หลายทัศนะในสายตาของ ลี คุน-ฮี ประธานกรรมการซัมซุง-กรุ๊ป


นิตยสารผู้จัดการ( พฤศจิกายน 2533)



กลับสู่หน้าหลัก

นับแต่ตำแหน่งประธานกรรมการกลุ่มบริษัทซัมซุงในปี 1978 ลี คุน-ฮีไม่ได้เปิดตัวในวงการธุรกิจให้โดดเด่นอย่างผู้นำกลุ่มบริษัทอื่นๆในเกาหลี และไม่ได้เลียนแบบแนวทางการบริหารที่ยึดการตัดสินใจของตนเองเป็นศูนย์กลางอย่างพ่อของเขา

แต่คุน-ฮีในวัย 48 ปี ก็ได้ทำให้ผู้ที่เฝ้าสงสัยในความสามารถ และความเป็นผู้นำของเขาต้องงงงันเมื่อยอดรายได้ของกิจการในยุคของเขาเพิ่มสูงขึ้นราว 50% ความรู้ทางธุรกิจจากมหาวิทยาลัยทั้งในญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ทำให้เขาเข้าใจดีถึงความสำคัญของเทคโนโลยี อีกทั้งผลักดันให้ผู้บริหารระดับสูงทำความเข้าใจกับแนวคิดแบบตะวันตกด้วย

สไตล์การบริหาร

คุน-ฮียอมรับว่าปรัชญาการบริหารและแนวทางการบริหารขั้นพื้นฐานของเขานั้น ไม่ได้แตกต่างจากพ่อของเขาแต่ในแง่ของสไตล์แล้วไม่ได้เหมือนกันทีเดียว ในภาวะที่โครงสร้างทางสังคมเกาหลีใต้ทวีความสลับซับซ้อนขึ้น โลกก้าวเข้าสู่ยุคข่าวสารข้อมูล และธุรกิจระหว่างประเทศไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ภายใต้พรมแดนของความเป็นประเทศอีกต่อไป ซัมซุงจึงต้องเน้นการกระจายอำนาจการบริหารงานให้มากขึ้น เพื่อให้ผู้บริหารต่างมีโอกาสใช้ความสามารถเฉพาะตัวได้มากขึ้น และเต็มใจที่จะท้าทายสิ่งใหม่ๆโดยไม่หวั่นเกรงความล้มเหลว กล้าตัดสินใจ และรู้จักแสวงหาข้อได้เปรียบเมื่อโอกาสมาถึง

การพัฒนาธุรกิจ

ภายใน 10 ปีข้างหน้า โครงสร้างทางธุรกิจของซัมซุงจะรวมศูนย์อยู่ที่ธุรกิจทางด้านอิเล็กทรอนิกส์, อุตสาหกรรมหนักและอุตสาหกรรมเคมีอีกทั้งให้ความสำคัญกับสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีตอบสนองชีวิตความเป็นอยู่ที่ทันสมัย โดยใช้ฐานธุรกิจทางด้านการก่อสร้าง, การเงิน, ประกันภัย และบริการด้านอื่นๆเป็นส่วนสนับสนุน การวิจัยและพัฒนา, การผลิตและการตลาดจะถูกปรับให้เข้ากับท้องถิ่นแต่ละแห่ง อีกทั้งรุกคืบหาพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ในต่างประเทศให้มากขึ้น

นโยบายของรัฐบาล

ซัมซุงจะถูกกดดันจากข้อกำหนดที่เข้มงวดในการขยายการลงทุนมากขึ้นต่อรัฐบาลเกาหลีใต้ก็คือ รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญกับการได้มาซึ่งประสิทธิภาพและความสมดุลของระบบเศรษฐกิจและเล็งเห็นความสำคัญของธุรกิจ ในระบบเศรษฐกิจแบบตลาดเสรี รัฐบาลไม่ควรจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจของกลุ่มธุรกิจต่างๆ

ส่วนการที่จะแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดส่งออกนั้น ภาคธุรกิจจะต้องเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าในการที่จะปฏิวัติแนวการประกอบธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตสินค้าหรือการลดต้นทุนการผลิตลง ซึ่งส่วนนี้รัฐบาลควรจะเข้าไประงับสถานการณ์การลุกฮือของกรรมกร และรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประะเทศ เพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถทำกำไรได้จากการส่งออก

เทคโนโลยี

ระดับการพัฒนาเทคโนโลยีของซัมซุงในบางแขนงนั้นห่างไกลจากญี่ป่นอยู่ 2-3 ปี ขณะที่บางแขนงก็ทิ้งห่างถึง 5 ปี เป็นการยากที่จะไล่ให้ทันญี่ปุ่นได้ทุกแขนงธุรกิจ ซัมซุงจึงเลือกที่จะมุ่งเน้นไปที่การวิจัยและพัฒนาทางด้านเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อให้เทคโนโลยีทางด้านนี้ก้าวล้ำนำหน้าคู่แข่ง

เกาหลีเหนือ

เกาหลีเหนือนั่นเป็นประเทศที่เหมาะที่จะร่วมธุรกิจด้วยอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาในแง่ของการใช้ภาษาและวัฒนธรรม ซัมซุงสามารถใช้เทคโนโลยีการผลิตที่มีอยู่อย่างกว้างขวางและประสบการณ์ทางธุรกิจเข้าไปสนับสนุนธุรกิจในเกาหลีเหนือได้ (ทัศนะเช่นนี้ ลี คุน-ฮี คงได้รับอิทธิพลทางความคิดในเชิงยุทธศาสตร์จากบริษัทยักษ์ใหญ่ในเยอรมนีตะวันตกที่มองถึงโอกาสในเยอรมนีตะวันออก หลังการรวมประเทศทั้งสองเข้าด้วยกัน …บรรณาธิการ)

แรงงานสัมพันธ์

ซัมซุงนั้นยึดมั่นและเคารพในความเป็นมนุษย์, ให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานและมีโครงสร้างการบริหารบุคคลที่เป็นธรรม นอกจากนั้นยังให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับการรับประกัน ว่าพนักงานทุกคนจะได้รับการปฏิบัติตามเขาคาดหวังว่าจะไดัรับในสังคม และให้ความมั่นใจกับพนักงานว่าจะได้รับความพอใจในชีวิตการทำงาน ซัมซุงยังพยามยามกระตุ้นให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตของบริษัท และทำให้พนักงานเชื่อว่าความก้าวหน้าของบริษัทนั้นไม่ได้เป็นไปเพื่อบริษัทเท่านั้น หากมีผลต่อตัวพนักงานเอง, ครอบครัวและประเทศชาติด้วย



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.