ยอดจองซื้อวายุภักษ์ 1 อืด ล่าสุดรายย่อยจองซื้อเพียง 1.8 หมื่นล้านบาท ด้านขุนคลังเผยเป็นไปตามคาด
อ้างรายย่อยเงินออมน้อย ขณะที่แบงก์กรุงไทย-นครหลวงไทย เตรียมเหมาหน่วยลงทุนส่วนที่ได้รับจัดสรรเข้าพอร์ต
ก่อนขาย ให้ลูกค้าเงินฝากต่อไป ยืนยันผล ตอบแทนดีกว่าพันธบัตรรัฐบาล ระบุอาจสูงถึง
9% ต่อปี
ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าววานนี้ (19 พ.ย.)
ถึงผลการ จำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 ว่ารายงานล่าสุดวานนี้ เบื้องต้นมียอดจอง
ซื้อของนักลงทุนรายย่อยรวม ตั้งแต่วันที่ 11-19 พ.ย. ทั้งสิ้นประมาณ 18,000 ล้านบาท
เป็นยอดซื้อหน่วยลงทุนที่เป็นไปตามที่เคยคาดการณ์ตั้งแต่ก่อนเปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนฯ
"ต้องเข้าใจว่า นักลงทุนรายย่อยไม่ได้มีเงินออมมากมาย และขณะนี้ทาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ก.ล.ต.) ได้อนุมัติให้กองทุนรวมวายุภักษ์ สามารถขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนรายใหญ่ได้แล้ว"
แบงก์กรุงไทยรับเข้าพอร์ต
ด้าน พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงไทย (KTB) กล่าวว่าธนาคารมั่นใจว่า
จะสามารถขายหน่วยลงทุน วายุภักษ์ 1 ที่ได้รับจัดสรรทั้งสิ้น 35,000 ล้านบาท ได้ทั้งหมด
แต่หากหน่วยลงทุนขายไม่หมด ธนาคารจะรับไว้ทั้งจำนวน เพื่อรอไว้ขายให้ผู้มีเงินออม
ที่ต้องการซื้อภายหลัง โดยเฉพาะเมื่อหน่วยลงทุนจ่ายเงินปันผล ธนาคารก็พร้อมจะขายออกให้ผู้สนใจ
นอกจากนี้ ธนาคารกรุงไทยยังขออนุญาตธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ผู้ที่มีบัญชีเงินฝากประจำ
ซึ่งปัจจุบันได้รับผลตอบแทนดอกเบี้ยประมาณ 3-4% ต่อปี สามารถเปลี่ยนมา ซื้อกองทุนรวมวายุภักษ์
1 ได้
นายสหัส ตรีทิพยบุตร รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารคาดว่า
จะสามารถขายหน่วยลงทุนให้กับผู้มีบัญชีเงินฝากประจำกับธนาคารไม่เกิน 20,000 ล้านบาท
ทำให้คงเหลือประมาณ 15,000 ล้านบาท ธนาคาร จะรับไว้ขายต่อไป
"ธนาคารผู้มีฝากประจำที่เหมาะสม จะมาซื้อหน่วยลงทุนมากถึง 200,000 ล้านบาท
จากเงิน ฝากทั้งหมดของธนาคาร 800,000 ล้านบาท เพราะกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 เป็นกองทุนฯ
ที่ดี รัฐบาลค้ำประกันผลตอบแทนเงินต้น รวมทั้งกองทุนฯ อาจจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่ารัฐบาลค้ำประกันไว้ที่
3% ต่อปี คืออาจจะสูงถึง 9%"
นายสหัสกล่าวว่า หากผู้มีเงินฝากประจำนำเงินฝากประจำไปซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์
1 ที่ได้ผลตอบแทนดีกว่า ธนาคารก็มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของธนาคาร
เนื่องจากเงินฝากโดยรวมของธนาคารมีอยู่มาก
SCIB ขออนุมัติบอร์ดเก็บเข้าพอร์ต
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย (SCIB) เปิด
เผยความคืบหน้าการขายหน่วยลงทุนวายุภักษ์ ที่ธนาคารได้รับจัดสรรจากกระทรวงการคลัง
9,000 ล้านหน่วยว่าส่วนของธนาคารคงไม่สามารถ ขายให้นักลงทุนได้หมด แม้ช่วงที่ผ่านมายอดจำหน่ายยังคงขายได้ต่อเนื่อง
จำนวนหลักร้อยล้านบาท มีทั้งนักลงทุนรายย่อยและรายใหญ่จอง
ทั้งนี้ หน่วยลงทุนที่เหลือ ธนาคารจะรับซื้อ เข้าพอร์ตธนาคาร เนื่องจากผลตอบแทนที่ให้อย่างน้อย
3% ต่อปี ถือว่าสูงกว่าผลตอบแทนที่ธนาคารได้รับจากการกองทุนเพื่อการพัฒนาและฟื้นฟูระบบสถาบันการเงินในอัตรา
2% อย่างไรก็ตาม การซื้อหน่วยลงทุนที่เหลือ ต้องให้ คณะกรรมการธนาคารพิจารณาสัปดาห์หน้า
"ธนาคารยอมรับว่า หน่วยลงทุนวายุภักษ์ ไม่น่าจะจำหน่ายได้หมด แต่ให้ธนาคารรับไว้
ก็คงไม่มีปัญหา เพราะผลตอบแทนที่ให้ 3% จะทำ ให้กำไรของธนาคารเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อแบงก์
แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบอร์ด ที่จะ มีการประชุมในสัปดาห์หน้า"
นายอภิศักดิ์กล่าว