เตือน!ระวังทุนนอกไหลออก
ธปท.เผยนักลงทุนไทยแห่ซื้อ อสังหาริมทรัพย์ในต่างแดนเพิ่มขึ้น หลังเจอพิษวิกฤตเศรษฐกิจฉุดให้ราคาอสังหาฯ ถูกลง ประกอบกับค่าเงินประเทศเหล่านั้นอ่อนลง ล่าสุด 3 เดือนแรกของปีนี้มีการลงทุนส่วนนี้ไปแล้ว 3,200 ล้านบาท เช่นเดียวกับบางภาคอุตสาหกรรมที่ติดข้อจำกัดวัตถุดิบหรือแรงงานที่ไม่สามารถ สู้ตลาดการผลิตในประเทศได้หันมาย้ายการผลิตในต่างประเทศมากขึ้น เพื่อหาต้นทุนการผลิตที่ต่ำก็ยังมีต่อเนื่อง ระบุปีที่ผ่านมา มีเงินทุนไทยออกไปลงทุนนอก 1.3 แสนล้านบาท
(ASTV ผู้จัดการรายวัน 12 เมษายน 2553)
ทุ่มสกัดบาทแข็ง แบงก์ชาติปล่อยผี ลงทุนนอกไม่อั้น!!!
ธปท.เผยเล็งผ่อนคลายหลักเกณฑ์เงินทุนไหลออกเพิ่มเติม หวังเปิดโอกาสให้คนไทยหาผลตอบแทนและกระจายความเสี่ยง โดยวางแผนแบบระยะสั้น 1-2 ปี เปิดช่องให้คนไทยถือสกุลเงินตราต่างประเทศไม่จำกัดเวลาและปริมาณเงิน ซื้อเงินดอลลาร์สะสมได้เพิ่มขึ้น เพิ่มวงเงินให้กองทุน FIF และ FDI รวมถึงลดขนาดบริษัทที่มีสินทรัพย์ 2,000 ล้านบาทขึ้นไปสามารถลงทุนในต่างประเทศได้และเพิ่มวงเงิน ขณะที่แผนระยะยาวเน้นให้รายย่อยป้องกันความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
(ASTVผู้จัดการรายวัน 16 พฤศจิกายน 2552)
ธปท.หนักใจบาทแข็ง
แบงก์ชาติเหนื่อยใจบาทแข็งต่อเนื่อง แฉพ่อค้าทองอาศัยจังหวะราคาทองคำพุ่ง ส่งออกไปขายเมืองนอก นำดอลลาร์มาแลกกดดันค่าเงิน ประกอบกับเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นต่อเนื่อง ล่าสุดยอดตั้งแต่ต้นปีสุทธิ 6 หมื่นล้าน ยันภาพรวมเงินบาทเกาะกลุ่มเพื่อนบ้านแข็งค่าแค่ 4% ล่าสุด 33.30 บาทต่อดอลลาร์
(ASTVผู้จัดการรายวัน 9 ตุลาคม 2552)
แบงก์ชาติชี้เศรษฐกิจฟื้นหวั่นเงินทุนทะลักเข้าเตือนเอกชนรับมือความผันผวน
ธปท.เผยเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณดีขึ้น ส่งผลเงินทุนจากต่างประเทศเริ่มไหลเข้าต่อเนื่อง ระบุตั้งแต่ต้นปีมียอดไหลเข้าแล้ว 3 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนไหลออก 1.4 แสนล้านบาท แนะภาคธุรกิจปรับตัวรองรับความผันผวนเกิดขึ้น เผยหลังผ่อนเกณฑ์ลงทุนมีบริษัทขนาดใหญ่ 3 แห่งลงทุนต่างประเทศแล้ว 210 ล้านดอลล์ พร้อมเตรียมผ่อนเกณฑ์เพิ่ม หวังขจัดอุปสรรคลงทุน
(ASTVผู้จัดการรายวัน 9 กันยายน 2552)
ธปท.จับตาบาท2เดือน-ก่อนเข็นมาตรการใหม่
แบงก์ชาติขอดูผลการผ่อนคลายมาตรการสกัดบาทแข็ง 2-3 เดือนก่อนตัดสินใจออกมาตรการใหม่ เผยตลาดอยู่ระหว่างปรับตัว ยอมรับบาทยังคงผันผวนตามดอลลาร์อยู่
( 11 สิงหาคม 2552)
แบงก์ชาติเล็งทบทวนจีดีพี
