ซิสโก้ ซิสเต็มส์ ปฏิวัติองค์กรด้วยอินเตอร์เน็ต


นิตยสารผู้จัดการ( ธันวาคม 2542)



กลับสู่หน้าหลัก

"ชีวิตเราขึ้นอยู่กับอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก" ประโยคสั้นๆ ของ วรกร ภัทรยานันท์ แต่มีความหมายกว้างไกลสำหรับองค์กรอย่างซิสโก้ ซิสเต็มส

ธุรกิจส่วนใหญ่ มักจะคาดหวังในเรื่องของการทำธุรกิจบนเว็บ การสร้างบริษัทที่ลงท้ายด้วย .com ขึ้นมา ก็เพราะเขาเหล่านั้นต้องการขายสินค้าทางออนไลน์ไปยังลูกค้าพูดง่ายๆ ก็คือ ธุรกิจเหล่านี้หวังว่าจะได้เงินจากเครือข่ายนี้โดยตรง มากกว่าการใช้เว็บให้เป็นเครื่องมือใน การจัดการองค์กรให้มีขีดความสามารถมากขึ้น เพิ่มความสะดวกในการสื่อสารกับซัปพลายเออร์ และเหล่าตัวแทนจำหน่ายทั้งหลาย ที่จะสัมฤทธิผลทางธุรกิจมากกว่าด้วยซ้ำ จากการที่ธุรกิจสามารถลดต้นทุนในการจัดการ การติด ต่อสื่อสาร

กรณีของซิสโก้ ซิสเต็มส์ ผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายที่ให้ความสำคัญ ในเรื่องของการใช้เว็บให้เป็นประโยชน์ในการติดต่อกับคู่ค้า หรือการทำอี-บิสซิเนส และใช้ประโยชน์ในการสร้างความพร้อม ให้กับองค์กร

ซิสโก้สร้าง web page มากกว่า 1 แสนหน้าที่บรรจุฐานข้อมูลขนาด ใหญ่ เพื่อพยายามจะตอบสนองความต้องการของลูกค้า ตัวแทนจำหน่าย และ พนักงานที่อยู่ตามสำนักงานสาขา 200 แห่งทั่วโลก ในทุกแง่ทุกมุม

ทุกวันนี้การสั่งซื้ออุปกรณ์ของ ดีลเลอร์ซิสโก้ ซิสเต็มส์ ก็เช่นกัน ทั่วโลกเปลี่ยนจากใบออร์เดอร์มาสู่การสั่งซื้อจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ระบบงานหลังบ้านของซิสโก้ทั้งหมดถูกเปลี่ยนจากคนมาใช้คอมพิวเตอร์

ซิสโก้เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่าย มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ผลิตภัณฑ์ของซิสโก้จะประกอบไปด้วย อุปกรณ์เราท์เตอร์ สวิตช์สำหรับระบบเครือข่ายภายในองค์กร LAN และ WAN โซลูชั่นเชื่อมต่อกับเครือข่ายผ่านสายโทรศัพท์ โซลูชั่นการเชื่อมระบบเครือข่ายอุปกรณ์บริหารจัดการเว็บไซต์ และซอฟต์แวร์บริหารจัดการเครือข่าย ภายใต้ platform ซอฟต์แวร์ Cisco IOS

จากการปฏิวัติการทำงานด้วยการนำเอาอินเตอร์เน็ตมาใช้ประโยชน์ตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว ทุกวันนี้ซิสโก้มียอดสั่งซื้อ 23 ล้านเหรียญสหรัฐต่อวันที่มาจากคำสั่งซื้อผ่านทางอินเตอร์เน็ต ยังไม่นับรวมการลดการทำงานของฝ่ายสนับสนุนที่เป็นกองหลัง ซึ่งทำให้ซิสโก้สามารถประหยัดต้นทุนในการทำธุรกิจลงได้ถึงปีละ 65 ล้านเหรียญสหรัฐ

แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เป้าหมายเดียวของซิสโก้ แต่มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมเพราะจริงๆ แล้วนี่คือการเตรียมพร้อมสำหรับการสร้างเครื่องมือในการแข่งขันให้กับซิสโก้

ซิสโก้เรียกโครงการนี้ว่า cisco connection online หรือ CCO เปรียบเสมือนเป็นพิมพ์เขียว ในการนำเอาเว็บเทคโนโลยีมาใช้การจัดการธุรกิจไปสู่โมเดลของการทำธุรกิจแบบใหม่

การเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วของยอดขาย เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2537 ทำให้ซิสโก ต้องหันกลับมามองทัพหลังว่าพร้อมที่จะก้าวไปทันกับทัพหน้าหรือไม่ ประกอบกับแอพพลิเคชั่นบนอินเตอร์เน็ตก็เริ่มทยอยออกสู่ตลาด เป็นแรงผลักดันของการก้าวไปสู่ การจัดการองค์กรแบบใหม่ ที่ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือ

ซิสโก้ควักเงินทุน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการวางโครงสร้างระบบการทำงานภายใน โดยเฉพาะในเรื่องการจัดการข้อมูลที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป นำมาใช้ให้ประโยชน์สูงสุด

วัฒนธรรมการทำงานแบบดั้งเดิมถูกเปลี่ยนไปสู่วิถีการทำงานแบบใหม่ที่ใช้เว็บเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ ทุกวันนี้ซิสโก้จะไม่มีแผนกบัญชี บุคคล การเงิน ธุรการ งานหลังบ้านเหล่านี้ตกเป็นหน้าที่ของอินเตอร์เน็ต มีแต่เพียงแผนกการตลาดบริการลูกค้า ที่เป็นส่วนในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทโดยตรง

ทุกวันนี้การขออนุมัติซื้ออุปกรณ์ภายในหากเกินอำนาจของกรรมการผู้จัดการ วรกรจะเข้าไปที่เว็บไซต์ และเข้าไปที่ purchase request เพื่อขออนุมัติสั่งซื้อ ข้อมูลจะถูกส่งไปที่ผู้บังคับบัญชาของเขาในสหรัฐอเมริกา เมื่อการอนุมัติผ่าน ข้อมูลจะถูกส่งไปที่ไฟแนนซ์จากนั้นจะส่งตอบกลับมาที่วรกร และหลังจากที่เขาสั่งซื้ออุปกรณ์เหล่านั้นแล้วก็อีเมลแจ้งเบอร์ invoice และหมายเลขบัญชีของผู้ขาย บริษัทแม่จะส่งเงินเข้าบัญชีผู้ขายทันที และด้วยกลไกเหล่านี้เองที่สำนักงานซิสโก้ ประเทศไทยไม่ต้องมีแผนกบัญชี

ระบบ Cisco connection online หรือ cco ที่ซิสโก้สร้างขึ้นมาเป็นการปฏิวัติการทำงานแบบดั้งเดิม ไปสู่การจัดองค์กรแบบใหม่ ที่จะใช้อินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสำคัญของการทำงานทั้งในแง่ของกองหลัง และทัพหน้า ในการทำงาน

ภายใต้ระบบ CCO นี้ ข้อมูลที่เคยกระจัดกระจาย จะถูกนำมาประมวลใหม่ให้อยู่ในรูปของ Information ที่จะต้องตอบสนองความต้องการลูกค้า พนักงาน พาร์ตเนอร์ รวมถึงซัปพลายเออร์ จะสามารถดึงไปใช้ประโยชน์ได้ทันที

ระบบอินทราเน็ตภายในของซิสโก้ จะเชื่อมโยงอยู่กับเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ทุกอย่างของข้อมูลจะถูกเชื่อมโยงเข้าที่เครือข่ายนี้ทั้งหมด ไม่มีใครรู้ว่า เครื่อง server ของซิสโก้อยู่ในประเทศใดบ้าง แต่เมื่อเปิดหน้าจอเข้าไปที่เว็บไซต์ ซิสโก้แล้ว ลูกค้า พนักงาน พาร์ตเนอร์ และซัปพลายเออร์จะสามารถดึงข้อมูลที่อยู่ในเครือข่ายแห่งนี้มาใช้งานได้ทันที

การใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลของซิสโก้จากเครือข่ายอินเตอร์เน็ต จะแบ่งออกเป็น 3 กรณี

ระดับแรกจะเป็นข้อมูลทั่วไป ที่จะใช้ประโยชน์ในเรื่องของการตลาดข้อมูลในส่วนนี้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์ของซิสโก้ รวมถึงการฝึกอบรมสัมมนา ซึ่งจะเป็นข้อมูลที่อยู่ทั่วโลก ลูกค้าจะสามารถลงทะเบียน เพื่อขอจองห้องสัมมนาได้ทันที เช่นเดี่ยวกับการอบรมจะเป็นตารางการสัมมนาทั้งหมดที่ซิสโก้จัดอยู่ทั่วโลก

ระดับที่สอง ข้อมูลสำหรับตัวแทนจำหน่าย จะเป็นส่วนของการซื้อขายสินค้าหรือร้านค้าออนไลน ์ที่ให้ดีลเลอร์เข้ามาสั่งซื้อสินค้าโดยเฉพาะ เป็นลักษณะของ business to business

