มาม่า ถึงเวลาเขย่าซอง ก่อนหมดอายุ
การขึ้นเป็นหมายเลข 1 ของตลาดบะหมี่สำเร็จอย่าง มาม่า ไม่ได้มาด้วยโชคช่วย แต่เป็นการทำงานหนักตลอดหลายสิบปี จากทีมงานทุกๆ ฝ่าย เมื่อขึ้นเป็นที่หนึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าจะอยู่แถวหน้าอย่างสบายอกสบายใจ ถ้าขึ้นเป็นที่หนึ่งว่ายากแล้ว แต่การครองตำแหน่งกลับยากกว่า
(Positioning Magazine 10 กรกฎาคม 2554)
ยำยำสู้สุดตัว
ระหว่างที่กำลังของมาม่า หมูสับ อ่อนตัวลง และไวไว ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการตลาดและสร้างแบรนด์มากนัก ยำยำ ใช้โอกาสที่เปิดกว้างนี้ลุยการตลาดทั้ง Above the line และ Below the line ไล่บี้ แย่งส่วนแบ่งตลาดมาจากมาม่าได้ไปบางส่วน
(Positioning Magazine ตุลาคม 2553)
แข่งกันเป็นที่ 2
ยำยำแผลงฤทธิ์ หวังขึ้นแท่นเบอร์ 2 ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ครองแชร์เท่ากับไวไว หลังรีลอนช์ “ยำยำ จัมโบ้ รสหมูสับ” เปลี่ยนโฉมแพ็กเกจจิ้ง ปรับปรุงสูตรใหม่ใช้วัตถุดิบจริงตามธรรมชาติเป็นส่วนผสม และใช้พรีเซ็นเตอร์ดัง บี้ เดอะสตาร์ หวังดันยอดขายให้พุ่ง
(Positioning Magazine พฤศจิกายน 2552)
ยำยำโฉมใหม่...เปรี้ยวเกินร้อย
การตลาดยุคนี้ต้องครบเครื่อง และใส่ใจทุกรายละเอียด แม้แต่ตัวแพ็กเกจจิ้ง ก็ต้องโดนใจกลุ่มเป้าหมาย หลายสินค้าจึงต้องทุ่มให้กับการปรับ “แพ็กเกจจิ้ง” ให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น เห็นได้จากตลาดบะหมี่สำเร็จรูป ที่ลุกขึ้นมาปรับแพ็กเกจจิ้งกันเป็นแถว ตั้งแต่เจ้าตลาด มาม่า ไวไว ล่าสุดยำยำลงทุนปรับครั้งใหญ่ โดยทุกรายมุ่งไปที่ตลาดวัยรุ่น ซึ่งเป็นตลาดที่การอัตราการเติบโตสูงสุดทั้งสิ้น
(Positioning Magazine มกราคม 2550)
“ยำยำ” ต้องทูอินวัน
ในฐานะผู้บุกเบิกตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในเมืองไทย เมื่อ 33 ปีที่แล้ว “ยำยำ” จากบริษัท วันไทยอุตสาหกรรมการอาหาร จำกัด จะอยู่รั้งอันดับ 3 อย่างขอไปทีคงจะเสียชั้นเชิงน่าดู ดังนั้นจึงทิ้งทวนรับปีใหม่ด้วยการนำยำยำ จัมโบ้ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ขายดีของบริษัท มาเสริมเขี้ยวเล็บต่อยอดเป็น “ยำยำ จัมโบ้ ทูอินวัน”
(Positioning Magazine ธันวาคม 2548)