มัลติมีเดียของ "ดาต้าแมท" ไม่ใช่แค่พีซี แต่ต้องทะลุไปถึงจอโทรทัศน์


นิตยสารผู้จัดการ( สิงหาคม 2538)



กลับสู่หน้าหลัก

"ดาต้าแมทกำลังพยายามกุมตลาดมัลติมีเดียไทย" ข่าววงในพูดกันหนาหูเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม" "ไม่ถึงเช่นนั้นครับ เพียงแต่ว่าเราเข้าใจตลาดมัลติมีเดียมากกว่าชาวบ้านก็เท่านั้น พอเข้าใจแล้วจึงรุกเข้าไป ซึ่งผมพูดได้เลยว่าในเมืองไทยยังไม่มีใครคิดทำเช่นเรา" ธีรพล เอกศิลป์ ผู้จัดการอาวุโส แผนกคอนซูเมอร์ โปรดักส์ บริษัท ดาต้าแมท (มหาชน) และผู้จัดการทั่วไป บริษัทนิวเทคโนโลยีในเครือดาต้าแมท กล่าว การเข้าใจตลาดมัลติมีเดียของธีรพลคือ การไม่มุ่งเฉพาะฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ที่เป็นคอมพิวเตอร์หรือพีซีเท่านั้น แต่จะรวมไปถึงฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เพื่อโทรทัศน์หรือทีวีไปด้วย ซึ่งความหมายทั่วไปของ "มัลติมีเดีย" จริง ๆ นั้นเป็นเรื่องของอิเล็กทรอนิกส์เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ที่นอกจากพีซีแล้วจะพ่วงเรื่องทีวีทั้งสิ้น ฉะนั้นใครก็ตามที่มองว่าตลาดมัลติมีเดียเป็นเรื่องแค่พีซีก็คือการมองมัลติมีเดียแค่ด้านเดียวเท่านั้น โดยที่ผ่านมาตลาดมัลติมีเดียทั้งในระบบและนอกระบบ ประมาณกันว่าเป็นตัวเลขกว่า 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ตรงนี้กระมังที่ดาต้าแมทไม่เข้ามาเล่นไม่ได้แล้ว เนื่องจากตลาดเมนเฟรมและตลาดเทเลคอมที่ตัวเองทำ ตลาดก็ไม่บูมเหมือนแต่ก่อน อีกทั้งคนที่ทำตลาดมัลติมีเดียรายใหญ่ก็มีเพียงไทยซอฟท์หรือเจ้าเล็ก ๆ เพียงไม่กี่เจ้าเท่านั้น "แต่ไทยซอฟท์ก็ทำตลาดเพียงด้านเดียวคือเฉพาะพีซี ซึ่งเป็นตลาดที่เล็กจากยอดรวมตลาดกว่าพันล้านบาท เขาทำได้เพียง 63 ล้านบาทเท่านั้นในปี 37 คือถ้านับคนไทย 100 คนดูจะเห็นว่ามีพีซีใช้กันก็แค่ 1% ขณะที่อัตราส่วน 100 คนนี้ จะมีทีวีดูถึงกว่า 80% ฉะนั้นมองได้ชัดว่า ตลาดมัลติมีเดียเพื่อทีวียังมีให้เล่นอีกยาวไกลสำหรับดาต้าแมท เพราะยังไม่เคยมีใครทำตลาดเลย ผมว่าดาต้าแมทเขามาถูกทางแล้วที่ทำตลาดมัลติมีเดียทั้งขบวนการ" แหล่งข่าวท่านหนึ่งกล่าวกับผู้จัดการ ซึ่งธีรพลก็เห็นด้วยกับความคิดนี้ ดาต้าแมทก็เลยหันมาจับตลาดมัลติมีเดียทั้งขบวนการอย่างที่ว่า ซึ่งสอดคล้องกับการกำลังจะมีไฮเทคซุปเปอร์สโตร์ของตนในต้นปีหน้า โดยในเรื่องซุปเปอร์สโตร์นี้ธีรพลเล่าว่า "เราจะมีสินค้าทั้งที่เป็นเทเลคอม, มัลติมีเดีย, คอมพิวเตอร์, เอวี, โอเอ รวม ๆ กัน ซึ่งเพื่อให้มันสอดรับกันทุกตัวสินค้าเราจึงเอาเกมเข้ามาสื่อเพื่อชูถึงคุณสมบัติสินค้าที่มีอยู่ให้ลูกค้าเห็นได้เข้าใจได้มากขึ้น