|
Lotto กับผลการถูกรางวัลใหญ่จากการพนัน
โดย
ชาญ เทียบเธียรรัตน์
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( พฤษภาคม 2555)
กลับสู่หน้าหลัก
เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ประเทศนิวซีแลนด์มีข่าวใหญ่ว่ามีชายหนุ่มนิวซีแลนด์ถูกแจ็กพอตใหญ่ของลอตโต้ ได้รับเงินรางวัล 26 ล้านเหรียญ ซึ่งถ้าเทียบเป็นเงินไทย ก็ 625 ล้านบาท ในอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันที่ 1 NZ$ = 25 บาท
ก่อนอื่น ผมขออธิบายว่าลอตโต้คืออะไร ลอตโต้ (Lotto) จริงๆ ก็คือลอตเตอรี่ของรัฐบาลนิวซีแลนด์นั่นแหละครับ เกมลอตโต้ก็มีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ชนิดแรก เล่นง่ายที่สุด เรียกว่า Instant Kiwi ตั๋วราคา 1-5 เหรียญ หลังจากซื้อตั๋วแล้วก็ต้องเอาเหรียญมาขูดดูว่าถูกรางวัลหรือเปล่า ถ้ามีตัวเลขเงินรางวัลในตั๋วใบนั้นจำนวนเดียวกัน ซ้ำกัน 3 ครั้ง ผู้ซื้อ จะได้เงินจำนวนนั้นเป็นรางวัล เช่น ถ้าซื้อตั๋วมาขูดเจอ ตัวเลขเงินรางวัล 500 เหรียญ ในตั๋วใบนั้น ($500) ซ้ำกัน 3 ครั้ง ก็จะได้รางวัล 500 เหรียญ แจ็กพอต ของ Instant Kiwi เริ่มตั้งแต่รางวัลสูงสุด 1 หมื่นเหรียญ สำหรับตั๋วราคา 1 เหรียญขึ้นไปถึงรางวัลสูงสุด 250,000 เหรียญ สำหรับตั๋ว 5 เหรียญ
ลอตโต้ประเภทที่ 2 เรียกว่า บูลส์อายส์ (Bullseye) มีการจับรางวัลทุกวันในเวลา 6 โมงเย็น ตั๋วราคา 2 เหรียญ โดยผู้ซื้อสามารถเลือกจำนวนเลข 6 หลัก จำนวนใดก็ได้ตั้งแต่ 000000 ไปถึง 999999 ถ้าโชคดี เลือกเบอร์ตรงกับเบอร์ที่จับได้ทั้ง 6 หลัก ก็จะถูกรางวัลใหญ่ จำนวนรางวัลใหญ่นั้นไม่แน่นอน เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวัน แต่อย่างน้อยที่สุดก็คือ 1 แสนเหรียญ และอย่างมากที่สุดก็คือ 4 แสนเหรียญ และถ้าเกิดไม่มีใครซื้อตั๋วที่เบอร์ตรงกับเบอร์ 6 หลักที่ออก รางวัลใหญ่ก็จะตกเป็นของคนที่มีเบอร์ตั๋วใกล้เคียงที่สุดกับเลขที่ออก เช่น ถ้ารางวัลใหญ่ออก 999999 แต่ไม่มีใครซื้อตั๋วเบอร์นี้ แต่มีคนซื้อตั๋วเลข 999997 เป็นเลขที่ใกล้เคียงที่สุด คนคนนั้นก็จะได้รางวัลใหญ่ไป
ประเภทที่ 3 เรียกว่า คีโน (Keno) สำหรับตั๋ว 1 ใบ ราคา 1 เหรียญ ผู้เล่นสามารถเลือกเบอร์ตั้งแต่ 1-80 ได้ 20 หมายเลข ถ้าในบรรดา 20 หมายเลขที่ผู้เล่นเลือกตรงกับเบอร์ที่จับฉลากได้ถึง 10 เบอร์ขึ้นไป ผู้เล่นจะได้รับรางวัล 250,000 เหรียญ มีการจับฉลาก ทุกวัน
