ระยองเพียวริฟายเออร์เคาะราคาขายหุ้นเพิ่มทุนที่ 27 บาท คาดเทรดซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
24 พ.ย.นี้ ยืนยันกำไรงวดปีนี้แตะ 200 ล้าน บาท เตรียมจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้แน่
50% ของกำไรสุทธิ ส่วนปีหน้าคาดว่าจะมีรายได้และกำไรเติบโตขึ้น 20-30% จากปีนี้
เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจโตขึ้นทำให้ยอดการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นตาม
วานนี้ (10 พ.ย.) บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด (มหาชน) ลงนามสัญญาแต่งตั้งบริษัท
หลักทรัพย์ บีที จำกัด เป็นผู้จัดการการจำหน่ายหลักทรัพย์ โดยมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายอีก
4 บริษัทได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์
ไทยพาณิชย์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาติ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ แอสเซท พลัส
จำกัด (มหาชน) กำหนดเปิดจองซื้อหุ้น ระหว่างวันที่ 12-14 พ.ย.นี้ จำนวน 15.83 ล้านหุ้น
กำหนดราคาเสนอขายที่ 27 บาท คาดว่าจะเปิดซื้อขายในตลาด หลักทรัพย์ได้ในวันที่ 24
พ.ย. 2546
นายศุภพงศ์ กฤษณกาญจน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด
(มหาชน) หรือ RPC เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะยอดขายได้ประมาณ 8 พันล้านบาท
และมีกำไรสุทธิ 200 ล้านบาท จากนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ
ซึ่งบริษัทฯสามารถจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้จากผลการดำเนินงานงวดปี 2546
ส่วนผลการดำเนินงานในปี 2547 คาดว่ารายได้ และกำไรจะโตประมาณ 20-30% จากปี 2546
ขณะที่อัตราการเติบโตของธุรกิจอยู่ที่ 10% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวทำให้ความต้องการใช้น้ำมันในการผลิตต่างๆเพิ่มขึ้น
รวมทั้งบริษัทได้มีการขยายปั๊มน้ำมันเพียวเพิ่มขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ
โดยตั้งเป้าหมายไว้ 100 แห่ง ทำให้มาร์เกตแชร์เพิ่มขึ้นจากเดิม 3-4%
ปัจจุบันโรงกลั่นของบริษัทมีกำลังการผลิต 1.7 หมื่นบาร์เรล/วัน แต่ บริษัทฯเดินเครื่องจักรอยู่ที่
1.2 หมื่นบาร์เรล/วัน ทำให้มีโอกาสที่ขยายกำลังการผลิตเพิ่ม หากได้วัตถุดิบจากปตท.และบมจ.อะโรเมติกส์เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 80-90 สตางค์/ลิตร
นอกจากนี้บริษัทฯได้ขยายโรงกลั่นน้ำมันที่เวียดนาม ขนาดกำลังการกลั่น 2,500 บาร์เรลต่อวัน
เดิมบริษัทฯถือหุ้นในโรงงานกลั่นน้ำมันที่เวียดนามประมาณ 20% แต่เนื่องจากทางเวียดนามต้องการให้บริษัทฯ
เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทำให้ในปี 2547 ขยายสัดส่วนการถือหุ้นในโรงงานนี้เป็น 60% และบริษัทฯคาดว่าโรงงานนี้จะสามารถ
เดินเครื่องผลิตได้สิ้นปี 2547 ส่งผลให้สิ้นปี 2547 บริษัทฯจะรับรู้รายได้จากโรงกลั่นน้ำมันในเวียดนามประมาณ
500 ล้านบาท
นายวีระวัฒน์ ชลวณิช ประธาน กรรมการ บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด (มหาชน)
กล่าวว่า บริษัทฯจะได้ รับเงินจากการเสนอขายหลักทรัพย์ประมาณ 427 ล้านบาท โดยจะนำไปเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพการผลิต
ประมาณ 100 ล้านบาท ใช้ในการขยาย สถานีบริการน้ำมันจากเดิม 16 แห่งเพิ่ม ขึ้นเป็น
100 แห่งครอบคลุมภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ 100 ล้านบาท และก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันในเวียดนาม
อีก 170 ล้านบาท ที่เหลือใช้เป็นเงินทุน หมุนเวียน
กล่าวว่า P/E กลุ่มพลังงานจะอยู่ที่ 7 เท่า แต่หุ้นRPC มีP/E อยู่ที่ 10 เท่า
เนื่องจากเป็นหุ้นที่นักลงทุนให้การต้อน รับดีมาก ดังจะเห็นจากตัวเลขการแสดง ความจำนงที่จะลงทุนในหุ้น
RPC มียอดจองของนักลงทุนสถาบันเข้ามาเกิน ถึง 20 เท่า เพราะนักลงทุนเห็นว่าการใช้พลังงานในประเทศเติบโตสูงขึ้น
โดย เฉพาะดีเซล ซึ่งเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีผู้ใช้มากที่สุดในประเทศ
โดยหุ้นเพิ่มทุน RPC จะจัดสรรให้กับนักลงทุนประเภทสถาบัน 3 ล้านหุ้น นักลงทุนทั่วไป
10.21 ล้านหุ้น และที่เหลือจัดสรรให้กับพนักงานและผู้มีอุปการคุณของบริษัท
บริษัท ระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจ โรงกลั่นน้ำมันขนาดกลางมากว่า
6 ปี ดำเนินงานโดยคนไทย โดยการแปรสภาพคอนเดนเสท เรสสิดิว ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่เป็นผลพลอยได้
จากคอนเดนเสทจากอ่าวไทยมาผลิตเป็นผลิต-ภัณฑ์ปิโตรเลียม และปิโตรเคมี ได้แก่ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว
น้ำมันเตา สาร ละลายไวท์สปิริต และเคมีภัณฑ์ต่างๆ เพื่อจัดจำหน่ายในประเทศ และส่งออก
ไปยังประเทศใกล้เคียง
โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีคลังน้ำมันอยู่ 4 แห่ง ได้แก่ คลังน้ำมันระยอง คลังน้ำมันนครสวรรค์
คลังน้ำมันจุกเสม็ด และคลังน้ำมันโคราช และมีสถานี บริการน้ำมันเพียวเพื่อให้บริการน้ำมันในเขตภาคเหนือ
ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคตะวันออก
ทุนจดทะเบียน 415.55 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 83.11 ล้านหุ้น มูลค่า ตราไว้หุ้นละ
5 บาท โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้ประชาชนทั่วไปคิดเป็นสัดส่วน 19% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด