Food Designer นูรอ โซ๊ะมณี

โดย อรวรรณ บัณฑิตกุล
นิตยสารผู้จัดการ( พฤศจิกายน 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

เด็กสาวตัวเล็ก ขี้อายคนหนึ่งจากจังหวัดฉะเชิงเทรา ผู้ทำกับข้าวไม่เป็นเลย จนถูกผู้เป็นแม่ปรามาสว่า "อย่างนี้ใครจะมาเอาเป็นภรรยาล่ะ" วันนี้เธอกลายเป็นเจ้าของร้านอาหารที่มีสาขาต่างๆ ในยุโรปและตะวันออกกลางถึง 12 สาขา

นูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ มีเชื้อสายมุสลิมผ่านมาทางมารดา หน้าตาผิวพรรณเลยดูคมเข้ม กลายเป็นสาวสเปนในความเข้าใจของชาวต่างชาติ และเธอยังสามารถพูดภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และสเปน ได้ดีอีกด้วย

เมื่อชีวิตพลิกผันไปอยู่ที่เบลเยียมกับพี่ชาย ซึ่งไปเรียนด้านการโรงแรมที่นั่น เธอได้แต่งงานกับ มร.คาร์ล สเต็ปเป้ ในเวลาต่อมา คราวนั้นเองที่อาหารไทยง่ายๆ ที่ทางครอบครัวพยายามสอนให้ทำในวัยเด็ก กลายเป็นเมนูอาหารขึ้นโต๊ะทานกันเองในครอบครัว และได้กลายเป็นความคิดที่จะเปิดร้านอาหารไทยขึ้น

นูรอกลับมาเมืองไทยเพื่อฝึกทำอาหารและเรียนรู้เคล็ดลับการทำอาหารไทยต่างๆ อย่างหนักจากพี่สาวและครอบครัว ก่อนที่จะไปเปิดร้านอาหารไทยตำรับชาววังร้านแรกที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม

เป็นความกล้าอย่างมากทีเดียวเพราะในช่วงเวลานั้น อาหารไทยไม่ได้เป็นที่รู้จักกันมากมายในต่างประเทศเหมือนปัจจุบัน

ร้านบลูเอเลเฟ่นท์ สาขาแรกตกแต่งอย่างสวยงามในสไตล์ตะวันออก พนักงานสาวไทยในชุดไทยที่ดูแปลกตา และสดชื่นไปทั่วร้านด้วยกล้วยไม้ที่ส่งมาจากเมืองไทย ประกอบกับรสชาติอาหารหลากหลาย ครบทุกรสทั้ง เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เมนูเด็ดของร้านตั้งแต่ตอนนั้น ก็คือ ต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวาน ผัดไทย ถูกตกแต่งมาอย่างสวยงามและยังมีสีสันที่ชวนรับประทาน เป็นเสน่ห์สำคัญในการดึงดูดลูกค้า ทำให้ร้านแรกที่มีเพียง 40 ที่นั่ง ขยายเพิ่มเป็น 120 ที่นั่งภายในเวลาเพียง 6 เดือน และมั่นใจมากในการเปิดสาขาที่ 2 ทันทีในกรุงลอนดอนถึง 250 ที่นั่ง

การมาเปิดสาขาที่เมืองไทยเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่านมา เป็นความฝันอย่างหนึ่งของนูรอ จากที่เคยกลับมาเยี่ยมบ้านเพียงปีละ 2 ครั้ง ทำให้เธอต้องมาบ่อยขึ้น และคราวนี้พักยาวถึง 2 เดือน สิ้นเดือนตุลาคม 2546 เธอมีกำหนดเดินทางกลับกรุงบรัสเซลส์ ซึ่งสามีและลูกชายหญิง 3 คนคอยอยู่ที่นั่น

ปัจจุบันชีวิตของเธอเต็มไปด้วยตารางการเดินทางไปยังร้านอาหารสาขาต่างๆ ในแต่ละประเทศ หลายครั้งต้องเดินทางไปชิมอาหารจากเชฟชื่อดังของโลก เพื่อเรียนรู้ว่า อาหารที่มีรสชาติถูกปากคนส่วนใหญ่นั้นเป็นอย่างไร

"มีอยู่คราวหนึ่ง สามีจองตั๋วเครื่องบินให้ไปชิมอาหารร้านที่มีชื่อแห่งหนึ่งในสเปน ชิมไปน้ำตาร่วงไป เพราะเหนื่อยจากการเดินทางแล้วยังต้องเครียดมาคอยคิดอีกว่า อาหารที่ทานไปนั้นประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และเขามีเทคนิคในการทำอย่างไร" นูรอเล่าให้ฟัง

การไปชิมอาหาร รวมทั้งเดินทางไปร่วมเทศกาลอาหารนานาชาติ เป็นเรื่องที่เธอให้ความสำคัญ และชอบที่จะศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ ทั้งๆ ที่เมนูหลักของบลูเอเล เฟ่นท์เป็นอาหารไทยรสชาติดั้งเดิม แต่เธอบอกว่า การทำอาหารก็เหมือนดีไซเนอร์ ที่ต้องรู้ว่าเทรนด์ในการทานอาหารของคนส่วนใหญ่เป็นแบบไหน อาหารของประเทศอื่นมีการพัฒนารสชาติ และหน้าตาของอาหารเป็นอย่างไร

ทุกครั้งที่มาเมืองไทย ร้านอาหารที่เธอต้องเข้าไปรับประทานเป็นประจำ คือร้าน ม.ล.เติบ และร้านท่านหญิง นูรอชื่นชมสองร้านนี้มาก ที่สามารถทำเมนูอาหารธรรมดาหลายอย่างให้กลายเป็นอาหารจานพิเศษ ทั้งอร่อยและสวยงามขึ้นมาได้

ในเร็วๆ นี้ หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คอยพบกับร้านบลูเอเลเฟ่นท์ สาขาใหม่ในเมืองไทยที่จังหวัดภูเก็ต



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.