"มิสทิน" หลังสิ้นยุคอมรเทพ ถึงเวลาที่สหพัฒน์ต้องออกหน้า
เมื่ออมรเทพ ดีโรจนวงศ์ ผู้ก่อตั้งและปลุกปั้นธุรกิจเครื่องสำอางค์มิสทินจนติดตลาด ต้องเสียชีวิตลงด้วยวัยเพียงไม่ถึง 60 ปี ทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า อนาคตของมิสทินในช่วงหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร
(นิตยสารผู้จัดการ กันยายน 2543)
"อมรเทพ ดีโรจนวงศ์ สร้างฝันสหพัฒน์ให้เป็นจริง"
"เปลี่ยนได้หากเป็นมิสทีน" สโลแกนใหม่ของ "มิสทีน" และพรีเซนเตอร์ใหม่จากเดิมที่เคยใช้สาว ๆ หน้าหวานเคาะประตูหน้าบ้านพร้อมกับสโลแกน "มิสทีนมาแล้วค่ะ" มาเป็นชายหนุ่มวัยดึก นามอมรเทพ ดีโรจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทเบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยท่าทีที่มาดมั่น เน้นให้เห็นถึงการทำจริง
(นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2537)
"มิสทีน : ปฏิบัติการไล่ล่าเอวอน"
"มิสทีนมาแล้วค่ะ" ประโยคสั้นๆ อันเป็นสโลแกนของบริษัทเบทเตอร์เวย์(ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทขายตรงปรากฏสู่จอทีวีเมืองไทยเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ได้สร้างความฮือฮาให้กับวงการเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นครั้งแรกที่ธุรกิจขายตรงริเริ่มใช้การโฆษณามาเป็นกลยุทธ์สำคัญในการต่อสู้กันเองในตลาดขายตรง จนทำให้เอวอน เครื่องสำอางขายตรงที่เป็นผู้นำตลาดมานับ 10 ปีในขณะนั้น ต้องหันมาต่อกรด้วยวิธีเดียวกัน
(นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2536)
"อมรเทพ ดีโรจนวงศ์ มือขายตรงเปลี่ยนทางเดิน"
เมื่อเอ่ยถึงอมรเทพ ดีโรจนวงศ์ สิ่งที่คู่กันมาก็คือเอวอน นับแต่นี้ อมรเทพกับเอวอนก็เหลือเป็นเพียงความทรงจำของกันและกันเท่านั้น
เมื่ออมรเทพได้ลาออกจากเอวอนเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา (31 ธันวาคม 2530)
(นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2531)
อมรเทพ ดีโรจนวงศ์ สั่งลาเอวอน "ฤาถึงการเปลี่ยนแปลง!?
โลกในปี พ.ศ.2429 ผู้หญิงส่วนใหญ่ยังถูกหน่วงเหนี่ยวจอมจำทางความคิดที่ตีตราค่าชั้นให้เป็นเพียงตัวแทนทางเพศ
ที่ต้องทำหน้าที่เพียงทำงานบ้านแลปรนนิบัตครอบครัวเท่านั้น คุณค่าและความงามแท้จริงถูกกลืนกลบลบหายไปกับข้ออัปยศทางสังคม
(นิตยสารผู้จัดการ ธันวาคม 2530)