ส่วนประเภทที่ 4 เรียกว่า บิ๊ก เวนส์เดย์ (Big Wednesday) มีการจับรางวัลทุกวันพุธ ตั๋วราคาใบละ 6 เหรียญ ผู้เล่นจะต้องเลือก 6 เบอร์ ตั้งแต่ 1-50 ซึ่งผู้เล่นต้องทายเบอร์ที่จะออกให้ถูกหมดทั้ง 6 เบอร์ และถึงจะทายถูกหมดแล้วก็ยังไม่จบ หลังจากนั้นจะมีการเอาเหรียญมาปั่นให้ทายว่าจะออกหัวหรือออกก้อย ซึ่งเขาจะต้องทายให้ถูกด้วย ถ้าทายผิดก็ชวดรางวัลใหญ่ แต่ถ้าทายถูกหมดทั้ง 6 หมายเลข และทายหัวก้อยถูกก็จะได้แจ็กพอตอย่างน้อย 2 ล้านเหรียญ
ส่วนเกมหลักของลอตโต้คือเกมลอตโต้ (Lotto) มีการจับรางวัลทุกวันเสาร์ ตั๋วราคาใบละ 6 เหรียญ ในตั๋ว 1 ใบ จะมีตัวเลขระหว่าง 1-40 อยู่ 6 หมายเลข ใน 1 บรรทัด มีทั้งหมด 10 บรรทัด ผู้เล่นจะถูกรางวัล แจ็กพอตใหญ่ได้ก็ต่อเมื่อ ในบรรทัดใดบรรทัดหนึ่งของตั๋วที่เขาซื้อไว้นั้น มีเลขตรงกับที่ทางการจับฉลากได้ทั้ง 6 หมายเลข เงินรางวัลแจ็กพอตนั้นอย่างน้อย 1 ล้านเหรียญ ถ้าไม่มีใครถูก รางวัลแจ็กพอตก็จะถูก สมทบสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ในสัปดาห์ต่อไป แจ็กพอตที่สูงที่สุดของเกมหลักคือเมื่อเดือนตุลาคมเมื่อ 2 ปีก่อน โดยผู้ถูกรางวัลได้รับเงินรางวัลถึง 28.3 ล้านเหรียญ
ฉะนั้น แจ็กพอตที่ชายหนุ่มคนนี้ได้รับจึงไม่ใช่ รางวัลที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่ที่เป็นข่าวดัง เพราะชายหนุ่มคนนี้อนุญาตให้สื่อเปิดเผยว่าเขาเป็นใคร ในอดีต ผู้ถูกแจ็กพอตใหญ่แทบทุกคนเลือกที่จะเก็บชื่อตัวเองเป็นความลับ เพราะไม่อยากให้คนรู้ว่าตัวเองเป็นใคร สำหรับผู้ถูกแจ็กพอตบางคนไม่เพียงแต่ไม่อนุญาตให้สื่อเปิดเผยชื่อเท่านั้น แต่เขาเอาตั๋วไปขึ้นเงินในสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จักเขาอีกด้วย เช่น คน ที่ถูกแจ็กพอต 28.3 ล้านเหรียญ เมื่อ 2 ปีก่อน เขาไม่ได้แค่เรียกร้องให้สื่อปิดชื่อเขาเป็นความลับ แต่ขับรถจากเมืองพาพาคูรา ซึ่งอยู่ทางเหนือของเกาะเหนือลงไปถึงเมืองเวลลิงตัน ซึ่งอยู่ใต้สุดของเกาะเหนือ เพื่อไปเคลมรางวัล เพราะกลัวจะมีคนจำเขาได้ ถ้าเอาตั๋วไปขึ้นเงินในเมืองที่เขาอยู่
