ถึงยุค "เหลิม" จอมแฉ Dead Man Walking
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน และประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย อดีตสารวัตรมือปราบที่ผันตัวเองเข้าสนามการเมืองด้วยการเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และได้แยกตัวมาก่อตั้งพรรคมวลชน พร้อมทั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคในปี พ.ศ. 2529 ซึ่งขณะนั้นพื้นที่ กทม.ฝั่งธนบุรี โดยเฉพาะเขตภาษีเจริญและบางบอน ถือเป็นเขตที่แทบจะเรียกได้ว่าผูกขาดตำแหน่ง ส.ส.ของอดีตนายตำรวจผู้นี้
(Positioning Magazine พฤษภาคม 2552)
4 เกลอก๊วนเสื้อแดง The Ambitious
ปราศจากข้อสงสัย สำหรับแวดวงการเมือง บุคคลที่จัดว่า “อยากทรงอิทธิพล”มากที่สุด ต้องยกให้ “ก๊วน 3 เกลอ + 1 เจ๊” ชื่อฉายาที่ถูกเรียกขานกันติดปากของ 4 แกนนำ “ม็อบคนเสื้อแดง” “ วีระ มุสิกพงศ์ - จตุพร พรหรมพันธุ์ - ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ - จักรภพ เพ็ญแข” ซึ่งงานนี้ “กองทัพแดง” เริ่มต้นจากประกาศศักดาอย่างเกรียงไกรมีจำนวนแนวร่วมเรือนแสน แต่ลงเอยกับความปราชัยในที่สุด เพียงไม่กี่เดือนของความพยายามสร้างปรากฏการณ์ย้อนศร “พันธมิตร-รัฐบาล” กับภารกิจโค่นล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย และขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
(Positioning Magazine พฤษภาคม 2552)
"บรรหาร ศิลปอาชา" The Last Scene Power
ระหว่างที่ผ้าสีดำผืนใหญ่คลุมปิดป้ายชื่อพรรคชาติไทย พร้อมกับเสียงสั่นเครือ ตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของ “บรรหาร ศิลปอาชา” และสมาชิกพรรคอีกหลายคน เมื่อบ่ายวันที่ 2 ธันวาคม 2551 ผู้เฒ่าแห่งเมืองสุพรรณบุรีในวัย 76 ปีคนนี้กำลังหัวใจสลาย หลังจากถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคชาติไทย ที่ก่อตั้งมานานถึง 34 ปี จนทำให้ “บรรหาร” กับลูกชาย และลูกสาว พร้อมคีย์แมนที่ขับเคลื่อนพรรครวม 19 คน ต้องเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี แม้จะยังเหลืออิทธิพลอยู่บ้างในการจัดตั้งรัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” แต่เสียงร่ำไห้ในวันนั้นคือสัญญาณว่าถึงเวลาแล้วที่ต้อง “นับถอยหลัง” สำหรับการเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่เคยเป็น “ตัวแปร” ทางการเมืองของ “บรรหาร ศิลปอาชา”
(Positioning Magazine พฤษภาคม 2552)
ผู้เฒ่า "เสนาะ เทียนทอง" The Last Supper
“เสนาะ เทียนทอง” ผู้เฒ่าวังน้ำเย็น เคยเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ดันหัวหน้าพรรค 3 คนขึ้นเป็น “นายกรัฐมนตรี” มาแล้วคือ “บรรหาร ศิลปอาชา” “พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ” และ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” ...แต่เพราะเวลาผ่านไป สิ่งแวดล้อมทางการเมืองไม่เหมือนเดิม นับจากนี้จึงไม่มี “นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล” ในผลงานของ “ผู้เฒ่าเสนาะ” อีกต่อไป แม้เมื่อปลายปี 2551 ท่ามกลางบรรยากาศการเมืองร้อนระอุ เขาจะพยายามโชว์เพาเวอร์สร้างผลงานชิงตั้ง “รัฐบาลเพื่อชาติ” ก็ตาม เพราะสัจธรรมอำนาจมีขึ้นและลง “เสนาะ เทียนทอง” ในวันนี้จึงหมดรูป
(Positioning Magazine พฤษภาคม 2552)
ปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา The lobbyist
แม้ในชีวิตการทำงานของปีย์จะไม่มีตำแหน่งทางการเมือง หรือตำแหน่งทางราชการใดๆ และชื่นชอบการทำงานเงียบๆ แต่ชื่อของ “ปีย์ มาลากุล” ก็ถูกพาดพิง ในเหตุการณ์ทางการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง
