BHเปิดเทรดวันแรกพุ่ง10เท่า โบรกฯ เตือนรายย่อยอย่าเสี่ยง


ผู้จัดการรายวัน(30 ตุลาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

BH หุ้นร้อน กลับมาเทรดซื้อขายในกลุ่มการแพทย์วันแรก เปิดตลาดที่ 61 บาท พุ่ง 1100% ก่อนมีแรงเทขายออกมาปิดตลาดที่ 54 บาท เพิ่มขึ้น 1049% โบรกเกอร์เตือนนักลงทุนอย่าผลีผลาม ชี้ราคาหุ้นสูงเกินจริง ให้ราคาอ่อนตัวค่อยช้อนซื้อ

รายงานความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น BH หรือบมจ. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ซึ่งได้รับอนุมัติจากตลาด หลักทรัพย์ให้กลับมาเปิดเทรดได้อีกครั้งในวันนี้เป็นวันแรก หลังหยุดพักการ ซื้อขายมานานกว่า 3 ปี โดยเปิดตลาดที่ ระดับ 61.00 บาท หลังจากนั้นมีแรงซื้อ ดันราคาแตะสูงสุดที่ 62.00 บาท ก่อนมี แรงเทขายออกมา

ปิดตลาด BH อยู่ที่ 54.00 บาท เพิ่มขึ้น 49.30 บาท เปลี่ยนแปลง 1048.94% มูลค่าการซื้อขายรวม 1,363.66 ล้านบาท

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีมิโก้ กล่าวว่า ราคาหุ้น BH ที่ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 54.00 บาท/หุ้น ถือว่าสูงกว่าที่เรา กำหนดราคาเป้าหมายไว้ที่ 50 บาท ซึ่งเป็นระดับ PE 15 เท่า เนื่องจากบริษัทฯ มีฐานลูกค้าต่างชาติมากตลอดจนความ พร้อมทางด้านบริการต่อลูกค้าในกลุ่มนี้ สอดรับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้ไทยเป็นศูนยŒกลางการแพทย์แห่ง เอเชีย จึงทำให้ BH มีศักยภาพเหนือคู่แข่งขันรายอื่นๆ ในการเติบโตจากลูกค้ากลุ่มนี้

แต่เนื่องจาก BH ไม่มีสาขาเมื่อเทียบกับโรงพยาบาลอื่น ทำให้การเติบโตทางรายได้และกำไรมีน้อยในอนาคต จึงไม่แนะนำให้ซื้อลงทุน รอจังหวะราคาอ่อนตัวค่อยช้อนซื้อ

โดยเราประมาณกำไรสุทธิต่อหุ้น ปีนี้และปี 2547 ที่ 3.37 และ 3.47 บาท ต่อหุ้น เติบโต 37% และ 3% เมื่อเทียบ จากปีก่อนตามลำดับ เป็นผลจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดทางรายได้และค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ ที่ลดลง โดยคาดการณ์รายได้ปีนี้และปีหน้า เติบโตที่ระดับ 22% และ 15% ตามลำดับ ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปีนี้อยู่ที่ระดับ 30.6% และจะปรับขึ้นเล็กน้อยในปีหน้าที่ระดับ 3.18%

บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง ระบุว่า ราคาหุ้น BH ที่ปิดตลาดสูงถึง 10 เท่าเป็นผลจากนักลงทุนคาดหวังว่าเป็น หุ้นใหม่ที่กลับมาเทรดจะมีพรีเมี่ยมสูง แต่ราคาที่เทรดซื้อขายกันนี้นับว่าสูงเกิน ไป เมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ซึ่งเราประเมินราคาหุ้นตัวนี้อยู่ที่ 40 บาท มี PE10 เท่า

คาดว่าในปีนี้ BH กำไรต่อหุ้นจะมีการเติบโตถึง 168% และปีหน้าโตได้ต่อ 15% เป็น 3.35 บาท/หุ้น และ 4.06 บาท/หุ้น ตามลำดับ นอกจากนั้นเรายังได้ปรับ NPV ขึ้นอีก 54% จากเดิมเคยคาดเพียง 26 บาท เป็น 40 บาท จากราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน จึงไม่แนะนำให้ซื้อ จนกว่าราคาจะอ่อนตัวลงมาอยู่ใน ระดับที่ใกล้เคียง 40 บาทแล้วค่อยช้อนซื้อ

ด้านบล.ฟาร์อีสท์ ประเมินว่า BH มีแผนจะใช้ส่วนเกินทุนที่มีอยู่ (share premium) มาลดทุนโดยการลดพาร์จาก 10 บาท เหลือ 5 บาท เพื่อนำมาล้าง ขาดทุนสะสม และจะทำให้ BH สามารถ จ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2547 ได้ ซึ่งเราคาดว่า BH จะจ่ายเงิน ปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2547 ที่ 2.20 บาท/หุ้น หรือคิดเป็น dividend yield 4.68%

จากการเติบโตของรายได้และการ ฟื้นตัวอย่างชัดเจนของธุรกิจโรงพยาบาล รวมทั้งศักยภาพในการทำกำไรที่ดี ในอนาคต ดังนั้นหาก BH กลับมา ซื้อขาย ในช่วงราคาตลาดไม่เกิน 61 บาท



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.