ธนชาติรอแผนแม่บทก่อนรวมแบงก์


ผู้จัดการรายวัน(6 พฤศจิกายน 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

บง.ธนชาติ ยังไม่มีบทสรุปในการควบรวมกิจการ กับธนาคารธนชาต เหตุต้องรอความชัดเจนแผนแม่บทการเงินจากแบงก์ชาติ-คลังก่อน ด้าน "บันเทิง ตันติวิท" โวสินทรัพย์หลังควบกิจการรวมกว่า 1.5 แสนล้านบาท พร้อมยืนยันไม่มีการเพิ่มทุนอีกภายในระยะเวลา 3 ปี แต่ระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้ 3 หมื่นล้านบาทแทน

นายบันเทิง ตันติวิท ประธาน กรรมการ บริษัทเงินทุน (บง.) ธนชาติ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง กรณี การควบรวมกิจการระหว่างบง.ธนชาติ กับธนาคารธนชาต ว่า บริษัทมีแผนควบรวมกิจการทั้ง 2 แห่งอย่างแน่นอน แต่จะต้องรอแผนแม่บทพัฒนาระบบสถาบันการเงิน หรือ Financial Master Plan ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลังที่จะประกาศ ออกมาอย่างเป็นทางการ เพื่อความ ชัดเจนในการดำเนินการ

"หากแผนแม่บทประกาศเป็น ที่แน่นอนแล้ว ธนชาติพร้อมที่จะดำเนินการตามแผนแม่บทดังกล่าว อย่างรวดเร็ว โดยจะพิจารณาแนวทางที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นและการดำเนินธุรกิจให้มากที่สุด และนำเสนอต่อผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณา อนุมัติต่อไป"

นายบันเทิง กล่าวว่า ขณะที่แผนแม่บทยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ บริษัทเงินทุนไม่มีปัญหาในการดำเนินงานขยายสินเชื่อแต่อย่างใด เนื่องจากเงินกองทุนมีเพียงพอและไม่มี ความจำเป็นต้องเพิ่มทุน และในการดำเนินการตามแผนแม่บทนี้ บริษัทไม่มีความจำเป็นต้องควบรวมกับบริษัทเงินทุนอื่นแต่อย่างใด

สำหรับแนวทางการควบรวมกิจการนั้น นายบันเทิง กล่าวว่า บริษัทมีแนวทางในการควบรวมกิจการ 3 แนวทางคือ แนวทางที่ 1 ใช้วิธีการเช่นเดียวกับที่ธนาคารไทยธนาคารควบรวมกับบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ IFCT คือ ควบรวมแล้วตั้งเป็นบริษัทใหม่ ซึ่งบริษัทใหม่ดังกล่าวจะต้องรับทั้งสินทรัพย์และหนี้สิน อาจจะใช้ชื่อใหม่หรือชื่อเดิมก็ได้ โดยที่จะต้องมีกฎหมายออกมารองรับวิธีการดังกล่าว

แนวทางที่ 2 คือ ให้บริษัทแม่โอนธุรกิจเกี่ยวกับธนาคารพาณิชย์ไปให้กับบริษัทลูก คือธนาคารธนชาต และบริษัทแม่จะเป็นเพียงแค่ผู้ถือหุ้นเท่านั้น และแนวทางที่ 3 คือการยุบบริษัท เงินทุนทั้งหมด และไปถือหุ้นในธนาคารธนชาต ดังนั้น การดำเนินการในการควบรวมหรือการ สวอปหุ้น ไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างไร

"ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการศึกษาว่าจะใช้วิธีใดในการควบรวมกิจการ แต่ทั้งนี้จะต้องรอแผนแม่บทที่ทางธปท.และกระทรวงการคลัง จะประกาศ นอกจากนี้จะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นและการดำเนินธุรกิจให้มาก ซึ่ง 3 แนวทางดังกล่าวบริษัทสนใจที่จะใช้แนว ทางที่ 1 กับ 2 มากกว่า"

อย่างไรก็ตาม หากมีการควบรวมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะทำให้อัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง หรือ BIS Ratio ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2546 อยู่ในระดับ 15% ซึ่งในปัจจุบัน BIS Ratio ของบริษัทเงินทุนอยู่ที่ 10% และของธนาคารอยู่ที่ 30.73% ขณะที่เงินกองทุนของทั้ง 2 บริษัท มีเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง คือ ณ 30 กันยายน 2546 บริษัทเงินทุนธนชาติ มีส่วนของผู้ถือหุ้นทั้งสิ้นจำนวน 19,236.8 ล้านบาท และธนาคารธนชาต มีส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 9,152 ล้านบาท

เตรียมออกหุ้นกู้ 3 หมื่นล้านบาท

สำหรับแผนการเพิ่มทุนนั้น นายบันเทิง กล่าวว่า บริษัทยังไม่มีนโยบายที่จะทำการเพิ่มทุน ในขณะนี้ แต่จะทำการระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้จำนวน 30,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับอนุมัติจาก ผู้ถือหุ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่การออกหุ้นในครั้งนี้จะเป็นการทยอยออกหุ้นกู้ล็อตแรกจำนวน 2,000-5,000 ล้านบาท ภายในเดือนธันวาคมนี้ หลังจากนั้นจะทยอยออกให้ครบจำนวนที่ขอไว้กับผู้ถือหุ้น โดยหุ้นกู้ดังกล่าวมีอายุ 5-7 ปี สำหรับ เงินทุนดังกล่าวจะสามารถรองรับการขยายธุรกิจ ของบริษัทในระยะ 2 เดือน

ในส่วนของบริษัทเงินทุนมีฐานลูกค้าเช่าซื้อ จำนวน 200,000 ราย และในส่วนของลูกค้าเงินฝากมีจำนวน 20,000 ราย ซึ่งเป็นลูกค้าทั้งบริษัท เงินทุนและธนาคารรวมกัน โดยที่มีจำนวนเงินฝากทั้งหมดจำนวน 112,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินฝากของลูกค้าบริษัทเงินทุนจำนวน 71,000 ล้านบาท และลูกค้าธนาคารจำนวน 41,000 ล้านบาท

ปี 47 รุกขยายสินเชื่อรายย่อยเพิ่ม

ส่วนแนวทางการดำเนินธุรกิจในปี 2547 มีแผนที่จะขยายสินเชื่อรายย่อยให้เพิ่มมากขึ้น โดยผ่านทางสาขาที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลัง ซึ่งในส่วนของธนาคารได้รับอนุมัติให้เปิดอีก 18 สาขา ภายในระยะเวลา 2 ปี ซึ่งจากเดิมมีจำนวน 5 สาขา และสำหรับบริษัทเงินทุนซึ่งปัจจุบันมีสำนักอำนวยสินเชื่อจำนวน 13 แห่ง ซึ่งจะไปขยายในต่างจังหวัด เช่น ในจังหวัดภูเก็ตที่มีการเตรียมความพร้อมที่จะขยายธุรกิจของบริษัทในเครือทั้งธนาคาร บริษัทประกันชีวิต ควบคู่ไปกับบริษัทเงินทุน ในส่วนของหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล ของบริษัทเงินทุนนั้นอยู่ในระดับ 0.7% และสำหรับของธนาคารอยู่ในระดับ 3-4% ส่วนใหญ่เป็นหนี้เก่าที่มีการปรับโครงสร้างหนี้ แต่สำหรับหนี้ใหม่เกือบจะไม่มีปัญหาของเอ็นพีแอล



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.