(Positioning Magazine พฤษภาคม 2552)
The Yellow Revolution
5 แกนนำของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) “สนธิ ลิ้มทองกุล - พลตรีจำลอง ศรีเมือง -สมศักดิ์ โกศัยสุข - สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ - พิภพ ธงไชย” ได้ใช้ 193 วัน พิสูจน์การเป็นแกนนำภาคประชาชน ต่อต้านระบอบทักษิณ จนได้รับชัยชนะมาแล้ว วันนี้ เขากำลังสวมบทบาท "ผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง" ด้วยโจทย์ใหม่ที่ใหญ่กว่าเก่า การผลักดัน "การเมืองใหม่" ที่ต้องท้าทายกับ "อำนาจใหม่" อันทรงพลังก็ตาม
(Positioning Magazine พฤษภาคม 2552)
“ทักษิณ ชินวัตร” The Power Hunter
ไม่ใช่แค่ต่อสู้เพื่อให้ได้ทรัพย์สิน 7.6 หมื่นล้านบาทที่อ้างว่าเป็นของตนเองคืน ไม่ใช่แค่ต่อสู้หนีจำคุก 2 ปี และไม่ใช่แค่ต่อสู้ทางการเมืองเพื่อหวังกลับสู่อำนาจเท่านั้น เพราะผลจากการกระทำของ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่เปิดเกมรุกอย่างหนักนับตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2551 จนมาถึงวัน “สงกรานต์เดือด” บอกชัดเจนว่า “ทักษิณ” ต้องการมากกว่านั้น จนส่งแรงขับให้เขาทำทุกอย่างถึงขั้นแตะต้องสถาบันเบื้องสูง จุดอ่อนไหวที่สุดของสังคมไทย ไม่พ้นต้องจัดเป็น “ผู้ทรงอิทธิพล” ในด้านมืด ที่ทำลายชื่อเสียงประเทศไทย และทำให้สังคมไทยแตกแยกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
(Positioning Magazine พฤษภาคม 2552)
“สุเทพ เทือกสุบรรณ” The Match Maker
เบื้องหลังความสำเร็จในการก้าวขึ้นสู่ผู้ยิ่งใหญ่ในฐานะผู้นำรัฐบาลคนที่ 27 ของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แน่นอนว่านอกเหนือไปจากความรู้ความสามารถอันถือว่าเป็น “สินทรัพย์ส่วนตัว” ของเขาที่ได้บ่มเพาะสร้างประสบการณ์และต้นทุนทางการเมืองให้กับตัวเองมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว ยังต้องไม่ลืมว่า สุเทพ เทือกสุบรรณ คือบุคคลที่มีบทบาทและมีความสำคัญมากที่สุดที่ผลักดันให้อภิสิทธิ์ได้สมหวัง
(Positioning Magazine พฤษภาคม 2552)
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา The candidate
ขณะที่ม็อบเสื้อแดงกำลังเหิมอย่างหนัก ถึงขั้นบุกที่ประชุมอาเซียนซัมมิต พัทยา ไล่ทุบรถนายกรัฐมนตรี ภายในพื้นที่กระทรวงมหาดไทย โดยมีคำถามมากมายถึงการปล่อยเกียร์ว่างของทหารบางหน่วย และตำรวจ จนเหตุการณ์บานปลาย แต่แล้วรัฐบาลอภิสิทธิ์ พลิกเกมกู้สถานการณ์กลับดีขึ้น และอยู่ในการควบคุมของทหารและรัฐบาลได้ ปิดฉากสงกรานต์เดือดโดยไม่เกิดความรุนแรง หากไม่ใช่เพราะ”บิ๊กตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” เสนาธิการทหารบก อาจจะไม่แฮปปี้เอ็นดิ้งขนาดนี้
(Positioning Magazine พฤษภาคม 2552)
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ! The Big Brothers
ในห้วงเวลานี้ ผู้สันทัดกรณีในแวดวงการเมืองต่างก็ทราบกันดีว่า “พลังสีเขียว” นั้นมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในสงครามรบพุ่งทางการเมืองที่ดำรงอยู่อย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และรัฐบาลที่จะสามารถบริหารอย่างไร้กังวล ทั้งรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต่างก็นั่งควบในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมด้วยกันทั้งคู่ เนื่องจากมีบทเรียนครั้งสำคัญจากการรัฐประหารเมื่อ วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 การจับตาดูความเคลื่อนไหวภายในกรมกองเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง
(Positioning Magazine พฤษภาคม 2552)