คาร์ลอส มิเกล กูเทียร์เรซ "เคลล็อก" จะน็อกปาท่องโก๋?


นิตยสารผู้จัดการ( มีนาคม 2539)



กลับสู่หน้าหลัก

หลังจากส่งสินค้าเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยนานถึง 40 ปี ในที่สุด "เคลล็อก" ก็ตัดสินใจเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานผลิตอาหารธัญพืชสำเร็จรูป หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ซีเรียล ขึ้นที่นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง โดยได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์ไปเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ส่วนการก่อสร้างจะเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคมนี้ และคาดว่าจะเริ่มผลิตสินค้าได้ในต้นปี 2540 โดยจะเป็นการดำเนินงานภายใต้ชื่อ บริษัทเคลล็อก (ประเทศไทย) จำกัด

นายคาร์ลอส มิเกล กูเทียร์เรซ รองประธานบริหาร บริษัท เคลล็อก จำกัด ในฐานะประธานเคลล็อกประจำภาคพื้นเอเชีบแปซิฟิก ซึ่งเดินทางเข้ามาร่วมพิธีกล่าวถึงปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลให้เคลล็อกตัดสินใจตั้งโรงงานในประเทศไทยว่า เริ่มจากการได้รับการต้อนรับอย่างดีจากหน่วยงานรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ภาคเอกชนในช่วงที่เข้ามาสำรวจหาพื้นที่ บวกกับปัจจัยอื่นๆ อาทิ นโยบายการส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐบาลการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศที่รวดเร็ว ผลิตผลทางการเกษตรที่มีคุณภาพความพร้อมทางด้านสาธารณูปโภค นิคมอุตสาหกรรมและแรงงาน

"ด้วยเหตุผลทั้งหมดดังกล่าว เคลล็อกจึงเลือกให้ไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าแห่งเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากที่ได้เข้าไปสำรวจในประเทศอื่นๆ มาแล้ว โดยสินค้าที่ทำการผลิต นอกจากจะจำหน่ายในประเทศไทย เพื่อทดแทนการนำเข้าจากออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกาแล้ว ยังจะเป็นฐานในการส่งออกไปยังประเทศอื่นในแถบนี้อีกด้วย"

นอกจากนี้นายกูเทียร์เรซยังยอมรับว่า การเกิดขึ้นของเขตการค้าเสรีอาเซียนหรืออาฟตา ซึ่งกำลังจะมีผลบังคับใช้ในไม่กี่ปีข้างหน้า ก็มีส่วนสำคัญทำให้เคลล็อกตัดสินใจเข้ามาตั้งโรงงานผลิตสินค้าในประเทศไทยช่วงนี้เช่นกัน เพราะเคลล็อกจะได้รับประโยชน์ทางด้านภาษีในการส่งสินค้าจากฐานการผลิตที่ประเทศไทยไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนขณะที่หากยังต้องนำเข้าจากนอกภูมิภาคอย่างเช่นปัจจุบันนี้จะทำให้บริษัทเสียเปรียบในเรื่องการแข่งขัน

โรงงานผลิตอาหารธัญพืชสำเร็จรูป "เคลล็อก" ในประเทศไทย นับเป็นโรงงานอันดับที่ 25 หรือเป็นโรงงานแห่งที่ 6 ในทวีปเอเชียต่อจากประเทศออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย และสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเพิ่งเริ่มดำเนินการเมื่อปี 2538 ที่ผ่านมา โดยเคลล็อกต้องใช้เงินลงทุนในครั้งนี้ทั้งสิ้นประมาณ 300 ล้านบาท สำหรับเป็นค่าที่ดินขนาด 12 ไร่ ค่าก่อสร้างโรงงานขนาด 4,000 ตารางเมตร และค่าเครื่องจักรสำหรับกำลังการผลิตเฟสแรกประมาณ 4 ล้านกิโลกรัมต่อปี ซึ่งหากมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มก็ต้องลงทุนเพิ่ม

