ทางออกที่ตีบตันของสหธนาคาร
ปิยะบุตรและบรรเจิด ชลวิจารณ์ 2 พ่อลูกกำลังปวดหัวอยู่กับการหาทางออกให้แบงก์สามารถ เพิ่มทุนอีก 8 ล้านหุ้น แต่ฝ่ายพันธมิตรเอบีซีซึ่งถือหุ้นอยู่ 41% คัดค้าน เนื่องจาก "ชลวิจารณ์" ทั้งสองยังไม่สามารถเจรจาตกลงยุติปัญหาหุ้นจำนวน 500,000 หุ้น ของเอบีซีที่ถูกอายัดและฟ้องร้องกันในศาลได้ สงครามเทคโอเวอร์ของกลุ่มผู้ถือหุ้นยังดำเนินต่อไปโดยมีสถานการณ์ของธุรกิจธนาคารเป็นฉาก
(นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2534)
สงครามยึดแบงก์สหธนาคาร
เกมการช่วงชิงอำนาจบริหารที่สหธนาคารเริ่มปะทุมาตั้งแต่เมื่อต้นปี 2528
แต่เหตุการณ์ไม่ได้รุนแรงจนถึงขั้นแตกหัก ทั้งนี้เพราะได้มีการประนีประนอมจัดสรรแบ่งอำนาจกันได้ระดับหนึ่ง
แต่นับจากวันนั้นเรื่อยมาทุกฝ่ายก็รู้กันเป็นนัยว่า ในไม่ช้าจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้นเป็นแน่
(นิตยสารผู้จัดการ พฤษภาคม 2532)
“ตราบใดผมยังไม่ตาย ผมยังคุมแบงก์ตลอดไป..”
บรรเจิด ชลวิจารณ์ เพิ่งทำบุญวันเกิด 72 ปีเกือบอย่างเงียบ ๆ ไปเมื่อวันที่
29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาหมาด ๆ ณ บ้านพักบนเนื้อที่ 20 ไร่ ในซอยอัฐมิตรหลังสำนักงานสหธนาคาร
สาขาบางเขน
(นิตยสารผู้จัดการ มีนาคม 2529)
NEW GENERATION อยากให้ปิยะบุตร-เศรณี-กรพจน์ จับมือกัน
สหธนาคารเป็นธนาคารที่เหลือไม่กี่แห่งที่บริหารงานโดย GENERATION เดียว เหตุผลหนึ่งที่น่ากล่าวถึง คือ บรรเจิด ชลวิจารณ์ และชำนาญ เพ็ญชาติ ผู้ถือหุ้นใหญ่
(ที่มีเหตุผลชอบธรรม) บริหารธนาคารนี้ปัจจุบันทายาทของตระกูลอายุน้อยเกินไป
(นิตยสารผู้จัดการ มีนาคม 2529)