บนหน้าจอของ sysco market place จะแบ่งเป็นหน้าร้านตามประเภทของสินค้า 4 ประเภท คือ อุปกรณ์เครือข่าย ร้านขายของสะสม ร้านขายหนังสือ และเอกสาร

ดีลเลอร์จากทั่วทุกมุมโลก จะเข้าไปที่เว็บไซต์ของซิสโก้ และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ จะทำตั้งแต่ตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้า ราคา ส่วนลดเหล่านี้ คำสั่งซื้อจะถูกส่งไปทันที จากนั้นก็เลือกวิธีการชำระเงินได้ทั้งการเปิดแอลซี บัตรเครดิต และเลือกวิธีการส่งของสินค้าแต่ละชิ้นจะมีตารางเวลาบอกว่า จะต้องใช้เวลาเท่าไหร่กว่าที่สินค้าจะถูกส่งมาถึงมือดีลเลอร์

"สมัยก่อนการเปิด LC จะต้องรอใบคำสั่งซื้อจากเมืองนอกส่งแฟกซ์มาให้ แต่ระบบนี้พาร์ตเนอร์เขาสามารถพิมพ์คำสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตได้เลย" วรกร

ภัทรยานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทซิสโก้ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าว

หากเป็นวิธีเดิมดีลเลอร์จะต้องโทรศัพท์ทางไกลเพื่อสอบถามระยะเวลาที่สินค้าจะมาถึง แต่ด้วยระบบนี้ดีลเลอร์จะติดตามสินค้าได้จากหน้าจออินเตอร์เน็ต ที่ซิสโก้จะเชื่อมโยง (link) ไปยังเว็บไซต์ของบริษัทขนส่งต่างๆ อย่างเฟดเดอรัล เอ็กซ์เพรส ซึ่งส่วนใหญ่จะมีระบบติดตามสินค้าบนอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว

ผลตอบรับที่ได้จากระบบบิสซิเนส ทู บิสซิเนส ทุกวันนี้ซิสโก้มียอดสั่งซื้อจากอินเตอร์เน็ต 23 ล้านเหรียญสหรัฐต่อวัน ในเวลา 5 ปี มียอดขายของซิสโก้ปีนี้ (กรกฎาคม 1999) มียอดขายรวม 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นยอดขายที่มาจากอินเตอร์เน็ต 8,000 ล้านเหรียญ และมี 4,000 ล้านเหรียญ ที่ยังเป็นวิธีการขายแบบเดิม เท่ากับว่ามีดีลเลอร์อีกไม่มากที่ยังไม่ยอมเปลี่ยนจากระบบเก่า

ข้อมูลเกี่ยวกับการขายสินค้าที่มาจากการสั่งซื้อของดีลเลอร์ จะถูกนำไปประมวลเพื่อนำมาใช้ประโยชน์สำหรับการจัดการ ซิสโก้เรียกระบบนี้ว่า Executive Information System หรือ EIS

"ซิสโก้มียอดขายทั่วโลกปีละเกือบ 5 แสนล้านบาท แต่สามารถปิดเล่มบัญชีได้ใช้เวลาไม่เกิน 5 วัน สำหรับธุรกิจขนาดนี้ในเมืองไทยต้องใช้เวลาเป็นเดือน" วรกรเล่าถึงประโยชน์จากฐานข้อมูลในมือ เป้าหมายของเราในปีหน้าจะให้เหลือแค่ 2 วัน และปีถัดไปก็คือภายใน 24 ชั่วโมง

ระดับที่สาม จะเป็นข้อมูลให้กับพนักงานซิสโก้ 20,000 คน จากสาขาของ

ซิสโก้ 200 แห่งทั่วโลกได้ใช้ประโยชน์

พนักงานของซิสโก้จะรู้ข้อมูลของการเป็นพนักงานนับตั้งแต่วันแรกของการทำงานจากเว็บไซต์ซิสโก้ อัตราเงินเดือน โบนัส สิทธิประโยชน์ต่างๆ นับตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานจนถึงวันที่แต่งงาน มีลูก หรือลาออก หรือแม้แต่เบอร์โทรศัพท์ หรือเมนูของร้านอาหารใต้ถุนตึกของสำนักงานใหญ่ซิสโก้ สหรัฐอเมริกา

"ผมนึกขึ้นได้ว่าทำงานมา 5 ปีแล้ว เข้าไปดูข้อมูลว่าทำงานครบ 5 ปีแล้วจะได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง้ อย่างกรณีนี้ก็ให้เลือกของขวัญตัวเองได้ 1 อย่างผมก็ใส่ข้อมูลไปจากนั้นไม่ถึง 5 นาท ีก็มีอีเมลจากเจ้านายผมมาแสดงความยินดี เพราะเขาต้องอนุมัติ และไม่นานของขวัญก็ส่งมาให้" วรกรเล่าถึงการใช้ประโยชน์จากฐาน ข้อมูลในฐานะของพนักงาน

