สนธิ ลิ้มทองกุล - gotomanager.com - นิตยสารผู้จัดการ 360°

สนธิ ลิ้มทองกุล "ผมจำเป็นต้องถอยมาตั้งหลัก" ไตรมาส 4 ปี 2537 "ผู้จัดการ" ภายใต้ชื่อใหม่ "เดอะแมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป" ขาดทุน 166 ล้าน มาปี 2538 เฉพาะไตรมาสแรกขาดทุนไปแล้ว 157 ล้าน ตามมาด้วยข่าวการเลย์ออฟพนักงาน 20% แต่ขณะเดียวกันบริษัทก็เตรียมการลงทุนออกหนังสือพิมพ์รายวันฉบับใหม่(นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2538)

"เอ็มกรุ๊ป เป็นนักฉวยโอกาส" ในต่างประเทศ ปัจจุบันคุณสนธิมีสิ่งพิมพ์กี่ฉบับ ภาษาต่างประเทศ รวมกันประมาณ 12 ฉบับ ส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคนี้ ในอเมริกามีฉบับหนึ่งชื่อ BUZZ ไม่ขาดทุน เริ่มอยู่ตัว จะมีคนมาขอซื้อ 25 ล้านเหรียญ เราไม่ขาย เพราะราคามันน่าจะได้(นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2538)

เอเอ็นเอ็น อนาคตของบรอดคาสติ้งเอเซียแปซิฟิก "ผู้จัดการ" เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการประมูลทีวีเสรีในช่วงสมัยนายกรัฐมนตรีอานันท์ ปันยารชุน แล้วสักพักหนึ่งก็หายเงียบไปจนดูเหมือนว่า ผู้จัดการ" จะไม่เข้าสู่วงการโทรทัศน์อีกแล้ว ทำไมเป็นเช่นนั้น(นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2538)

เชิดศักดิ์-ทักษิณ-สนธิ เสือสามตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้? คุณเคยเข้าไปถือหุ้นในบริษัทผลิตอิเล็กทรอนิกส์ และเคยรวมธุรกิจนี้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของเอ็มกรุ๊ป คุณยังสนใจที่จะขยายเข้าไปสู่ธุรกิจประเภทนี้ต่อหรือไม่(นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2538)

"เฉลิม อยู่บำรุง เหมาะเป็นนายกฯที่สุด" คุณจะเล่นการเมืองหรือไม่ พูดไม่ได้ ยังไม่เล่นตอนนี้ อย่างน้อยอีก 7 ปี ไม่เล่น ทำไมถึง 7 ปีใช่ไหม เพราะผมมีความเชื่อมั่นว่าระบบปัจจุบัน ใน 7 ปีมันเจ๊งแน่นอนผมจะเข้าไปเล่นการเมืองต่อเมื่อการเมืองเปิดโอกาสให้คนอย่างผมเล่นได้(นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2538)

"เราไม่ได้ใหญ่เลย แต่เราเป็นตัวของเราเอง" คุณสนธิและเอ็มกรุ๊ปขยายงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ คุณมีหลักการอย่างไร จริงๆ แล้วพ่อผม คือผมอ้างพ่อผมอยู่เรื่อย เพราะพ่อผมเป็นคนซึ่งมีลักษณะเป็นคนโบราณ(นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2538)

"คนเกลียดไม่ค่อยมี แต่คนหมั่นไส้เยอะ" คุณคิดว่าคุณมีภาพเป็นคนเอเชียมากกว่าคนไทยใช่ไหม มีภาพเป็นคนเอเชีย แต่ใจยังเป็นคนไทยอยู่ คุณคิดว่าคนอื่นจะพูดถึงคุณว่าอย่างไร(นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2538)

"วันหนึ่งผมจะต้องกลับไปบวช" คุณคิดว่าอะไรเป็นที่สุดของชีวิต แล้วคุณได้ตรงนั้นหรือยัง ชนะหรือยัง เอาอย่างนี้ดีกว่า เคยมีคนถามผมตลอดเวลา คือผมไม่เคยคิดว่าสิ่งที่ผมทำนั้นจะประสบความสำเร็จแล้ว เพราะผมไม่ได้ถือว่าความสำเร็จคือสิ่งที่ผมต้องการจะตั้งเป้าไว้ ความสำเร็จอยู่ตรงไหนเราวัดกันตรงนั้น(นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2538)

ต้องแพ้เสียก่อนถึงจะชนะได้ เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ไม่น่าจะต้องมาเกี่ยวพันกับผมหรือกับแอ็ดวานซ์มีเดียเลย แต่ผลกระทบของมันทำให้การทำงานของผมต้องยากลำบากมากกว่าเก่า(นิตยสารผู้จัดการ มีนาคม 2527)

" ต้องแพ้เสียก่อน เราถึงจะชนะได้" เข้าสู่สังคม เอ๊กเซ็คคิวทีฟ พ่อแม่และทุกคนในครอบครัว คิดว่าผมน่าจะทำงานกับฝรั่งคงจะไปได้ดี แต่ผมรู้ว่าทุกคนเป็นห่วงชีวิตผมกับงานหนังสือพิมพ์ เพราะในระหว่างที่ผมทำหนังสือพิมพ์ประชาธิปไตยนั้น ชีวิตมันแขวนอยู่บนเส้นด้ายจริงๆ เพราะยุคนั้นเป็นยุคมืดยุคหนึ่ง(นิตยสารผู้จัดการ ธันวาคม 2526)