ดัชนีธุรกิจส.ค.เริ่มฟื้นตัว
ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็น 43.4 จากเดือนกรกฎาคม อยู่ที่ 40.7 เนื่องจากการผลิตปรับดีขึ้นตามคำสั่งซื้อในประเทศ และต้นทุนการผลิตปรับลดลง ทำให้ผลประกอบการทางธุรกิจดีขึ้น นอกจากนี้ สถานการณ์การเมืองเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น จากประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้การลงทุนปรับตัวดี
(ผู้จัดการรายวัน 1 ตุลาคม 2550)
ครึ่งปีแรก'FDI'ลดกว่า8หมื่นล้าน เหตุต่างชาติไม่เชื่อมั่นรัฐบาล-ศก.
เผย 6 เดือนแรกของปี 2550 เงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ(เอฟดีไอ)ลดลงกว่า 8 หมื่นล้าน เหตุนักลงทุนต่างชาติขาดความเชื่อมั่นจากภาวะเศรษฐกิจที่ลดลงและการบริหารงานภายใต้การปกครองของรัฐบาลปฏิบัติ มั่นใจปีนี้ยอดเงินยังไหลเข้าสุทธิ พร้อมทั้งคาดหากการเมืองชัดเจน เลือกตั้งเกิดในปลายปีนี้ช่วยสนับสนุนการลงทุนในปี 2551
(ผู้จัดการรายวัน 25 กันยายน 2550)
ธปท.ปลื้มรายย่อยซื้อบอนด์71%
ธปท.ยิ้มแก้มปริหลังประชาชาชนแห่จองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์เกือบ 9 หมื่นบ้านบาท ระบุช่วยกระจายให้แก่ประชาชนรายย่อยที่มีเงินต่ำกว่า 1 ล้านบาทได้ถึง 71% เผยปีนี้ไม่มีแผนออกเพิ่ม รอดูสถานการณ์ปีหน้า ยอมรับแบงก์บางแห่งอาจได้รับผลกระทบต่อฐานเงินฝากและสภาพคล่องลดลง แต่ต้องมีการปรับตัว
(ผู้จัดการรายวัน 19 กันยายน 2550)
ยอดธุรกรรมบัตรเครดิตกระเตื้อง เดือนก.ค.ใช้จ่ายเพิ่ม 3.8 พันล้าน
แบงก์ชาติรายงานความเคลื่อนไหวธุรกรรมการใช้บัตรเครดิต ณ สิ้นเดือนกรกฎาคมโดยส่วนใหญ่มีปริมาณมากขึ้น ยกเว้นการเบิกเงินสดล่วงหน้า โดยมีจำนวนบัตรเพิ่มขึ้นกว่า 4 หมื่นใบ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของสาขาธนาคารต่างประเทศและนอนแบงก์ ขณะที่ยอดบัตรของแบงก์พาณิชย์ชะลอตัว ส่วนยอดคงค้างสินเชื่อขยับขึ้นเล็กน้อย และปริมาณการใช้จ่ายโดยรวมกระเตื้องขึ้น 3.8 พันล้าน
(ผู้จัดการรายวัน 12 กันยายน 2550)
ธปท.ผ่อนเกณฑ์30%ให้TDEXมั่นใจไม่กระทบเงินบาทแข็ง
นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ต.ล.ท.)เปิดเผยว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ได้อนุมัติที่จะมีการยกเลิกมาตรการกันเงินสำรอง 30% สำหรับนักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในกองทุนเปิดไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ (TDEX) ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก และกองทุนดังกล่าวจะเข้าซื้อขายวันแรกในวันนี้ (6 ก.ย.) หลังจากที่ทางตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการเสนอไปยังธปท.ให้มีการผ่อนเกณฑ์ดังกล่าว
(ผู้จัดการรายวัน 6 กันยายน 2550)
แบงก์ชาติระบุQ2อสังหาฯยังทรุด จับตาคอนโดฯราคาถูกส่อล้นตลาด
ธปท.เผยภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไตรมาส 2 ไม่กระเตื้อง ขณะที่ผู้ประกอบการหวังกระตุ้นตลาดแข่งขันผ่านราคาจนกระทบผลประกอบการลด รับกังวลอาคารชุดในพื้นที่ห่างไกลเส้นทางขนส่งมวลชนกดดันราคาค่าเช่าห้องพักลดลง ส่วนแบงก์หันให้กู้ผู้ประกอบการในประเภทสินเชื่อพัฒนาอาคารชุด-อพาร์ตเมนต์-อาคารสำนักงานให้เช่ามากขึ้น แต่สินเชื่อส่วนบุคคลที่ผู้ซื้อบ้านยังชะลอตัวอยู่
(ผู้จัดการรายวัน 3 กันยายน 2550)
พิษซับไพรม์ทำเงินไหลออกกว่า8พันล.
