"ก่อน 'เยลโล่ เพจเจ็ส' จะปิดหน้า"
16 กรกฎาคม 2527 องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ทศท.) เปิดซองประกวดราคาจัดทำสมุดโทรศัพท์
มีผู้ยื่นซอง 4 ราย จีทีดีซี, เอทีแอนด์ที, เอทีทีไอไทยมีเดีย และสยามเทเลโฟนไดเรคตอรี่
(นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2531)
ศึกหน้าเหลืองเอทีแอนด์ที ภาค 2 (ศรีกรุงวัฒนาภาค 1)
"สิทธิในการจัดพิมพ์สมุดรายนามผู้ใช้โทรศัพท์" (โดยเฉพาะหน้าเหลือง)
ซึ่งตกเป็นข่าวอื้อฉาวในรอบปีที่ผ่านมานั้น ทำให้ประชาชนทั่วไปเกิดความสับสนก่อเกิดคำถามซ้อนคำถามที่ตามมาอย่างมากมายทีเดียว
(นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2530)
สมุดหน้าเหลืองเอทีแอนด์ทีประกาศความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานี้ บริษัทเอทีแอนด์ที ไดเร็คทอรี่ส์
(ประเทศไทย) จำกัด โดยโธมัส เอ็น เวลซ์ กรรมการผู้จัดการและคณะผู้บริหารอีกหลายคนได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนขึ้นที่สำนักงานของเอทีแอนด์ทีชั้น
10-11 อาคารอัมรินทร์ทาวเวอร์
(นิตยสารผู้จัดการ ธันวาคม 2528)
สงครามชิงสมุด "หน้าเหลือง"
เอทีแอนด์ที (AT&T-American Telephone and Telegraph Corp.) เป็นกลุ่มธุรกิจที่ยิ่งใหญ่อย่างมากกลุ่มหนึ่ง จีทีดีซี (GTDC-General Telephone Directory Company) ก็เป็นกลุ่มที่เรียกได้ว่าไม่เล็ก
(นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2527)
สมุดโทรศัพท์ "หน้าเหลือง" ทุกหน้ามีราคาเป็นเงินเป็นทอง
ธุรกิจการจัดพิมพ์สมุดรายนามผู้ใช้โทรศัพท์เป็นธุรกิจที่อาจจะเรียกได้ว่า
ดำเนินไปเงียบๆ ตลอด 17 ปี (2510-2517) ที่ผ่านมา ทั้งนี้ก็โดยมีบริษัทเยนเนราลเทเลโฟนไดเรคทอรี่
(GTDC)เป็นผู้ได้รับสิทธิ์จากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยมาตลอด
(นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2527)
ฮู' ส ฮู อินเยลโลวเพจส์บิดดิ้ง
บริษัทสยามเทเลโฟนไดเรคทอรี่ จำกัด จัดตั้งเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2526 ทุนจดทะเบียนเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาท
แบ่งเป็นจำนวนหุ้น 1,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1,000 บาท
(นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2527)
AT&T ยุทธการเปิดแนวรบทุกด้าน
การรุกเข้ามายึดหัวหาดในองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ทศท.) ของกลุ่มเอทีแอนด์ที
หรือ American Telephone and Telegraph Corp. คงจะพอพูดได้ว่าเป็นยุทธการเปิดแนวรบทุกด้านโดยไม่พรั่นว่า
ใครหน้าไหนจะยืนประจันอยู่ตรงแนวรบแต่ละด้านนั้นๆ
(นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2527)
สมุดหน้าเหลืองในสหรัฐฯ ก็สู้กันจนหยดสุดท้ายเหมือนกัน
การจัดทำสมุดรายนามผู้ใช้โทรศัพท์โดยเฉพาะ "หน้าเหลือง" นั้น ในสหรัฐฯ
ถือกันว่าไม่ใช่ธุรกิจธรรมดาๆ แต่มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันขายหน้าโฆษณามูลค่า 4.1 พัน
ล้านเหรียญ(94,300 ล้านบาท)ซึ่งค่อนข้างจะเหลือเชื่อเอามากๆ
(นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2527)