"อุ๋ย"ส่งสัญญาณขึ้นอาร์พี กังวลน้ำมันปัจจัยเสี่ยงศก.
หม่อมอุ๋ยส่งสัญญาณขึ้นอาร์/พีอีก 0.25% ในการประชุมคณะกรรมการนโยบาย การเงิน 18 ม.ค.นี้ เชื่อเศรษฐกิจปี 49 ขยายตัวได้ถึง 5% การส่งออกเป็นตัวนำแนะรัฐบาลวางยุทธศาสตร์ ประหยัดพลังงาน-ลดการนำเข้า เหตุน้ำมันยังเป็นปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจปีนี้
(ผู้จัดการรายวัน 17 มกราคม 2549)
เตือน "นักลงทุน-ภาคธุรกิจ" รับมือดบ.ครึ่งปีแรกทะยาน
แนะนักลงทุน-รายย่อย-ภาคธุรกิจ ยึดหลักเศรษฐกิจ พอเพียง ผู้ว่าฯแบงก์ชาติแนะทางเลือก ลงทุนหุ้นกู้และตราสารหนี้แทนฝากเงินแบงก์อย่างเดียว เหตุผลตอบแทน ดีกว่า ย้ำการออมช่วยแก้ปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ขณะที่นักวิชาการเตือนภาคธุรกิจเน้นเสถียรภาพ พร้อมติดตามภาวะเงินเฟ้อที่ผ่อนคลายจากราคาน้ำมัน แต่ต้นทุนอื่นยังเพิ่ม ส่วนผู้ส่งออกต้องทำประกันและซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า
(ผู้จัดการรายวัน 4 มกราคม 2549)
ธปท.ไม่เร่งปรับดอกเบี้ย ชูบริหารส่วนต่างไลบอร์
"ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ" ส่งสัญญาณชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ย ชี้ดอกเบี้ยนโยบายไม่ควรสูงกว่าไลบอร์ และห่างกันไม่เกิน 2% เพราะจะทำให้เงินทุนไหลออก คาดสิ้นปี 48 เงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติอยู่ที่ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ไม่จำเป็นต้องดึงเงินทุนสำรองระหว่างประเทศโปะ ขณะที่เชื่อดุลบัญชีเดินสะพัดจะกลับมาเป็นบวกได้ใน 3 ปี
(ผู้จัดการรายวัน 19 ธันวาคม 2548)
แบงก์ชาติฟันธงศก.ปีหน้าโตกว่า 5% ชี้เงินเฟ้อขาดดุลบัญชีการเมืองจุดอ่อน
"ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ" ฟันธง เศรษฐกิจไทยปี 49 ขยายตัวอย่างน้อย 5% เหตุไม่มีปัจจัยลบ โดยมีตัวแปรสำคัญอยู่ที่สถานการณ์ทางการเมือง พร้อมยอมรับอัตราเงินเฟ้อและขาดดุลบัญชีเดินสะพัดยังเป็นจุดอ่อน เผยเตรียมขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าเงินเฟ้อ มั่นใจทำได้แน่ภายในปีหน้า ช่วยจูงใจคนหันมาออม
(ผู้จัดการรายวัน 16 ธันวาคม 2548)
อุ๋ยเบรกเมกะโปรเจกต์หวั่นขาดดุลบัญชี
ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติห่วงประเทศประสบปัญหาขาดดุลบัญชีเดินสะพัดยาว เตือนรัฐบาลอย่ามือเติบทุ่มเงินลงเมกะโปรเจกต์ซ้ำเติมปัญหาขาดดุลที่ถูกปัจจัยน้ำมันแพงรุมเร้า เสนอเลื่อนการก่อสร้างโรงไฟฟ้า เลิกกู้เงินจากต่างประเทศ แต่ควรให้ความสำคัญกับการออมเพื่อการลงทุนในอนาคต เผยอันตรายรายย่อยมีพฤติกรรมมุ่งเป็นหนี้แทนการออม
(ผู้จัดการรายวัน 9 ธันวาคม 2548)
"อุ๋ย"แนะแบงก์ เร่งเพิ่มขนาด รับมือทุนนอก