แบงก์ชาติจะทบทวนประมาณการเศรษฐกิจใหม่ในการประชุม กนง. 3 ธ.ค. ตามสถานการณ์โลกที่คาดว่าจะซบเซาต่อเนื่อง ย้ำมาตรการด้านการคลังเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปีหน้า โดยเฉพาะการรับมือปัญหาการว่างงาน ระบุค่าเงินบาทตอนนี้ยังอยู่ในระดับที่สนับสนุนทั้งนำเข้าและส่งออก ส.อ.ท.หวัง กนง. ลดดอกเบี้ย 0.5-1% ร้องรัฐผลักดันแรงงานต่างด้าวออกจากประเทศ ลดอัตราว่างงาน ผลสำรวจนักธุรกิจ ระบุอสังหาริมทรัพย์มีสิทธิ์ปลดคนงานมากสุด ม.หอการค้าไทย คาดปีหน้าจีดีพีโตแค่ 3.1% ส่งออก 0%
(ผู้จัดการรายวัน 14 พฤศจิกายน 2551)
แบงก์ไทยผสมโรงเก็งบาท ธปท.ฮึ่ม!แทรกแซงแตะ 33
ธปท.แถลงพบ "แบงก์พาณิชย์ไทย-ต่างประเทศ" รวม 4 ราย เก็งกำไรบาทอ่อนค่า ใช้ช่องโหว่ที่ธปท.อนุญาตให้นำเงินบาทแลกเงินดอลลาร์สหรัฐออกไปสร้างประโยชน์หลังบาทเริ่มแข็งค่า พร้อมยอมรับเข้าไปแทรกแซงต่อเนื่อง ชี้ใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนดูแลเงินเฟ้อสูง เผยวานนี้ ธปท.ปรามและแทรกแซงอยู่หมัดจนบาทกลับมาแข็งค่าที่ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ แฉแบงก์พาณิชย์ตัวดีเป็น "ขาประจำ" คอยฟันกำไรส่วนต่าง
(ผู้จัดการรายวัน 11 มิถุนายน 2551)
บาทอ่อนสุดรอบ2เดือนครึ่ง
ค่าเงินบาทร่วงแตะ 32.22 บาทต่อดอลล์ อ่อนสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง หลังหลุดแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 32.00 แบงก์ชาติชี้เป็นไปตามทิศทางค่าเงินภูมิภาค และบริษัทน้ำมันที่เร่งซื้อน้ำมันเข้ามามาก ระบุไม่น่าตกใจยันปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจยังดีอยู่ พร้อมจับตาเงินทุนไหลออกหลังมีเงินไหลเข้าช่วงยกเลิกมาตรการ 30% ด้านแบงก์ชี้บาทอ่อนเหตุนักลงทุนคาดกนง.-เฟดคงดอกเบี้ยในการประชุมครั้งที่จะถึงนี้
(ผู้จัดการรายวัน 13 พฤษภาคม 2551)
ธปท.โว 30% สกัดเก็งบาท ผ่อนผันกองทุนอสังหาฯ แล้ว
ธปท.แถลงผลงานหลังมาตรการ 30% ครบ 1 ปี ฟุ้งช่วยค่าบาทมีเสถียรภาพ-ลดเงินทุนไหลเข้ามาเก็งกำไร โดยช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มีเงินทุนไหลเข้า 6,958ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับปี49 ที่มีเงินทุนไหลเข้ามากถึง 13,616 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมทั้งผ่อนคลายมาตรการสำรอง30%เพิ่มเติม โดยเฉพาะกองทุนอสังหาฯ และคลายกฎเงินทุนขาออก
(ผู้จัดการรายวัน 18 ธันวาคม 2550)
ธปท.รับเงินบาทแข็งแต่ไม่น่าห่วง
ธปท.ยอมรับค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากผู้ส่งออกที่เทขายเงินดอลลาร์ เชื่อไม่น่าห่วงเป็นไปตามธปท.คาดว่าทั้งปีค่าเงินบาทจะแข็งค่าตามทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นๆของภูมิภาคเอเชีย ด้านนักค้าเงินระบุค่าเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 7.5 หยวนต่อดอลลาร์ไม่กระทบต่อค่าเงินบาทแน่นอน
(ผู้จัดการรายวัน 25 ตุลาคม 2550)