ชายหนุ่มที่ถูกรางวัลเมื่อต้นเดือนเมษายน อนุญาตให้สื่อเปิดเผยชื่อได้ จึงกลายเป็นข่าวใหญ่ เขาชื่อ เทรเวอร์ อายุ 34 ปี อาศัยอยู่ที่เมืองเตคาวาตา เป็นเมืองเล็กๆ มีประชากร 1,000 คน ทำงาน เป็นแคชเชียร์ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในกะ 7 โมงเช้า เขาตื่นตี ห้าครึ่งไปทำงาน ไม่มีเงินเก็บ หาเงินอาทิตย์ชนอาทิตย์ เมื่อนักข่าวถามว่าในอดีตเคยทำงานอะไรบ้าง เขาตอบว่า ทำมาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกรรมกรสร้างบ้าน คนขับรถบรรทุกส่งของ และงานใช้แรงงานอื่นๆ ฟังแล้ว ดูจะเป็นผู้ชายที่หาสาวหมายปองยาก เพราะเป็นอาชีพที่รับค่าแรงขั้นต่ำเป็นส่วนใหญ่ ส่วนอาชีพแคชเชียร์ที่เขาทำนั้นก็เป็นอาชีพที่รับค่าแรงขั้นต่ำ ส่วนใหญ่คนที่ทำจะเป็น พวกเด็กนักเรียนที่เรียนมหาวิทยาลัย ต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ไม่งั้นเงินไม่พอใช้ พอเรียนจบ หางานประจำ ในสายอาชีพของตัวเองทำได้ก็ลาออกเป็นส่วนใหญ่
ฝรั่งคนไหนอายุถึง 34 ปี ยังทำงานเป็นแคชเชียร์ ในซูเปอร์มาร์เก็ตอยู่ ก็น่าจะแปลว่าเขาไม่มีความรู้ระดับมหาวิทยาลัย ไม่มีความรู้ในสายอาชีพ หางานที่มีเกียรติ เงินเดือนสูงๆ ทำได้ ถ้าคนคนนั้นเป็นผู้ชาย คงเป็นเรื่องที่น่าห่วงอยู่ เรื่องจะไปหาผู้หญิงที่มีหน้าที่การงานมั่นคง มาแต่งงานด้วย เพื่อชีวิตที่สุขสบาย เลิกคิดไปได้ ผู้หญิงส่วนใหญ่ ถ้าผู้ชายที่มาจีบไม่มีเงิน ทำงานรับค่าแรงขั้นต่ำ ไม่มีเงินเก็บ แถมยังไม่มีความรู้สูงๆ อีกก็ต้องเซย์โนเป็นธรรมดา ผู้หญิงที่จะสนใจเทรเวอร์ก่อน จะถูกแจ็กพอต ลอตโต้ก็เห็นจะมีแต่พวกผู้หญิงต่างชาติที่ยังไม่ได้สัญชาติ นิวซีแลนด์ อยากได้สัญชาติจนตัวสั่น เลยหลอกให้ผู้ชายตายใจแต่งงานด้วย แล้วพอได้สัญชาติเสร็จก็เฉดหัวทิ้งภายหลังเท่านั้น
ไม่มีใครรู้ว่าเทรเวอร์คิดอย่างไร ถึงตัดสินใจเปิดเผยชื่อและหน้าตา ให้สื่อรู้ว่าตัวเองถูกแจ็กพอต ถ้าให้เดา ผมขอเดาว่าน่าจะเป็นเพราะเทรเวอร์ไม่เคยประสบความสำเร็จในด้านการงานหรือการศึกษา ให้ตัวเองภูมิใจให้คนอื่นรับรู้ได้ ตลอดชีวิตของเขาได้แต่เห็นความสำเร็จของคนอื่น แต่ไม่เคยประสบความสำเร็จจากความสามารถของตัวเอง ประกอบกับเขาอายุตั้ง 34 ปีแล้ว แต่ก็ยังทำงานรับค่าแรงขั้นต่ำ เลยรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจกับชีวิตของตัวเองว่า สู้คนอื่นไม่ได้ พอถูกแจ็กพอตใหญ่ 26 ล้านเหรียญ ก็เลยต้องการอวดคนอื่นบ้างว่าตัวเองก็มีอะไรให้อวด เพราะที่ผ่านมา 34 ปี ไม่เคยมีโอกาสอวดอะไรใครถึงความสำเร็จหรือความร่ำรวยแบบคนอื่นๆ สักที ซึ่งเทรเวอร์ก็ได้สมใจ จากชายหนุ่ม ที่ไม่เคยมีผู้หญิงสนใจ กลายเป็นชายหนุ่มที่สื่อมวลชน ตั้งสมญานามว่าเป็น “New Zealand’s Most Eligible Bachelor” หรือหนุ่มโสดที่เป็นที่หมายปองที่สุดในประเทศนิวซีแลนด์
