โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฏ์ "การพัฒนา SMEs ต้องทำครบวงจร"
"เงินกู้บัวหลวง เพื่อ SMEs" เป็นโครงการสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก
(SMEs) โครงการล่าสุดที่ธนาคารกรุงเทพได้เปิดให้บริการตั้งแต่เมื่อวันที่
16 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อให้สินเชื่อระยะยาวกับผู้ประกอบการนำไปใช้ในการลงทุน
ขยายกิจการ และปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต
(นิตยสารผู้จัดการ มิถุนายน 2544)
สามแบงก์ยักษ์ใหญ่กับการฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ
วิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ทำให้ธนาคารพาณิชย์แทบสูญพันธุ์
มีเพียงธนาคาร 3 แห่ง ที่เป็นไทยแท้ และบาดแผลจาก
การฝ่าฝันกระแสพายุเศรษฐกิจ นับว่าสร้างความเสียหายให้ไม่น้อย
(นิตยสารผู้จัดการ มีนาคม 2544)
ธนาคารไทยยุคก่อนล่มสลาย (2505-2540)
ธนาคารกรุงเทพ กสิกรไทย ศรีนคร ไทยพาณิชย์ เป็นโมเดลตัวอย่างสำคัญในการเข้าใจความสำเร็จ ความล้มเหลว และการปรับตัวของธนาคารไทย เมื่อต้องเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 จนระบบธนาคารไทยแบบดั้งเดิมต้องสลายตัวลง
(นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2543)
จุดจบแบงเกอร์ไทย โฉมใหม่อุตสาหกรรมธนาคาร
14 สิงหาคม เป็นวันที่หลายคนรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ แม้จะมีข้าวแพลมออกมาเป็นระยะๆ
เกี่ยวกับมาตรการแก้ไขปัญหาของสถาบันการเงินที่ไม่สามารถเพิ่มทุนได้ด้วยตัวเอง
และแนวทางการดำเนินการธนาคาร 4 แห่ง ที่รัฐบาลประกาศเข้ายึดอำนาจการบริหารและการถือหุ้นเมื่อ
23 ม.ค. (ธ.ศรีนคร) และ 6 ก.พ. 2541 (ธ.นครหลวงไทย, ธ.มหานคร และ ธ.กรุงเทพฯ
พาณิชย์การ) แต่ปฏิบัติการจริงๆ เริ่มได้หลังเจรจาปรึกษากับเจ้าที่ไอเอ็มเอฟและเอดีบี
- เจ้าของเงินกู้รายใหญ่ของประเทศไทยตอนนี้
(นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2541)
BBL วิ่งสู้ฟัด หันจับลูกค้าคอร์ปอเรท
ในภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง แม้ยักษ์ใหญ่ในวงการธนาคารพาณิชย์อย่างธนาคารกรุงเทพจะกระเทือนไม่มากนัก
ยังต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดด้วยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ Purchasing Card บัตรเครดิตเพื่อตลาดคอร์ปอเรทโดยเฉพาะ
เพราะอนาคตภายหน้ายังไม่มีใครทำนายได้ว่าเศรษฐกิจประเทศจะโงหัวขึ้นหรือหักหัวดิ่งลงเหว
(นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2540)
รัชนีพรรณ ยุกตะเสวี ผู้จัดการบริหารกองทุนสำรองเลื้ยงชีพของ BBL
"กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นวิธีการระดมเงินออกเพื่อใช้พัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมได้ทางหนึ่งและประเทศไทยเองก็ยังมีโอกาสที่จะระดมเงินออมในลักษณะนี้ได้อีกมาก
เพราะในปีที่ผ่านมายอดคงค้างของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มีอยู่แล้วในระบบมีไม่ถึง
1.5% ของรายได้ประชาชาติ ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมาก และมีผู้เข้าร่วมกองทุน
หรือผู้ร่วมในการออมแบบนี้ประมาณร้อยละ 2 ของแรงงานทั้งหมด"
(นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2539)
"นิตยา วิรัชพันธ์ ผู้เปิดฉาก "ไพรเวทแบงกิ้ง"
ด้วยกลยุทธ์ง่าย ๆ "นิตยา วิรัชพันธุ์" สามารถฉ้อโกงแบงก์กรุงเทพมาได้เป็นเงินถึง
266 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ เพียงแต่นิตยานั่งทำงานในส่วนที่ไม่ธรรมดา "ไพรเวทแบงกิ้ง"
เป็นธุรกิจที่เป็นหน้าเป็นตาของแบงก์กรุงเทพและเป็นการันตีแห่งความน่าเชื่อถือในตัวนิตยา
มาวันนี้นิตยาปิด "ธนาคารส่วนตัว" ของเธอพร้อมกับทำลายความน่าเชื่อถือของไพรเวทแบงกิ้งอย่างยับเยิน
นิตยาเป็นใคร เธอทำได้อย่างไร เงินหายไปไหน? ตั๋วบี/อีปลอมระบาดไปแค่ไหน?
(นิตยสารผู้จัดการ พฤษภาคม 2539)
"ไพรเวท แบงกิ้ง ทำไมหละหลวมถึงขนาดนี้ ?"
"ทำไมนิตยาจึงโกงได้บ่อย ๆ เป็นปี แสดงว่าระบบการตรวจสอบไม่ชัดเจนทั้ง ๆ ที่เรื่องโกงนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2536 คือตั๋วบี/อีของลูกค้ารายหนึ่งเริ่มมีปัญหา แต่ลูกค้าซึ่งเป็นคุณยายรายนั้นไม่ไหวตัว เพราะยังได้รับดอกเบี้ยตามสัญญาทุกเดือนจนกระทั่งแกมารู้จากหนังสือพิมพ์เจอประกาศแจ้งจับ แกจึงมาร่วมแจ้งความด้วย นั่นแสดงว่าถ้าคุณนิตยาหมุนเงินได้ทันเรื่องก็ไม่แดงออกมาและเรื่องนี้อย่าให้คิดเลยว่าจะเสียหายมากมายกว่านี้สักแค่ไหน
(นิตยสารผู้จัดการ พฤษภาคม 2539)
"ตั๋วบี/อี มหาภัย ระวังโง่-งก-เงิน"
จากตั๋วบี/อีปลอมกระดาษแผ่นเดียวหลายกอปปี้ที่เขียนข้อความว่า "ตั๋วแลกเงิน" (BILL OF EXCHANGE) ของบริษัทปราณบุรี พร๊อพเพอร์ตี้ส์ ที่สุรพงษ์ ใจงาม กรรมการผู้จัดการ เซ็นชื่อเป็นผู้รับรองการจ่ายเงินและสั่งจ่ายแบบ WITHOUT RECOURSE ที่ไม่ต้องรับผิดชอบกรณีตั๋วเงินถูกปฏิเสธ กลายเป็นเรื่องไฟลามทุ่งที่ขยายไปถึงตลาดซื้อขายตั๋วแลกเงินที่กำลังสะพัดมูลค่าถึง 3-4 แสนล้านบาท
(นิตยสารผู้จัดการ พฤษภาคม 2539)