พิษหุ้นฉุดเงินกบข.วูบ1.6หมื่นล.
กบข. เล็งทุ่มเงิน 6,000 ล้านบาท เพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยเป็น 9.5% จากเดิม 7.5% แต่ขอดูผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4 ปี 51 ก่อน ระบุตลาดหุ้นปีวัวยังผันผวนต่อ เหตุต้องรอเงินลงทุนต่างชาติ ที่ต้องเยียวยาประเทศของตัวเองก่อน ล่าสุด แจงผลงานทั้งปี 51 ผลตอบแทนติดลบ 5.12% แต่ยังมั่นใจ ปีนี้ฟื้นกลับมาแน่
(ผู้จัดการรายวัน 21 มกราคม 2552)
บลจ.หันลงหุ้น“ซีจี-ซีเอสอาร์”
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยบลจ.หันสนใจตั้งกองทุนลงทุนหุ้นซีจี-ซีเอสอาร์ดี พร้อมเป็นตัวกลางส่งเสริมและการันตีบริษัทจดทะเบียนที่เข้าหลักเกณฑ์ หวังเอื้อบลจ.ลงทุนสะดวกมากขึ้นจากเดิมที่จะต้องมีการพิจารณาเอง ชี้ปัจจุบันมีกองทุนสนใจหลายแห่ง “เก่งกล้า” เผย ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาหลักเกณฑ์
(ผู้จัดการรายวัน 22 ธันวาคม 2551)
กบข.รับสภาพทั้งปียิลด์ลบ7% กระอักพิษหุ้นทั่วโลกดิ่งเหว
กบข. รับสภาพผลตอบแทนทั้งปีเป็นลบ หลังหุ้นทั้วโลกรวมถึงไทยผันผวนหนัก ฉุดเงินลงทุนสูญ ประเมินผลตอบแทนทั้งปีนี้ ได้เห็นติดลบ 6-7% เดินหน้าปรับกลยุทธ์การลงทุนปีหน้า เน้นกระจายความเสี่ยง ลงทุนพันธบัตรระยะสั้นและ Private Equity พร้อมรอลุ้นราคาหุ้นดีดตัวก่อนภาวะเศรษฐกิจโลกจะฟื้น ช่วยพลิกผลตอบแทนเป็นบวก
(ผู้จัดการรายวัน 18 ธันวาคม 2551)
ไทยไม่แน่นอน กองโครงสร้างฯ ตปท.ยิลด์ดีกว่า
บลจ.ประเมินแนวคิดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เหมาะกับนักลงทุนส่วนบุคคลมากกว่ากองทุนรวมทั่วไป เหตุขั้นตอนการจัดตั้งยุ่งยาก อีกทั้งต้องทำการบ้านให้นักลงทุนเป็นจำนวนมาก แต่เชื่อลงทุนต่างประเทศจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในไทย เพราะความไม่แน่นอนของอัตราการเติบโตผลตอบแทน และการแล้วเสร็จของโครงการมีน้อยกว่า ส่วนกองทุนพลังงานยังเป็นเรื่องอนาคต ชี้ราคาน้ำมันที่ลดลงยิ่งฉุดความน่าสนใจของโครงการ
(ผู้จัดการรายวัน 8 ธันวาคม 2551)
เชียร์หุ้นพลังงาน ฟื้นเร็ว-ปันผลดี แต่ห่วงโรงกลั่น
บล.ทิสโก้ ชี้ ภาวะตลาดหุ้นไทยผันผวนแนะลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน “ปตท.สผ - บ้านปู- บางจาก ”นำทีม เพราะมีมาร์เกตแคปใหญ่หากภาวะหุ้นฟื้นจะปรับตัวขึ้นได้เร็ว อีกทั้งมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง จ่ายปันผลสูงถึง 7.2-7.5% หลังจากราคาได้ปรับตัวลดลงมามากแล้ว แต่ห่วงหุ้นโรงกลั่น เหตุค่าการกลั่นยังต่ำ พร้อมคาดราคาน้ำมันยังลดลงต่อเนื่อง ก่อนปรับตัวขึ้นอีกครั้งในไตรมาส4/52
(ผู้จัดการรายวัน 4 ธันวาคม 2551)
กบข.รับผลตอบแทนทั้งปีมีสิทธ์ลบ7%