แต่แล้วหนุ่มโสดที่เป็นที่หมายปองที่สุดกลับ ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบคนนิวซีแลนด์ที่มีการศึกษาดี มีงานดี รายได้ดีทั่วไปแบบที่หวังไว้ เพราะเพียงแค่ในวันที่ 8 เมษายน หรือ 7 วันหลังจากวันที่เอาตั๋วลอตโต้ไปขึ้นเงิน แล้วให้สัมภาษณ์สื่อออกทีวีว่าเขารวยขนาดไหน เทรเวอร์ก็ไปเปลื่ยนชื่อตัวเองแล้วหายตัวไปอย่างลึกลับ ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้เขาหายไปไหน เพราะจากผู้ชายที่ ไม่มีผู้หญิงมาสนใจ กลายเป็นมีผู้หญิงมาหาถึงบ้านมากมายชวนเขาออกเดต ซึ่งต่อให้คนที่ไม่ฉลาดนักก็ต้องรู้ว่าผู้หญิงพวกนี้ไม่ได้รักเทรเวอร์หรอก แต่รักเงิน ของเขาต่างหาก แล้วยังมีองค์กรการกุศลจำนวนมาก ส่งคนมาถึงบ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ จริงๆ แล้ว ก็คือช่วยใช้เงินของเขาไม่ให้เหลือ โดยขอให้เทรเวอร์บริจาคเงินมาให้องค์กรของพวกเขาซะดีๆ แล้วไหนจะเพื่อนฝูงญาติพี่น้อง ซึ่งแต่ก่อนก็ไม่เคยมาดูดำดูดีกับเทรเวอร์ตอนที่ทำงานรับค่าแรงขั้นต่ำ ปากกัดตีนถีบหมุนเงินอาทิตย์ชนอาทิตย์ แต่พอรวยขึ้นมาก็เข้ามาแสดงความยินดีด้วย แล้วก็เริ่มดราม่าคร่ำครวญว่า ตอนนี้ตัวเองพ่อตายยายเกิดลูกระเบิดลงบ้าน ร้านไฟไหม้ โกหกพกลมไปตามเรื่อง โดยลงท้ายว่า ตอนนี้ ลำบากมาก ขอเงินหน่อยดิ ไม่ให้เลิกคบ หรือไม่ให้ก็ไม่ต้องมานับญาติกันอีก
พอเทรเวอร์เจอเข้าไปแบบนี้ ผมก็เชื่อว่า เขาคงจะอึ้งกับสิ่งที่ได้รับจากที่ตัวเองคาดหวังว่า ตัวเอง จะสามารถเข้าไปอยู่ในสังคมเดียวกันกับคนนิวซีแลนด์ ที่มีการศึกษาสูง รายได้สูง ฐานะดี มีงานดีๆ ทำ หรือ เจ้าของธุรกิจที่ทำรายได้สูงๆ ได้พบปะสังสรรค์กับคนเหล่านี้ ก็กลายเป็นว่า คนเหล่านี้ก็ไม่ได้คิดที่จะคบค้าอะไรกับเขา เพราะถึงพวกเขาจะรวยไม่เท่าเทรเวอร์ พวกเขาก็มีฐานะดีพอที่จะไม่จำเป็นจะต้องพึ่งพาใครในเรื่องเงิน อีกอย่างคนพวกนี้ความรู้สูง เวลาพูดอะไรก็จะพูดในเรื่องที่คนที่มี ความรู้ระดับเดียวกันพูดกัน เช่น พวกหมอก็จะคุยเรื่องการแพทย์กับหมอด้วยกัน