นักลงทุนแห่จอง หุ้นธนาคารนครหลวงไทย ปิดจอง หลังเปิดขายเพียง 2 ชั่วโมง โดยมียอดจองเข้ามาสูงกว่า
4.74 เท่า เตรียมประกาศรายชื่อผู้โชคดีในบ่ายวันนี้ ขณะที่หุ้น"การบินไทย"
เงียบเหงา ถูกนักลงทุนเมิน ด้านผู้บริหาร "สุริยะ" ชี้ไม่น่าเป็นห่วงเพราะสถาบันการเงินซื้อไปมาก
วานนี้ (20 พ.ย.) เป็นวันแรก ที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อหลักทรัพย์ของ 2
บริษัท คือ หุ้นเพิ่มทุนบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 485 ล้านหุ้น เสนอขายราคาหุ้นละ
50 บาท และ หุ้นของธนาคารนครหลวงไทย จำนวน 376 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 20.60 บาท และใบสำคัญแสดงสิทธิ
หน่วยละ 1.05 บาท โดยเสนอขายเป็นชุด คือ หุ้นสามัญ 1 หุ้น รวมกับวอร์แรนต์ 2 หน่วย
ในราคาชุดละ 22.70 บาท
โดยบรรยากาศการจองซื้อของหลักทรัพย์ทั้ง 2 บริษัท กลับแตกต่างกันอย่างลิบลับ
โดยหุ้นของ ธนาคารนครหลวงไทย มีประชาชน ให้ความสนใจเข้ามาจองซื้อเป็นจำนวนมาก จนต้องปิดการรับจองตั้งแต่วันแรก
ขณะที่หุ้นของการ บินไทย กลับเงียบเหงา นักลงทุนสนใจจองซื้อจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น
นางสาวอังคณา สวัสดิ์พูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร นครหลวงไทย กล่าวว่า
ยอดการจองซื้อหุ้นของธนาคารตั้งแต่เปิดให้จองซื้อเวลา 08.30-10.30 น. มียอดจองซื้อสูงถึง
175.366 ล้านหุ้น คิดเป็นจำนวนผู้จองซื้อทั้งสิ้น 6,454 ราย สูงกว่าจำนวนหุ้นที่ธนาคารจัดสรรให้กับประชาชนทั่วไปจำนวน
37 ล้านหุ้น หรือสูงกว่า 4.74 เท่า โดยแบ่งเป็นยอดจองจำนวน50,000 หุ้น มีถึง 2,000
ราย และแบ่งเป็นยอดจองในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 125.6 ล้านหุ้น และต่างจังหวัด 49.7
ล้านหุ้น
ทั้งนี้ ธนาคารได้นำรายชื่อของ ผู้จองซื้อส่งให้เซตเทรด เพื่อทำการสุ่มเลือกรายชื่อผู้ที่ได้รับการจัดสรรหุ้นต่อไป
โดยจะสามารถประกาศรายชื่อได้ในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้เวลา 12.00 น. แต่ธนาคารอาจจะประกาศผลได้เร็วขึ้น
คือในช่วง บ่ายของวันนี้ (21 พ.ย.) เนื่องจากสามารถปิดการ จองซื้อเร็วกว่ากำหนดเดิม
นายนิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย กล่าวว่า
การเสนอขายหุ้นครั้งนี้เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ส่วนสาเหตุที่ทำให้ยอดจองซื้อหุ้นเกินกว่าหุ้นที่นำมาจัดสรรน่าจะเกิดจากการที่ประชาชนมั่นใจ
ในพื้นฐานของธนาคารที่เป็นกู๊ดแบงก์ ซึ่งแผนการ ขายหุ้นครั้งนี้ นอกจากจะได้หุ้นสามัญแล้ว
ยังได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิอีกด้วย ประกอบกับภาวะตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น
"ปัจจุบันธนาคารมีความเข้มแข็งทั้ง ในเรื่อง ของโครงสร้างเงินทุน โดยมีกำไรต่อเนื่องหลายปี
มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ต่ำเพียงร้อยละ 2 และมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของเงินกองทุนขั้นที่
1 ถึงร้อยละ 11.5 และได้มีการประกาศจ่ายเงินปันผลของผู้ถือหุ้นปีนี้ 20 สต.ต่อหุ้น"
นอกจากนี้ ธนาคารยังมีแผนธุรกิจในระยะ 5 ปีข้างหน้าที่ชัดเจน โดยในปี 2546 ฐานเงินฝาก
ของธนาคารขยายตัวได้มากกว่าร้อยละ 20 จึงเป็นผลให้มีนักลงทุนจำนวนมากให้ความสนใจเข้าซื้อหุ้นของธนาคาร
ส่วนข้อซักถามที่ว่า กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จะนำหุ้นออกมาเสนอขายเพิ่มหรือไม่
หลังจากที่มีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมากนั้น นายนิเวศน์ กล่าวว่า กองทุนฟื้นฟูฯ
คงไม่นำหุ้นออกมาเสนอ ขายเพิ่ม เพราะต้องสำรองไว้สำหรับการการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ
หุ้นการบินไทยไม่คึกคัก
ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าของการกระจายหุ้นเพิ่มทุน
ของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 385 ล้านหุ้น ว่า การขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป
ที่ผ่านธนาคารพาณิชย์ 3 แห่ง คือ ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารธนชาต,
จำนวนกว่า 60 ล้านหุ้น ในราคา 50 บาท ที่หลายฝ่ายได้มีความเป็นห่วงว่าไม่มีความคึกคักของประชาชนในการเข้ามาจองหุ้นนั้น
ในส่วนนี้ได้รับการยืนยันจากการบินไทยว่า ในสัดส่วนที่กระจายผ่านธนาคารพาณิชย์นั้น
ถือได้ว่ามีการจำหน่ายหุ้นหมดแล้ว เนื่องจากการบินไทยมี บริษัทรับประกันการจัดจำหน่าย
(อันเดอร์ ไรเตอร์) เป็นผู้รับผิดชอบหมด ส่วนที่ไม่มีความ คึกคักอาจจะมีสาเหตุมาจากภาพรวมในตลาดซบเซา
แต่ยืนยันว่า การกระจายหุ้นการบิน ไทย ส่วนใหญ่ทางกลุ่มสถาบันการเงินได้มีความต้องการและจองซื้อมากกว่าปริมาณที่มีหุ้นอยู่จริงสูงกว่า
3.2 เท่า
อย่างไรก็ตาม ไม่มีความเป็นห่วง เพราะ สถาบันการเงิน ได้เข้ามาซื้อหุ้นอย่างมาก
และ สัดส่วนที่กระจายให้กับประชาชนทั่วไปก็เป็นส่วนน้อย ซึ่งสถาบันการเงินได้ให้ความสำคัญกับธุรกิจทางการบินอย่างมาก
เนื่องจากมองว่าจะมีอัตราการเติบโตของธุรกิจค่อนข้างสูงในการลงทุนระยะยาวที่จะให้ผลตอบแทนจากการลงทุน
"ผมคงไม่สามารถให้ความคิดเห็นอะไรได้มากนัก เนื่องจากช่วงนี้อยู่ในช่วงของการเสนอซื้อ
เสนอขาย ซึ่งมีกฎของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
เป็นผู้ดูแลและกำกับอยู่ อย่างไรก็ตามการบินไทย ได้ขายหุ้นให้กับนักลงทุนต่างชาติ
261 ล้านหุ้น นักลงทุนสถาบันในประเทศ 60 ล้านหุ้น โบรกเกอร์ 62 ล้านหุ้น และ ประชาชนทั่วไป
60 ล้านหุ้น โดยในส่วนของประชาชนทั่วไปขายไม่หมด ก็ยังมีส่วนที่ทำกรีนซู ออปชั่นไว้อีก
57.5 ล้านหุ้น ที่จะเข้ามารับซื้อหุ้นที่เหลือไว้ทั้งหมด"