นอกจากหวังให้ไทยเป็นฐานส่งออกแล้ว การเข้ามาลงทุนสร้างโรงงานผลิตในประเทศไทยก็ยังแสดงให้เห็นว่า เคลล็อกเตรียมที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจังเสียทีหลังจากที่ปล่อยให้สินค้าโตตามธรรมชาติมานาน เพราะถ้าเคลล็อกเข้ามาบุกตลาดอย่างจริงจังตั้งแต่ 40 ปีที่แล้วที่เริ่มเข้ามา ป่านนี้คนไทยอาจจะกินซีเรียลกันทั้งเมืองไปแล้วก็ได้

เคลล็อกแต่งตั้งให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไทยแสงกรอเซอร์รีส เป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าเมื่อกว่า 40 ปีมาแล้ว แต่เพิ่งเข้ามาช่วยทำตลาดเมื่อประมาณ 5ปีที่ผ่านมา ซึ่งกิจกรรมหลักๆ ที่ใช้ก็เป็นเพียงการโฆษณาทางสื่อต่างๆ โดยมีบริษัท ลีโอ เบอร์เนท เป็นผู้แทน

ด้วยความที่ไม่ให้ความสนใจในการทำตลาดอย่างจริงจัง ทำให้ตลาดรวมของอาหารเช้าประเภทธัญพืชของไทยมีมูลค่าเพียง 200-300 ล้านบาทเท่านั้น ขณะที่ขนมขบเคี้ยวซึ่งเกิดขึ้นทีหลัง แต่ได้รับการกระตุ้นอย่างจริงจังมีมูลค่าตลาดรวมนับพันล้านบาทไปแล้ว

"หลังจากที่เคลล็อกเข้ามาช่วยทางด้านการตลาด อัตราการเติบโตของยอดขายก็เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอัตราการเติบโตปีละ 20% เป็นเติบโตปีละ 100%" กิตติพงษ์ อัศววัฒนา ผู้จัดการทั่วไป ไทยแสงกรอเซอร์รีส เล่าให้ "ผู้จัดการ" ฟัง

แม้ว่าปัจจุบันเคลล็อกจะเป็นเจ้าตลาด โดยมีส่วนแบ่งในตลาดนี้อยู่ถึง 50% หรือคิดเป็นยอดขายประมาณ 100-150 ล้านบาท แต่เมื่อเทียบกับยอดขายของเคลล็อกในปี 2538 ที่ผ่านมา ซึ่งมียอดขายทั่วโลก 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 175,000 ล้านบาท ขณะที่มีกำลังการผลิตรวมอยู่ 1 พันล้านกิโลกรัมแล้วจะเห็นว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่เล็กมาก

"แต่เคลล็อกก็ถือว่าตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นตลาดที่แท้จริงของบริษัท เพราะมีศักยภาพในการขยายตัวสูงมาก จะเห็นได้จากจำนวนประชากรที่มีมากถึง 600 ล้านคน ประกอบกับอัตราการบริโภคซีเรียลต่อคนต่อปียังอยู่ในอัตราที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วอย่างออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา ซึ่งมีอัตราการบริโภคต่อคนต่อปีมากกว่าคนละ 5 กิโลกรัม" กูเทียร์เรซกล่าว

อย่างไรก็ดี กูเทียร์เรซปฏิเสธที่จะเปิดเผยถึงแผนการรุกตลาดอย่างเต็มตัวในปีหน้า หลังจากที่โรงงานในประเทศไทยสร้างเสร็จ โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า มั่นใจว่าจะสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยได้สำเร็จ

โดยเคลล็อกรู้ดีว่าการจะทำให้คนไทยที่คุ้นเคยกับการรับประทานโจ๊ก ข้าวต้ม ก๋วยจั๊บ หรือปาท่องโก๋เป็นอาหารเช้ามานาน หันมารับประทานซีเรียลนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และอาหารเช้าสไตล์ไทยๆ อย่างนี้นี่แหละที่เป็นคู่แข่งสำคัญของเคลล็อก ยิ่งกว่าสินค้าประเภทเดียวกันที่ทั้งเนสท์เล่ เซราบอส โอวัลตินและยี่ห้ออื่นๆ ทำตลาดอยู่เสียอีก



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.