ผู้ว่าแบงก์ชาติ ระบุสถาบันการเงินจำเป็นต้องเพิ่มขนาดเพื่อให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ แม้ผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) จะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1.6% ในปีนี้ แต่อย่าชะล่าใจ แนะควรเพิ่มช่องทางในการดึงดูดเงินลงทุน หาผลิตภัณฑ์ใหม่ และมีการบริหารความเสี่ยงที่ดีเป็นสำคัญ ยันยังไม่มีนโยบายนำแบงก์ที่กองทุนฟื้นฟูฯเป็นผู้ถือหุ้นอยู่มาควบรวมกิจการ เหตุต้องขายหุ้นออกไปในอนาคต ด้านขุนคลัง ฟุ้งปีหน้าจีดีพี ยังโตเกิน 5%
(ผู้จัดการรายวัน 17 พฤศจิกายน 2548)
ชี้ขาดดุลเกิน$2.7พันล้าน
"หม่อมอุ๋ย" ระบุดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยปีนี้เกิน 2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐแน่ เพราะ 9 เดือนที่ผ่านมาขาดดุล ทะลุ 5.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จับตาปริมาณสินค้านำเข้า และรัฐ เพิ่มวงเงินลงทุนโครงการ "เมกะโปรเจกต์" มีผลดุลบัญชีเดินสะพัด ขาดดุลเพิ่มหรือไม่
(ผู้จัดการรายวัน 7 พฤศจิกายน 2548)
แบงก์ชาติจี้เอเอ็มซีรัฐลดหนี้50%
ประชาชนที่มีภาระหนี้กับเอเอ็มซีรัฐได้เฮ ธปท.สั่งลดมูลหนี้ 50% ตามกรอบการแก้ไขปัญหาหนี้ภาคประชาชน กำหนดชำระ ให้ครบภายใน 6 เดือน หากเกินกำหนดมูลหนี้เด้งกลับเป็น 100% เท่าเดิม ระบุเปิดทางให้ธนาคารพาณิชย์เข้าร่วมโดยสมัครใจ ด้านขุนคลัง เผยภาระดอกเบี้ยค้างจ่ายพุ่งเป็นกว่า 2 หมื่นล้านบาท จากเงินต้นแค่ 7 พันล้านบาท ขณะที่การหารือร่วมกับแบงก์ชาติยังไร้ข้อสรุป แต่ยืนยันจะนำเสนอครม. 18 ต.ค.นี้
(ผู้จัดการรายวัน 6 ตุลาคม 2548)
ฟันธงดบ.อาร์/พีขยับ0.25% ธปท.อิงปัจจัยภายใน แบงก์ชี้หวังลดช่วงห่างเฟด
"หม่อมอุ๋ย" ยันแบงก์ชาติยึดปัจจัยในประเทศเป็นหลักในการพิจารณาปรับดอกเบี้ยอาร์/พี โดย เฉพาะเรื่องเงินเฟ้อที่สูงขึ้น พร้อมยอมรับผิดหลังคาดการณ์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงจะกลับเป็นบวกตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา อ้างเหตุราคาน้ำมันพุ่งไม่หยุด ด้านคนในวงการตลาดการเงิน-ตลาดทุน มั่นใจธปท.ขึ้นดอกเบี้ยอาร์/พีอีก 0.25% เพื่อ ลดช่วงห่างกับดอกเบี้ยเฟด แต่เชื่อว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะไม่รุนแรงและไม่ปรับขึ้นบ่อยครั้ง
(ผู้จัดการรายวัน 7 กันยายน 2548)
"อุ๋ย"เมินผลเฟดลั่นขึ้นดอกเบี้ยยึดปัจจัยภายใน
หม่อมอุ๋ยเมินผลการประชุมเฟด ลั่นการปรับดอกเบี้ยอาร์/พีของแบงก์ชาติ ยึดปัจจัยเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก ไม่หวั่นเงินทุนไหลออกแม้ส่วนต่างดอกเบี้ยสูงขึ้น เหตุยังมีเงินไหลเข้ามาในตลาดหุ้นต่อเนื่อง นายแบงก์มองต่างมุม ชี้เริ่มมีเงินทุนไหลออกบ้าง แม้ยังไม่ถึงจุดอันตรายแต่อาจกดดันให้ ธปท.ต้องขึ้นอาร์/พีในการประชุมครั้งต่อไป
(ผู้จัดการรายวัน 4 พฤษภาคม 2548)