แบงก์ชาติเผยช่วงวิกฤตซับไพรม์ 2 สัปดาห์สุดท้ายเดือนก.ค. ต่างชาติเทขายหุ้นมีเงินไหลออกจากไทยกว่า 8 พันล้าน ขณะที่ 7 เดือนแรกของปี มีเงินทุนจากต่างประเทศทะลักเข้าไทย 1.16 แสนล้านบาท สูงเป็นอันดับ 3 ของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ในเอเชีย และมีแนวโน้มเงินทุนเริ่มไหลเข้าอีกระลอกหลังหลังรัฐธรรมนูญผ่าน ทำให้ทิศทางเงินบาทยังแข็งค่าต่อ
(ผู้จัดการรายวัน 28 สิงหาคม 2550)
NPLใหม่โผล่6.4หมื่นล้าน อสังหาฯสูงสุด-อุตฯพุ่งแรง
แบงก์ชาติเผยไตรมาส 2 อสังหาริมทรัพย์มีสัดส่วนเอ็นพีแอลมากที่สุดในระบบถึง 15.16% ขณะที่หนี้ที่เพิ่มขึ้นเกิดลูกหนี้รายใหม่ก่อตัวจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวถึง 63,972 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากแบงก์พาณิชย์ไทย ส่วน "ยอดเพิ่มสูงสุด" อยู่ที่ธุรกิจอุตสาหกรรม 41,891 ล้านบาท หรือมีสัดส่วนเพิ่มจาก 9.92 เป็น 11.32% มีทั้งลูกหนี้ใหม่-เก่า ด้านเอ็นพีแอลรายย่อยส่อวิกฤต ความสามารถในการชำระหนี้ทรุด รวมกลุ่มแจ้งกองปรับจับ 4 แบงก์
(ผู้จัดการรายวัน 27 สิงหาคม 2550)
ธปท.ดิ้นเงินไหลออกมั่นใจกัน30%คุมอยู่
นางสาวนิตยา พิบูลย์รัตนกิจ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณีที่นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยในขณะนี้ว่า จากการติดตามการไหลออกของเงินทุน เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติยังไม่ได้นำเงินออกนอกประเทศ เนื่องจากขณะนี้ค่าเงินบาทยังมีเสถียรภาพไม่ได้อ่อนค่าลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม จะต้องติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะอาจจะเร็วเกินไปที่จะพูดในขณะนี้
(ผู้จัดการรายวัน 8 สิงหาคม 2550)
'สว่างจิตต์'ไม่ห่วงNPLเพิ่มเฉลี่ยทั้งระบบไม่เกิน5%
"สว่างจิตต์ จัยวัฒน์"รองผู้ว่าธปท. การันตีNPLในระบบทั้งปีไม่เกิน 5% แม้ภาพรวมของเศรษฐกิจ การเมือง ค่าเงินบาท และราคาน้ำมัน ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยง ระบุหลังเลือกตั้งคาดเศรษฐกิจดีขึ้น หากรัฐบาลชุดใหม่ทำงานอย่างจริงจัง พร้อมยกบสก.เป็นองค์กรหลักดูแลและบริหารหนี้และเอ็นพีเอในระบบ คาดแนวโน้มสถาบันการเงินจะต้องเร่งลดภาระ เร่งจำหน่ายทรัพย์ออกมาตามเกณฑ์สำรองใหม่
(ผู้จัดการรายวัน 3 สิงหาคม 2550)