หลากทฤษฎีสีที่ “บ้านหลากสีสัน”


นิตยสารผู้จัดการ( พฤศจิกายน 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

"บ้านหลากสีสัน" หลังที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของลอนดอนนี้ มี Susan Collier ผู้เป็น textile designer ชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของอังกฤษเป็นเจ้าของ เมื่อได้เข้าไปเยี่ยมเยือนก็เท่ากับมีโอกาสได้เรียนเรื่องทฤษฎีการให้สีไปในเวลาเดียวกันด้วย

พอก้าวเท้าเข้าไปในห้องนั่งเล่นก็ได้พบกับความสดใสจัดจ้านของสีที่ตัดกันแบบไม่เกรงใจใคร เหมือนเฉือนส่วนย่อยๆ ของชายฝั่ง Riviera มาไว้ที่นี่ยังไงยังงั้น เพราะผนังห้องทาสีฟ้าสด แล้วใช้ผ้าม่านรวมทั้งพรมปูพื้นลายขาว-แดงเลือดหมูทาบทับ ขณะที่ผนังห้องรับประทานอาหารทาสีเหลือง citrus yellow แต่มีพื้นทาสีลายทางขาว-ดำ ซึ่งน่าจะทำให้แสบตาเพราะสีจัดจ้านเหลือเกิน แต่จริงๆ แล้วหาได้เป็นอย่างนั้นไม่ มันกลับทำให้ผู้ได้พบเห็นรู้สึกเบิกบานหัวใจอย่างน่าประหลาด นั่นเพราะสายตาเฉียบคมของศิลปินอย่าง Susan Collier และคงเป็นเหตุผลอธิบายความสำเร็จของเธอได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันเธอควบคุมกิจการ Collier Campbell ร่วมกับน้องสาว Sarah Campbell ด้วย

"ตอนที่เพิ่งเข้ามาในบ้านหลังนี้ ฉันรู้สึกแย่มาก เพราะห้องนั่งเล่นทาสีแดงเข้มทึบทึมจริงๆ จึงต้องกำจัดสีนั้นออกไปด้วยการทาสีขาวทับทั้งหมด รวมทั้งทำให้ห้องกลับมามีรูปทรงตามพื้นที่เดิมด้วยการรื้อเตาผิงและตู้ built-in ออก จากนั้นก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะทำให้ห้องนี้ดูดีน่ามองได้ยังไง?" Susan ฟื้นความหลัง

แล้วเธอก็ได้คำตอบว่า ต้องทาผนังห้องด้วยสีฟ้าสด จากนั้นตัดด้วยผ้าม่านลายขาว-แดง ซึ่งเป็นสีโปรด เป็นผ้าม่านเพนต์ด้วยมือของ Collier Campbell ที่ออกแบบให้ Habitat เมื่อปี 1992 ส่วนพรมปูพื้นสีเดียวกันเป็นของ Ikea ขณะที่โซฟาซึ่งคลุมด้วยผ้าลาย ทางขาว-แดงนั้น ซื้อจากตลาดในฝรั่งเศส Susan Collier ยังอธิบายทฤษฎีการให้สีไว้อย่างน่าสนใจว่า

"บางคนอาจคิดว่าผนังสีครีมน่าจะไปด้วยกันได้ดีกับสีขาว-แดง แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ฉันเลือกสีฟ้าสดทางผนังห้อง เพราะเป็นสีที่สามารถตรึงสีขาวและแดงได้ ทำให้มันคงความสดใสอย่างที่ควรจะเป็นอยู่ตลอดเวลา ส่วนพรมปูพื้นลวดลายน่าเวียนหัวก็ไม่ใช่ปัญหาเลย เมื่อได้สีฟ้ามาตรึงให้อยู่ในที่ในทางอย่างสงบ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของสีที่ใครๆ ก็เรียนรู้ได้ด้วยความเชื่อมั่น หลักง่ายๆ มีอยู่ว่า คุณจะประสบความสำเร็จในการเลือกใช้สีๆ หนึ่งด้วยดีก็ต่อเมื่อสามารถหาสีอื่นมาตัดหรือเทียบแล้วออกมาลงตัวนั่นเอง"

ศิลปินเจ้าของบ้านเล่าต่อไปเรื่อยๆ ว่าจริงๆ แล้ว บ้าน 3 ชั้นสไตล์ Victoria หลังนี้ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นในเชิงสถาปัตยกรรมเลยแม้แต่น้อย "เป็นบ้านธรรมดาๆ ที่ต้องการการตกแต่งด้วยหัวใจรักอย่างแท้จริง" เธอจึงใช้หัวใจรักเข้าไปพลิกโฉมห้องรับประทานอาหารเสียใหม่ โดยเฉพาะผนังห้องพักรอ (waiting-room) ซึ่งเดิมทาสี beige นั้น Susan Collier บอกว่าเป็นสีที่ไม่เหมาะเอาเสียเลย เพราะไม่ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า จึงเปลี่ยนเป็นสีเหลือง citrus yellow แทน และเมื่อไม่นานมานี้ เธอเพิ่งได้แนวคิดทาสีพื้นห้องรับประทานอาหารเป็นลายทางขาว-ดำ ผลที่ออกมาจึงเป็นความลงตัวอย่างที่เห็น (โปรดดูภาพประกอบ)

