อัลไพน์กอล์ฟ จากก้อนดินเป็นเม็ดเงินของทักษิณ ชินวัตร


นิตยสารผู้จัดการ( ธันวาคม 2542)



กลับสู่หน้าหลัก

จากก้อนดินเป็นเม็ดเงินของทักษิณ ชินวัตรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์ใหม่กำลังแตกแขนงมากขึ้น จากที่ราบ 770 ไร่ บนผืนนาแห่งท้องทุ่งรังสิต จังหวัดปทุมธานีเมื่อ หลายปีก่อน ถูกเนรมิตปั้นแต่งด้วย ฝีมือมนุษย์อย่างประณีตบรรจง จนกระทั่งกลายเป็นสนามกอล์ฟภูเขาที่สมบูรณ์แบบและมีความท้าทายสมกับชื่อ "ALPINE" ที่แปลว่า "ภูเขาสูง"

นับเป็นความตั้งใจจริงของกลุ่มอัลไพน์เรียลเอสเตท ที่ต้องการสร้างสนามกอล์ฟที่ดีแห่งหนึ่งให้เกิดในประเทศไทย หากไม่เป็นเพราะการเกิดวิกฤติทางการเงินที่เกี่ยวโยงสร้างปัญหาให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ของกลุ่มนั้น สนามแห่งนี้ก็คงไม่ต้องตกไปเป็นทรัพย์สินของบริษัท เอสซี แอสแซท หนึ่งในเครือของชินวัตรกรุ๊ปของทักษิณ ชินวัตรเมื่อปลายปี 2541 ที่ผ่านมาแน่นอน

ทักษิณฉวยจังหวะซื้อสนามกอล์ฟอัลไพน์ในวงเงินประมาณ 500 ล้านบาททั้งๆ ที่ราคาตอนนั้นสูงกว่านั้นมาก นอกจากจะซื้อได้ในราคาที่ดีแล้ว การที่เป็นสนามกอล์ฟที่อยู่ในทำเลที่ดีไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนักก็เป็นโอกาส ที่จะทำมูลค่าเพิ่มได้ในอนาคตอีกด้วย และยังสามารถเอาไว้เป็นที่ฝึกมือของตัว เอง รับรองแขกส่วนตัว แขกของผู้บริหารของพนักงานในกลุ่มชินวัตร รวม ถึงนักกอล์ฟที่ต้องการความเป็นไพรเวท ทั่วไปด้วย

ดังนั้นสนามกอล์ฟแห่งนี้จึงมีนโยบายที่วางไว้ชัดเจนว่าเป็นสนามกอล์ฟปิด ซึ่งผู้มีสิทธิได้เข้าไปเล่น คือผู้ซื้อสมาชิกหรือแขกของสมาชิกเท่านั้นไม่ได้เปิดให้นักกอล์ฟทั่วไปที่สนใจเข้ามาเล่น

โดยเฉลี่ยในแต่ละเดือนหากไม่ติดเดินทางไปต่างประเทศ หรือมีคิวเดินสายหาเสียงในประเทศ ทักษิณจะมาเล่นกอล์ฟในสนามแห่งนี้ประมาณเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งนอกจากเป็นการพักผ่อนออกกำลังกายเป็นการส่วนตัวแล้วการเล่นแต่ละครั้ง ก็เหมือนเป็นการทดสอบสนามในตัวเพื่อให้ฝ่ายบริหารสนามคอยปรับปรุงเช่นกัน

การซื้อสนามกอล์ฟเข้าพอร์ตทรัพย์สินของตนเอง ทำให้สายอสัง-หาริมทรัพย์ของทักษิณซึ่งแบ่งทั้งหมดเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ 1. สายงานด้านพร็อพเพอร์ตี้แมเนจเม้นท์ เช่นอาคารชินวัตร 1 ชินวัตร 2 อาคารราชวัตร รวมถึงตึกชินวัตรตึกใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวต้นปีหน้า 2. สายงานเกี่ยวกับโครงสร้างตึก 3. สายงานทางด้านโรงแรม และสนามกอล์ฟ ซึ่งจะมีโครงการ สาธร แมนชั่น โรงแรม SC ปาร์ค และสนามกอล์ฟอัลไพน์รวมทั้งการถือหุ้นใน ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ ทั้งหมดเป็นมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท รายได้ ณ ปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 1,000 กว่าล้านบาทต่อปี

