|
คาดเอเชียนำเข้าเพิ่มขึ้น
นิตยสารผู้จัดการ( กรกฎาคม 2555)
กลับสู่หน้าหลัก
เอชเอสบีซีเผยบทวิเคราะห์การค้าโลก คาดอินเดียและจีนจะมีมูลค่าการนำเข้าเติบโตแซงหน้ามูลค่าการส่งออกในอีก 5 ปีข้างหน้า และมองว่าไทยจะได้ประโยชน์จากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นของจีนซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าหลัก
การคาดการณ์ของเอชเอสบีซีสอดคล้องกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงในระดับโลกที่เริ่มเห็นได้ชัดว่าตลาดเกิดใหม่ที่เติบโตจากการส่งออกจะกลายเป็นศูนย์กลางของการค้าในระดับโลก และเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
จุฑามาส เรืองวณิช ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเครือข่ายธุรกิจและการค้าระหว่างประเทศ ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย ระบุว่าจีนและอินเดียเป็นคู่ค้าหลักของประเทศในแถบเอเชียรวมทั้งไทย การนำเข้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของสองเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ในเอเชียจึงเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการไทยในการเติบโตธุรกิจการค้ากับจีนและอินเดีย
มูลค่าการนำเข้าของจีนจะเติบโตแซงหน้ามูลค่าการส่งออกในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าจะเติบโตร้อยละ 5.1 และร้อยละ 4.7 ตามลำดับ เป็นผลจากความต้องการสินค้าทั่วไปและสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่การส่งออกของจีนไปยังประเทศที่พัฒนาแล้วมีมูลค่าลดลง
ขณะเดียวกันอินเดียจะกลายเป็นประเทศผู้ส่งออกและนำเข้าที่เติบโตเร็วที่สุดของเอเชีย โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 5 และร้อยละ 7 ตามลำดับ
ทั้งนี้จีนเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของไทย โดยมูลค่าส่งออกของไทยไปจีนคิดเป็นร้อยละ 12 ของมูลค่าส่งออกรวม ซึ่งสูงกว่าการส่งออกของไทยไปยังกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปอย่างมาก การนำเข้าที่เติบโตเพิ่มขึ้นของจีนจะช่วยกระตุ้นการส่งออกของไทยในครึ่งปีหลัง ในช่วงเวลาที่สหภาพยุโรปยังอยู่ในภาวะถดถอย
การนำเข้าของไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจหลักของเอเชียเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการลงทุนเพื่อก่อสร้างและฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์น้ำท่วม รวมทั้งการลงทุนใหม่ โดยกระทรวงพาณิชย์เผยมูลค่าการส่งออกของไทย ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 2.85 ล้านล้านบาท ส่วนมูลค่าการนำเข้าคิดเป็น 3.19 ล้านล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 0.8 และร้อยละ 14.0 ตามลำดับ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับมูลค่าการส่งออกในเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 641.14 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.7 จากเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 703.03 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 21.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
“HSBC ยังคงเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการส่งออกกำลังฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และเห็นแนวโน้มว่าผู้ประกอบการรายใหญ่หลายรายเริ่มปรับตัวด้วยการย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้าน หันไปผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม หรือเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ”
ดัชนีความเชื่อมั่นทางการค้าของเอชเอสบีซีระบุว่าภาพรวมของเศรษฐกิจโลกในระยะสั้นยังคงมีเสถียรภาพดี โดยมีดัชนีความเชื่อมั่นทางการค้าทั่วภูมิภาคเอเชียอยู่ที่ระดับ 113 เทียบกับระดับ 112 ของเดือนตุลาคมปีที่แล้ว บทวิเคราะห์ของเอชเอสบีซียังเปิดเผยว่า ร้อยละ 71 ของผู้ประกอบการค้าทั่วโลกคาดว่าปริมาณการค้าจะเพิ่มขึ้นหรือทรงตัวใน 6 เดือนข้างหน้า
บทวิเคราะห์การค้าของเอชเอสบีซีชี้ให้เห็นว่า 10 ใน 15 อันดับแรกของคู่ค้าในเอชียแปซิฟิกเป็นประเทศที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกัน คาดว่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไปจนถึงปี 2569 ขณะที่บราซิลกลายเป็นตลาดส่งออกที่มีศักยภาพสูงของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกทุกประเทศ อีก 5 ปีข้างหน้าบราซิลจะเป็นประเทศผู้ส่งออกที่เติบโตเร็วที่สุดของเอเชียแปซิฟิก และเป็นประเทศผู้นำเข้าที่เติบโตเร็วที่สุดเป็นอันดับสองของเอเชียแปซิฟิกอีกด้วย
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|