กบข.รับ ผลตอบแทนทั้งปีนี้ มีสิทธิ์ติดลบ 6-7% หากบรรยากาศหุ้นทั่วโลก ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากนี้ ย้ำกลยุทธ์ลงทุนเมืองนอกไม่ผิดผลาด ซ้ำยังให้ผลตอบแทนสูงกว่าในประเทศ ส่วนปีหน้า มั่นใจผลตอบแทนดีดกลับเป็น 5-7% หลังประเมินตลาดหุ้นขานรับเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว เล็งอีก 6 เดือนข้างหน้าใส่เงินลุยหุ้น พร้อมเพิ่มน้ำหนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์กินค่าเช่า
(ผู้จัดการรายวัน 25 พฤศจิกายน 2551)
ตลาดทุนทรุดต่ำสุดไตรมาส1/52
ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดทุน ชี้เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำสุดไตรมาส 2/52 ด้านตลาดหุ้นแย่สุดไตรมาส1/52 พร้อมแนะนักลงทุนเก็บหุ้นช่วงนี้ถึงกลางปีหน้า ได้ผลตอบแทนสูงหากถือยาว 3-5 ปี ด้านบล.ภัทร แนะนักลงทุนจับตา 3 ปัจจัย “ราคาสินทรัพย์สหรัฐยุโรป – การเติบโตเศรษฐกิจจีน - การเมืองไทย” หวั่นยิ่งส่งผลร้ายมากขึ้น ด้านเลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์ แจงเศรษฐกิจไทยปีหน้าไปรอดแม้โต 2.5-3% กำไรบจ.ลดลง 5% จากปีนี้ กำไรรวม 5 แสนล้านบาท
(ผู้จัดการรายวัน 21 พฤศจิกายน 2551)
ลุยตปท.ระวังค่าเงิน หันซื้อหุ้นไทยดีกว่า
ธปท. แจงวงเงินลงทุนต่างประเทศล่าสุด ออกไปลงทุนแล้ว 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ระบุนักลงทุน ยังมีโอกาสลงทุนทั่วโลก แต่แนวโน้มหลังจากนี้ อาจจะชะลอลงหลังภาวะการลงทุนไม่เอื้อ ด้านผู้จัดการกองทุนย้ำ ต้องให้ความสำคัญกับค่าเงิน โดยเฉพาะการลงทุนในตราสารหนี้ ต้องเฮจด์อย่างน้อย 65% ป้องกันขาดทุน พร้อมแนะกลยุทธ์ลงทุนทั่วโลก ต้องผ่านอีทีเอฟ และลงทุนตรงสำหรับภูมิภาคเอเชีย ส่วนนักลงทุนชื่อดัง ห่วงความเสี่ยงไม่คุ้มผลตอบแทน ชูตลาดหุ้นไทยน่าสนใจกว่า
(ผู้จัดการรายวัน 19 พฤศจิกายน 2551)
กบข.ฝีแตก มูลค่าทรัพย์วูบ 4 เดือนหายวับ 7.4 หมื่นล้าน
ผลพวงจากวิกฤตเศรษฐกิจ ตลาดการเงิน-หุ้นโลกถล่มทลาย กบข.อาการน่าเป็นห่วง มูลค่าทรัพย์สินลดวูบ 4 เดือนหายวับไปกับตา 74,000ล้าน! ผลตอบแทนเป็นลบนับแต่ก่อตั้งมา 11 ปี สะท้อนวิสัยทัศน์ผู้นำ ‘เสี่ยงสูง ผลตอบแทนสูง’ เน้นนโยบายลงทุนขนเงินออกไปเล่นหุ้น-ตราสารต่างประเทศตามก้นฝรั่ง
(ผู้จัดการรายวัน 10 พฤศจิกายน 2551)
ศก.ไทยยังไม่พ้นวิกฤต แนะกระจายส่งออก-คลอดมาตรการดึงทุนนอก
บล.ภัทร ชี้เศรษฐกิจไทยปีหน้าโดดเด่น แต่มีจุดอ่อนการส่งออกชะลอตัวจากได้รับกระทบเศรษฐกิจโลกถดคอย-ปัญหาความแตกแยกของคนในประเทศ “ บรรยง” ชี้จุดต่ำสุดตลาดหุ้นไทย 350 จุด แจงเม็ดเงินต่างชาติเหลือเงินเทรดหุ้นไทย 9 แสนล้านบาท ไม่ใช่ 9 หมื่นล้านบาท พร้อมไม่เห็นด้วยตั้งกองทุนพยุงหุ้นควรปล่อยตามกลไกตลาด ด้านประธานสภาอุตสาหกรรม มองปีหน้าอุตสากรรมไทยย่ำแย่หลังคำสั่งซื้อเริ่มลดลงแล้ว พร้อมแนะเน้นกระจายการส่งออก และเจาะลูกค้าของจีนที่กำลังประสบปัญหา ด้านบล.ทิสโก้ แนะรัฐบาลเร่งดำเนินนโยบาย สร้างความมั่นใจต่างชาติลงทุน
(ผู้จัดการรายวัน 5 พฤศจิกายน 2551)