ตั้งแต่ซื้อโครงการมาได้มีการพัฒนาปรับปรุงมาตลอด โดยเฉพาะเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานั้นสนามกอล์ฟอัลไพน์ ได้มีการปรับปรุงครั้งใหญ่ในส่วนสนาม และในส่วนของคลับเฮาส์รวมเงินทั้งหมดที่ใช้ในการปรับปรุงไปแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เพื่อให้ทัน กับฤดูกาลแห่งการเล่นกอล์ฟของนักกอล์ฟที่จะเริ่มต้นในช่วงเดือนพฤศจิ-กายน ถึงเดือนมีนาคมของแต่ละปี

ทวีรัตน์ จารุพัฒนาพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานธุรกิจบริการ กลุ่มบริษัทเอสซี แอสแซท คือผู้ที่เข้าดูแล บริหารสนามกอล์ฟแห่งนี้โดยก่อนที่จะมาเริ่มต้นงานที่สนามกอล์ฟแห่งนี้ เธอมีประสบการณ์โชกโชนมาแล้วจากการบริหารสนามกอล์ฟ 3 สนามของกลุ่มแนเชอรัลปาร์ค รวมทั้งประสบการณ์ใน เรื่องการบริหารโรงแรมจากกลุ่มเซ็นทรัล

เธอเล่าให้ "ผู้จัดการ" ฟังว่าแผน ปรับปรุงสนามมีด้วยกัน 2 ส่วนคือ ส่วน งานสนามที่จะทำการปรับปรุงในส่วนหัวใจของสนาม คือได้เปลี่ยนหญ้าบนกรีนใหม่จากเดิมที่เป็นหญ้าเบอร์มิวด้า "ทิฟดร๊วฟ" เปลี่ยนเป็นหญ้าเบอร์มิวด้า สายพันธ์ล่าสุดจากอเมริกาที่ชื่อ "ทิฟอีเกิ้ล" ซึ่งหญ้าพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ที่มีความแข็งแรง สามารถตัดสั้นได้ทำให้กรีนมีความเร็วเท่าระดับมาตรฐานของพีจีเอ นอกจากนี้จะทำการปรับปรุงระบบการระบายน้ำ และระบบการให้น้ำเป็นระบบที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

และส่วนที่ 2 ก็คือการทำการปรับ ปรุงในส่วนของคลับเฮาส์ โดยมีการปรับ เปลี่ยนและขยายมุมมองเพื่อให้เห็น ทัศนียภาพของสนามได้โดยรอบ

ปัจจุบันค่าสมาชิกของบุคคลธรรมดาราคา 5 แสนบาท ภรรยาหรือบุตรที่อายุไม่เกิน 18 ปี สามารถเป็นสมาชิกสมทบได้โดยเสียค่าบำรุงเป็นรายปี ปีละประมาณ 6 พันบาท ส่วนนิติบุคคลค่าสมาชิก 1 ล้านบาท โดยไม่ต้องเสียค่าบำรุงสนามเป็นรายปีอีก กลุ่ม เป้าหมายของลูกค้านั้นทวีรัตน์ได้เน้นไปยังกลุ่มผู้บริหารที่มีบริษัทอยู่ทางด้านตอนเหนือของกรุงเทพฯ เช่น นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา ส่วนลูกค้าต่างประเทศก็จะเน้นไปยังลูกค้าจากประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก

ทวีรัตน์บอกว่าตัวเลขสมาชิกหลักและสมาชิกสมทบปัจจุบันประมาณ 500 กว่าราย เธอยืนยันว่าตัวเลขสมาชิก จะกำหนดไว้เพียง 1,000-1,200 รายเท่านั้น เพื่อให้คงเป็นความส่วนตัวอย่าง ที่ทักษิณต้องการให้มากที่สุด ซึ่งกว่าจะ ถึงจำนวนนั้นก็คงใช้เวลาอีกนานเช่นกัน

เพราะทุกวันนี้ธุรกิจสนามกอล์ฟ กำลังแข่งขันกันอย่างรุนแรงเช่นกัน โชค ดีที่อัลไพน์กอล์ฟ ไม่มีภาระหนี้สินติดตัว และยังมีเม็ดเงินจากกระเป๋าของบริษัทที่พร้อมจะสนับสนุนอย่างไม่ขาดสายเพื่อ เป็นการช่วงชิงลูกค้า ในขณะที่สนามกอล์ฟเจ้าอื่นยังคงชะลอตัว



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.