปิดฉาก “วันทูโก”
“แอร์โฮสเตส” “สจ๊วต” และพนักงานของสายการบิน “วันทูโก” กว่า 500 คน ที่กำลังบอบช้ำ เพราะอนาคตที่มืดมน และตกงาน หลังจาก “วันทูโก” หมดสิทธิ์เทกออฟบินขึ้นสู่น่านฟ้านับตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม 2551 เป็นต้นมา หลายคนในนี้ แม้จะรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะความผิดพลาดของผู้บริหารเป็นหลัก แต่หาก “น้ำมันไม่แพง” อย่างนี้ อนาคตของพวกเขาและพวกเธอคงไม่มืดมนขนาดนี้
(Positioning Magazine สิงหาคม 2551)
“โลว์คอสต์แอร์ไลน์” ใครจะรอดตาย?
“สายการบินต้นทุนต่ำ” หรือ “โลว์คอสต์แอร์ไลน์” ในเมืองไทยมีผู้โดยสารอยู่ประมาณ 10-12 ล้านคน มูลค่าสูงถึง 6 พันล้านบาท เป็น “ตลาด” ที่เหลืออยู่ของธุรกิจสายการบิน และเป็นจุดวัดความสามารถว่าใครจะเป็น “ผู้อยู่รอดสุดท้าย” เพราะโลว์คอสต์แอร์ไลน์ ได้ลดต้นทุนมาแล้วทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ แต่ “ต้นทุน”น้ำมันที่เพิ่มขึ้นมาตลอดนั้นยากที่จะทำให้เป็น “โลว์คอสต์” ได้
(Positioning Magazine สิงหาคม 2551)
easyJet แบรนดิ้งแบบอีซี่ๆ
easyJet สายการบินทุนต่ำรายใหญ่ของยุโรป (คู่ปรับ Ryanair) เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1995 ด้วยเที่ยวบินระหว่างเมืองลูตัน ประเทศอังกฤษ ไปยังสกอตแลนด์ ถัดมาเพียงปีเดียวก็เปิดเที่ยวบินระหว่างประเทศ ปีต่อๆ มาก็ขยายแบรนด์ easy กระจายสู่ธุรกิจสาขาต่างๆ
(Positioning Magazine พฤษภาคม 2551)
Air Berlin ทุนต่ำแต่ใจใหญ่
กิจการการบินขนาดใหญ่อันดับสองของเยอรมนี กำลังเป็นที่จับตาของสื่อ เพราะการเจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงสองปีที่ผ่านมา เริ่มจากเข้าตลาดหุ้นเมื่อต้นปี พ.ศ. 2549 ระดมทุนราว 71 ล้านยูโร มาขยายกิจการ
(Positioning Magazine ธันวาคม 2550)