ซึ่งบริษัทดีมาร์เขาวิจัยแล้วว่าในบ้านเราแนวคิดอย่างนี้ยังไม่มีใครทำชัดเจน และขณะรอให้เกิดร้านที่ว่านี้ในเรื่องตลาดมัลติมีเดียเราก็เริ่มแล้ว" อย่างเกมเราได้ลิขสิทธิ์จากเมืองนอกและได้ต่อ จากคนไทยด้วยกันหลายตัวแล้ว ซึ่งเราได้ตั้งบริษัทขึ้นมารับผิดชอบในส่วนนี้ชื่อ ดาต้าแมทเทคโนโลยีหรือเรียกสั้น ๆ ว่า ดีเทคแต่ผมคงยังบอกรายละเอียดในขณะนี้ไม่ได้ เพราะกำลังอยู่ในขั้นเจรจาและยืนยันกันอีกนิดหน่อย แต่ด้วยการสืบเสาะของ "ผู้จัดการ" พบว่าดาต้า แมทเดินเกมไปหลายขุมแล้ว อาทิกำลังเจรจาขอเป็นมาสเตอร์ดีลเลอร์ของเซก้าโดยมีเครื่องเล่นรุ่นเมกก้า ไดรฟ์ทูและเซก้าแซทเทิร์น เป็นตัวชูตลาดในสิ้นปี รวมถึงนินเทนโด้, ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายแต่ผู้เดียวจากไมโครซอฟต์ในส่วนของไมโครซอฟท์โฮม, ได้สิทธิ์ในตัวทรีดีโอของพานาโซนิค, ซีดีไอของฟิลิปส์, ซีดีวี และอาตาริ ทั้งยังอยู่ในขั้นเจรจาขั้นสุดท้ายกับเจ็บเซ็นแอนด์เจ๊สเซ่น ประเทศไทย ในการขายเครื่องเล่นเกมซีดีของไอว่าแต่ผู้เดียว และกำลังอยู่ในขั้นเจรจาในเรื่องเป็นตัวแทนจำหน่ายซีดีไอที่มีอยู่ในท้องตลาดทุกยี่ห้อ อาทิ ฟิลิปส์, โกล์สตาร์ ธีรพลกล่าวถึงตลาดมัลติมีเดียในไทยว่า ที่ผ่านมาตลาดส่วนนี้ไม่ขยายเท่าที่ควรจะเป็น เพราะไม่มีคนมาทำเป็นโลคัลไลซ์หรือสนองตลาดล่าง ซึ่งเป็นการโลเคิลไลซ์นี้คือนำซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์มาแปลงเป็นภาษาไทย ซึ่งปัจจุบันอาจจะยุ่งยากบ้าง "แต่มันจะทำให้ตลาดโต สมมุติว่าเป็นเกมที่อธิบายภาษาอังกฤษที่ปกติขายได้ 1,000 แผ่น เมื่อเป็นภาษาไทยอาจจะขายได้หมื่นแผ่นด้วยซ้ำไป ตลาดพวกนี้เป็นตลาดที่ต้องพัฒนาตลาดเอง ถ้าเราไม่สามารถพัฒนาตลาดควบคู่ไปกับการขายได้ ปริมาณที่ได้มันจะน้อย เราไม่ได้มองว่า เกมคือเกม พีซีคือพีซี แต่มันคือสิ่งที่ต้องรวมกัน และต้องพัฒนาตลาดไปพร้อมกัน" ธีรพล อธิบายถึงการทำตลาดของดีเทค ส่วนคนที่จะมากุมบังเหียนดีเทคนั้น ธีรพลยังไม่ยอมเผยอีกเช่นกัน แต่ก็มีคนเห็นภาคภูมิ เสตะรัต ผู้ช่วยผู้จัดการแผนกมัลติมีเดียของไทยซอฟท์เดินเข้าออกดาต้าแมทอยู่พักหนึ่ง ซึ่งเมื่อมองคน ที่รู้ตลาดมัลติมีเดียอย่างหาตัวจับยากแล้วก็เห็นแต่คนนี้แหละ ซึ่งปลายสิงหาคมนี้คงจะทราบกันว่าจะเป็นภาคภูมิจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าหากดาต้าแมทเดินเกมครั้งนี้สำเร็จ ดาต้าแมทก็อาจจะเป็นเจ้าตลาดมัลติมีเดียและตลาดเกมได้อย่างรวดเร็ว ถึงกระนั้นก็อาจจะต้องฝ่าด่านบรรดานักก็อปปี้ ร้านค้าขายเกมเถื่อนที่ยังคงมีอย่างดาษดื่น แถมยังตัดราคากันแบบสุด ๆ ให้ได้เสียก่อนกระมัง ?

กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.