พวกนักธุรกิจ นักลงทุนก็อยากจะคุย แชร์ความรู้กันในเรื่องทำเลดีๆ ในการทำ หมู่บ้านจัดสรร เรื่องซื้อขายหุ้น ซื้อขายเงิน ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาก็ย่อมที่จะต้องการคุยกับคนที่มีความรู้ธุรกิจด้วยกัน พวกเขาไม่สนใจจะมาคบหรือคุยกับคนที่ไม่มีความรู้วิชาการ ความรู้ธุรกิจอย่างเทรเวอร์ให้เสียเวลา
กลายเป็นว่า พวกคนฐานะดีๆ การงานดีๆ ไม่คิดจะคบค้าด้วย เพราะไม่มีความรู้จะไปคุยกับพวกเขา กลายเป็นคนที่เพื่อนฝูงและญาติพี่น้อง ไม่เห็นเป็นเพื่อนหรือเป็น ญาติอีกต่อไป เห็นเป็นแค่แหล่งเงินที่พวกเขาสามารถเอาความเป็นเพื่อนหรือความเป็นญาติไปกดดันเทรเวอร์ให้เงินตัวเองมาใช้ เทรเวอร์กลายเป็นตัวประหลาดตัวหนึ่งในสังคมที่มีเงิน แต่ไม่มีความรู้วิชาการหรือธุรกิจที่จะสามารถ เอาเงินตัวเองไปลงทุนอะไรให้เกิดประโยชน์ได้ ไม่มีเพื่อนที่จริงใจที่มีความรู้ในการลงทุนที่จะแนะนำได้ว่าควรจะเอา เงินไปลงทุนอะไรให้งอกเงย มีแต่คนไม่จริงใจรอบตัวที่จะมาเอาเงินจากเขา
ที่น่าเจ็บปวดที่สุดก็คือ คนเหล่านี้แต่ก่อนก็เป็นเพื่อน เป็นญาติกับเขาทั้งนั้น แต่ตอนนี้คบกันไม่ได้ นับญาติไม่ได้แล้ว ถ้าจะคบต่อไปก็ต้องให้เงินพวกเขา ถ้าให้เขาหมด เงินหมด เทรเวอร์ต้องกลับมาทำงานเป็นแคชเชียร์ต๊อกต๋อย เหมือนเดิม เขาเลยยอมเสียเพื่อน ตัดขาดญาติพี่น้องตัวเอง เปลี่ยนชื่อ แล้วไปเริ่มต้นชีวิตตัวเองใหม่ในสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จักเขา เขาต้องระวัง พยายามปกปิดไม่ให้ใครรู้ว่าเขา เป็นใคร มาจากไหน เพราะถ้าข่าวแพร่สะพัดไปในเมืองที่ ย้ายไปอยู่ใหม่ ก็คงเจอแร้งลงกันพรึ่บๆ มาขอเงิน ต้องย้าย เมืองหนีอีก ซึ่งดูๆ ไปก็น่าเห็นใจไม่น้อย
อ่านเรื่องของเทรเวอร์จบ ผมขอออกความคิดเห็นสักหน่อยสำหรับเรื่องการพนัน ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนที่ไม่เล่นการพนัน เพราะผมไม่เชื่อว่าโชคลาภจะลอยอยู่ในอากาศให้คนคว้ากันง่ายๆ ผมเชื่อว่าถ้าคนเราจะประสบความสำเร็จในด้านการงานหรือทำธุรกิจก็ต้องมาจากตัวเอง ต้องมีความรู้ และประสบการณ์ในงานที่เขาทำ การที่ใคร คนหนึ่งเลือกเรียนวิชาชีพวิชาหนึ่งในมหาวิทยาลัย เขาก็จะมีความรู้วิชานั้นติดตัว มีเพื่อนฝูงที่เรียนมาด้วยกันที่เป็นเพื่อนแท้ คุยถูกคอกัน ให้ความช่วยเหลือกันในสายงาน นั้นๆ ไปตลอดการทำงานของเขา หากเขาตั้งใจทำงาน และก้าวหน้าในการงาน นั่นก็คือความสำเร็จที่สามารถ อวดใครได้อย่างภูมิใจ เป็นความสำเร็จที่อวดไปก็มีแต่คน จะนับหน้าถือตา เป็นที่ชื่นชมในสังคมที่เขาอยู่ เพราะเป็น ความสำเร็จที่มาจากความสามารถของเขา
