PRANDAอ่อยรับปีนี้รายได้ลด15%
แพรนด้ายอมรับปีนี้รายได้ลดลง 15% ควันหลงการเมือง ปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบธุรกิจอัญมณี คาดการณ์กำไรใกล้เคียงกับปีก่อน เน้นผลิตสินค้าเพิ่มมาร์จิ้นประเภทกลุ่มงานเครื่องประดับเงิน ดันผลงาน 6 เดือนหลังโตกว่าช่วงแรก
(ASTVผู้จัดการรายวัน 20 สิงหาคม 2552)
แพรนด้าฯชี้ยอดขายโตติดลบ
แพรนด้าฯปรับเป้ายอดขายปีนี้โตติดลบเพิ่มเป็น 10%จากเดิมลบ 5% เนื่องจากราคาทองคำในตลาดโลกสูง ทำให้ลูกค้าหันไปสั่งซื้อเครื่องประดับที่ทำจากเนื้อเงินแทน มั่นใจคงอัตรากำไรขั้นต้นไว้เท่าเดิม ชี้ปีนี้ราคาทองคำสูงกว่าปีก่อน 12% ขณะที่เนื้อเงินลดลง 16%
(ผู้จัดการรายวัน 13 มีนาคม 2552)
PRANDAตั้งเป้ายอดขายโต12% หลังปี48เจอพิษราคาน้ำมัน-ทองพุ่งฉุดกำไร
แพรนด้า จิวเวลรี่ มั่นใจยอดขายปี 49 โต 12% ไม่หวั่นปี 48 พลาดเป้าเติบโตเพียง 7% เหตุราคาน้ำมันและทองคำพุ่ง ส่งผลให้ลูกค้าชะลอการสั่งซื้อสินค้า ปีนี้เดินหน้าอัดงบ 70 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิตและซื้อเครื่องจักรใหม่สร้าง VALLUE ADD ให้สินค้า ยันจะรักษาระดับกรอสมาร์จินไว้ไม่ต่ำกว่า 35% แม้ราคาต้นทุนทะยานแต่ผลักภาระให้ลูกค้าได้
(ผู้จัดการรายวัน 3 กุมภาพันธ์ 2549)
แพรนด้าคาดรายได้ปีนี้โต10-15% ผลการขยายฐานส่งออกลูกค้าเพิ่ม
แพรนด้า จิวเวลรี่ คาดรายได้ปีนี้โต 10-15% ผลจากการขยาย ตลาดส่งออกเพิ่มทั้งจีน อินเดีย และเวียดนาม ยันไม่ปรับขึ้นราคาจิวเวลรี่ แม้ราคาทองจะพุ่งสูง หวังสร้างมาตรฐานราคา ขณะที่พรีม่าโกลด์ฯ บริษัทย่อยยังทำ รายได้เข้าสู่บริษัทแม่ต่อเนื่อง คาดปีนี้เติบโตอีก 15% จากปี 48 ที่ทำรายได้ไว้ประมาณ 500 ล้านบาท
(ผู้จัดการรายวัน 11 มกราคม 2549)
แพรนด้ารุกตปท.ร่วมทุนโครลล์ลุยเครื่องประดับเงิน
แพรนด้า จิวเวลรี่ขยายตลาดสู่ต่างประเทศ ประกาศร่วมลงทุนกับโครลล์จากเยอรมนีจัดตั้งบริษัทใหม่ เน้นผลิตและขายเครื่องประดับเงิน คาดเปิดตัวแบรนด์อินเตอร์ได้ในก.พ.นี้ ส่วนพรีม่าโกลด์ในไทยเตรียมทุ่มงบ 50 ล้านบาทขยายสาขา 3 แบรนด์ พรีม่าโกลด์, พรีม่าไดมอนด์ และเซ็นจูรี่ โกลด์ พร้อมอัดงบการตลาด 20 ล้านบาท เชื่อว่าราคาทองในช่วงตรุษจีนปีนี้จะไม่มีการปรับขึ้นแบบหวือหวา หลังจากที่ผ่านมาราคาทองเพิ่ม 8-10% ด้านตลาดส่งออกเตรียมรุกมากขึ้น คาดยอดขายปีนี้โตขึ้น 15%
(ผู้จัดการรายวัน 11 มกราคม 2549)
แพรนด้าเร่งเปิดรง.ในจีนรับผลดีหากเพิ่มค่าหยวน
แพรนด้าฯ ชี้โรงงานผลิตเครื่องประดับในจีนได้ผลดี หากปรับขึ้นค่าหยวน ทำให้ต้นทุนทางการเงินต่ำลง
และอำนาจซื้อลูกค้า เพิ่มขึ้น คาดโรงงานในจีนผลิตได้ปลายกุมภาพันธ์นี้ ตั้งเป้าหมายปีแรก
1.2 แสนชิ้น และผลิตเต็มกำลังผลิต 9 แสนชิ้น ภายใน 7 ปี ควักอีก 40-50 ล้านใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
ส่วนแผนเข้าไปลงทุนในอินเดีย ยังไม่เร่งรีบ เพราะอยู่ระหว่างหาพันธมิตรร่วมทุน
(ผู้จัดการรายวัน 19 มกราคม 2547)