จากนั้นจะเป็นส่วนของการอบรม จะเริ่มตั้งแต่การเป็นพนักงานจะต้องทำอะไรบ้าง ข้อมูลในส่วนนี้จะเป็นเสมือนกับแผนที่ให้กับพนักงานในแต่ละแผนกว่าควรจะมีการเรียนรู้อะไรบ้าง ซึ่งข้อมูล ในการฝึกอบรมของหลักสูตรต่างๆ จะถูกบรรจุลงไปในเว็บไซต์

ข้อมูลในส่วนนี้ยังใช้เป็นเครื่องมือ (Tool) ให้กับพนักงานของซิสโก้จะนำไปใช้ประโยชน์ ตามความต้องการที่หลากหลายเรียกง่ายๆ ก็คือเครื่องมือในการ ใช้ชีวิตในการเป็นพนักงานของซิสโก้

ผู้จัดการของซิสโก้จะสามารถเรียนรู้วิธีการใช้คำพูด หรือวิธีการวางตัวภายใต้สถานการณ์ที่แตกต่างกันไปได้จากเว็บ เช่นเดียวกับพนักงานขายที่จะ สามารถเรียนรู้วิธีในการเขียน ข้อเสนอ โครงการจากเว็บไซต์ของซิสโก้

พนักงานของซิสโก้จะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว ที่อยู่เบอร์โทรศัพท์ ลงในส่วนที่เป็นไดเรคทอรีส์ของพนักงาน และจะต้องรับผิดชอบ update ข้อมูลเหล่านี้ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อใช้เป็นไดเรคทอรีส์ภายในของซิสโก้

ซิสโก้ ซิสเต็มส์ ประเทศไทย นำระบบนี้มาใช้ตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว เวลานี้ 100% ของดีลเลอร์ 10 กว่ารายของซิสโก้ สั่งซื้อสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ต และสำนักงานของซิสโก้แห่งนี้ก็ไม่มีตู้ใส่เอกสารที่จะใส่แฟ้มบุคคล ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบุคคล ฝ่ายการเงิน ทุกอย่างจะอยู่บนเว็บไซต์หมดแล้ว

"หลายคนถามผมว่าแล้วจะเอาพนักงานพวกนี้ไปไว้ที่ไหน ผมตอบไปว่า ไปไว้ในส่วนงานที่สร้างรายได้ให้กับบริษัท อย่างการตลาด บริการลูกค้า เพราะนั่นคือสิ่งที่จะทำให้บริษัทเพิ่มรายได้" วรกรสะท้อน

ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนจากระบบการสั่งซื้อแบบเดิมๆ มาสั่งซื้อผ่านออนไลน์ของซิสโก้ ซิสเต็มส์ ประเทศไทย และในสาขาอื่นๆ ทั่วโลก จะเป็นแค่การเชื่อมโยง (link) เข้าสู่อินเตอร์เน็ตเท่านั้น เพื่อเข้าสู่ระบบ CCO ที่บริษัทแม่ลงทุนไว้แล้ว แต่ประเด็นของเรื่องนี้อยู่ที่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของดีลเลอร์ในไทย

เพราะการเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่ใช่แค่การที่ดีลเลอร์ต้องลงทุนซื้อพีซีเครื่องละ 40,000-50,000 และสมัครเป็นสมาชิกอินเตอร์เน็ต เพื่อต่อเข้ากับระบบ CCO ที่ทำงานอยู่บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเท่านั้น แต่เป็นการเปลี่ยนวัฒนธรรมการทำงานแบบเดิมๆ ของดีลเลอร์ทั้งหลาย ซึ่งเวลานี้ซิสโก้ทั่วโลกก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนมาใช้ระบบนี้ได้หมด 100% ยังมีดีลเลอร์ที่ยังไม่พร้อมสำหรับเรื่องเหล่านี้ และซิสโก้ก็ยังต้องใช้เวลาไปอีกพักใหญ่

"ช่วงแรกของการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้วิธีอธิบายให้เห็นถึงประโยชน์ต่างๆ ที่ดีลเลอร์จะได้รับ ควบคู่ไปกับการกำหนดเวลาที่แน่นอน" วรกร

บอก เขาให้เวลาดีลเลอร์ 6 เดือนเต็มในการเปลี่ยนจากการสั่งซื้อสินค้าทางแฟกซ์มาสั่งซื้อผ่านระบบออนไลน์