เมื่อถึงงานให้สีห้องครัว Susan ต้องปฏิวัติทั้งส่วนของสีและสถาปัตยกรรม โดยทาผนังด้วยสีขาวแทนสี beige และบริเวณทางเข้าที่ติดกับห้องรับประทานอาหารนั้นเดิมเป็นรูปโค้งต่ำ ทำให้เธอต้องแก้ไขด้วยการเปิดโค้งขึ้นไปให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผลคือแสงสว่างจากข้างนอกสามารถสาดส่องเข้าไปถึงบริเวณที่ประกอบอาหารของห้องครัวได้มากขึ้น เมื่อมีลมอ่อนๆ พัดมาทางหน้าต่างห้องครัว จะเห็นผ้าม่านลวดลายสดใสหลากสีสันที่ประดับอยู่พลิ้วไหวล้อลมไปมา เป็นงานเพนต์มือของน้องสาวคือ Sarah ที่ตั้งใจออกแบบให้พี่สาวโดยเฉพาะ ส่วนพื้นห้องครัวที่เป็นลายทางสีเทานกพิราบสลับขาวนั้น สะท้อนถึงการนำหลักการทาสีพื้นห้องรับประทานอาหารมาปรับใช้นั่นเอง

งานออกแบบสีพร้อมๆ กับการตกแต่งภายในลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แม้คนที่ลงมือเองจะเป็นศิลปินระดับ textile designer อย่าง Susan ก็ตาม ตัวอย่างง่ายๆ คือ การเลือกเฉดสีให้ถูกต้องเหมาะสมเพียงสีเดียวคือฟ้าอ่อน เพื่อใช้ในห้องนอนนั้น เป็นงานละเอียดอ่อนที่ต้องใช้เวลามากทีเดียว แต่สำหรับ Susan แล้วเห็นว่าเป็นงานที่น่าสนใจคุ้มค่าแก่การทุ่มเท แรงบันดาลใจเริ่มแรกที่ทำให้เธอศึกษาเฉดสีฟ้าอ่อนอย่างจริงจัง มาจากสิ่งของที่มีคุณค่าทางจิตใจหลายชิ้นที่เธอมีไว้ครอบครองมาเป็นเวลานานและมีสีฟ้าทั้งสิ้น อาทิ กล่องสบู่โบราณ-Floris ภาพเขียนรูปดอกไม้ฝีมือลูกสาวคนหนึ่งของเธอ และกระถางต้นไม้สีฟ้า ซึ่งเป็นเหล็กเคลือบที่ปลูกดอก hydrangea สีขาว "ฉันชอบกระถางใบนี้เป็นพิเศษ เพราะเฉดสีฟ้าของมันสามารถใช้เป็นสีเปรียบเทียบให้เห็นว่า สีฟ้าของผนังห้องนอนนั้นมีเฉดสีอ่อนมากขนาดไหน จุดที่น่าสนใจคือ คุณสามารถใช้สีๆ หนึ่ง เป็นตัวบอกธรรมชาติของอีกสีหนึ่งได้"

ในส่วนของห้องน้ำนั้น จะเห็นว่าศิลปินผู้เชี่ยวชาญเรื่องการให้สีเลือกทาสีชมพู strawberry pink "ฉันชอบเฉดสีนี้มาก ทริคง่ายๆ ที่จะลดความจัดจ้านของมันอยู่ที่การใช้สีครีมหม่นตัดตามขอบ จะไม่ใช้สีขาวอย่างเด็ดขาด พื้นและเพดานก็ทาด้วยสีครีมหม่นนี้เช่นกัน"

เมื่อซื้อบ้านหลังนี้มาใหม่ๆ Susan คิดว่า มันช่างเป็นบ้านที่น่าเกลียดเอาเสียจริงๆ จึงตั้งใจว่าจะเอาไว้ทำสวนและใช้เป็นสตูดิโอเท่านั้น แต่มาถึงวันนี้เธอกลับตกหลุมรัก "บ้านหลากสีสัน" หลังนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น "บ้านหลังนี้ทำให้ฉันได้ประจักษ์กับตัวเองถึงบทบาทของสีว่า สามารถทำให้คุณเกิดความรู้สึกแสนวิเศษได้อย่างประหลาด จะเรียกว่าเหมือนมีมนต์สะกดก็น่าจะได้"



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.