ส่วนความร่ำรวยจากการพนันไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนจะชื่นชม เพราะเป็นเรื่องความโชคดีของคนคนหนึ่งที่ซื้อตั๋วลอตเตอรี่ตรงกับเบอร์ที่ทางการจับสลากได้ มีน้อยคนที่จะ ถูกรางวัล ส่วนใหญ่ที่ซื้อลอตเตอรี่จะถูกกินซะมากกว่า ส่วนถ้าใครเกิดฟลุ้คถูกรางวัลเข้าจริงๆ ถ้าเกิดปิดเงียบไม่บอกใคร ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ ตัวผม ถ้าถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ๆ เชื่อว่าผมต้องบอกว่าผมถูกแน่นอน ถ้าเรื่อง นี้เปิดเผยออกไปก็ต้องกลายเป็นข่าวใหญ่ โดนทั้งเพื่อน ทั้งญาติ ทั้งองค์กรการกุศลมารุมขอเงินทั้งวัน ไม่เป็นอันทำอะไรแน่นอน กลายเป็นคนที่เข้าสังคมไม่ได้ จะไปพบปะ ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงก็ไม่ได้ เพราะกลัวถูกขอเงิน มีเงินเยอะแยะแต่ไม่รู้จะเอาไปใช้ที่ไหน ไม่รู้จะคบกับใคร แล้วแบบนี้จะมีความสุขได้อย่างไร
คนเราจึงไม่ควรที่จะไปรอคอยโชคลาภอะไรที่มอง ไม่เห็น แต่ควรที่จะตั้งใจเรียน หรือตั้งใจทำงาน หาความรู้ หาประสบการณ์การทำงานใส่ตัว จริงใจและเป็นมิตรกับเพื่อนร่วมงาน ผู้คนที่ติดต่อธุรกิจด้วยกัน และเพื่อนนักเรียนที่เรียนมาด้วยกันไว้มากๆ และศึกษาวิธีการลงทุน แบบต่างๆ เอาไว้ให้พร้อม เพื่อว่าเขาจะได้มีโอกาสหางาน ในสายอาชีพของเขาได้ง่ายๆ มีโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และเก็บเงินเอาไว้ลงทุนอย่างเหมาะสมเพื่ออนาคต ที่มั่นคงของตัวเขาเองในบั้นปลายชีวิต โดยไม่ต้องมามัวรอโชคลาภจากการพนัน
อ้างอิง
- The New Zealand Herald, ‘The $26 million man: NZ Lotto Winner and His Big Win’, http://www.nzherald.co.nz/nz/news/video.cfm?c_id=1&gal_objectid=10796332&gallery_id=124891(accessed 10 Apr 2012)
- The New Zealand Herald, ‘It’s hard being a multimillionaire’, 8 Apr 12, http://www.nzherald.co.nz/nz/news/article.cfm?c_id=1&objectid=10797278 (accessed 10 Apr 2012)
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|