วรกรยอมรับว่าการให้ความรู้ก็อาจไม่สามารถสร้างแรงจูงใจได้ทั้งหมด ต้อง สร้างแรงจูงใจให้ดีลเลอร์เห็นผลทันที ด้วยการให้ส่วนลด 1% แก่ดีลเลอร์เพื่อให้หันมาสั่งซื้อทางระบบอินเตอร์เน็ต

"ในที่สุดพาร์ตเนอร์เราก็ชอบ เขาสามารถเช็กของ ค้นหาข้อมูลต่างๆ ได้ด้วยเอง พาร์ตเนอร์บางรายของเราอย่างแวลลูซิสเต็มส์ เวลานี้ก็เริ่มนำไปทดลองใช้กับดีลเลอร์ของเขาแล้ว"

ผลที่ได้รับจากการยอมลงทุน 50 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อ 5 ปีที่แล้ว สำหรับการนำเอาระบบอินเตอร์เน็ตมาใช้ให้เกิดประโยชน์ภายใน ทำให้ซิสโก้ประหยัดเงิน 650 ล้านเหรียญสหรัฐ และสามารถคืนทุนได้ภายในเวลาเพียงแค่ 6 เดือน

ยอดขายปี 2541 จำนวน 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่เพิ่มเป็น 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตเพิ่มขึ้น 43% กำไรเติบโตจาก 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐเป็น 2.49 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ผลกำไรที่เพิ่มขึ้นมานี้เป็นผลมาจากการที่ซิสโก้สามารถประหยัดเงินไปได้ 50 ล้านเหรียญต่อปี ที่มาจากการที่ซิสโก้ไม่ต้องผลิตซีดี ไม่ต้องเสียค่าขนส่งไม่ต้องพิมพ์ใบสั่งซื้อ เป็นต้น

"เมื่อก่อนเรามีแผนกสั่งซื้อสินค้า ใช้คน 1,000 คนทำออร์เดอร์ เวลานี้เราไม่ต้องมีแล้ว เราใช้คนเพิ่มขึ้น 20% แต่ยอดขายเราเพิ่มขึ้น 12 เท่าตัว"

ผลสำเร็จของการนำเว็บมาใช้เป็นเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพให้กับองค์กร วรกรเชื่อว่าภายในปีหน้า ซิสโก้ ซิสเต็มส์ ประเทศไทยก็สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัวโดยใช้พนักงาน 20 กว่าคนที่มีอยู่เดิม

"หลายคนคิดจะเอาอินเตอร์เน็ตมาใช้ เพราะหวังจะมีรายได้จากเครือข่ายนี้ หรือประหยัดต้นทุนแต่จริงๆ แล้วเป็นการสร้างความได้เปรียบในเชิงการแข่งขัน ที่จำเป็นยิ่งกว่าการลดต้นทุนด้วยซ้ำ"

การที่ซิสโก้สามารถปิดบัญชีได้ภายใน 24 ชั่วโมง นั่นหมายความว่าผู้บริหารของซิสโก้จะรู้ความเคลื่อนไหวของยอดขายในทันที และนั่นก็คือข้อมูลอันมีค่าที่จะใช้ในการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับภาวะความต้องการ และเหมาะกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปได้ทันท่วงที นี่คือสิ่งที่จะเป็นแต้มต่อของธุรกิจ ที่จะเรียนรู้การใช้ประโยชน์จาก "ข้อมูล" ตามแนวคิดที่ว่าข้อมูลคืออาวุธที่สำคัญของทศวรรษนี้

"การที่เราปิดบัญชีได้ภายใน 24 ชั่วโมง นั่นหมายความว่าผู้บริหารจะสามารถรู้สถานะทางการเงินของบริษัท รู้ยอดขายของตัวเองแบบวันต่อวัน ข้อมูลเหล่านี้สำคัญมากที่จะใช้การปรับตัวเพื่อการแข่งขัน และวางแผนตลาดที่เหมาะสม นี่คือความรวดเร็วที่จะทำให้เราได้เปรียบในการแข่งขัน"

แม้ซิสโก้จะถูกมองว่าก้าวเข้าสู่ e-business และใช้ประโยชน์จากการลงทุนในครั้งนั้นได้อย่างเต็มที่ เป็นเพราะการที่อยู่ในธุรกิจด้านไอทีอยู่ แล้ว แต่ในความเห็นของวรกรแล้ว ซิสโก้ไม่ต่างจากองค์กรธุรกิจทั่วไป ผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายไม่ได้เป็นผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์

"ต่อให้ซิสโก้ทำธุรกิจอย่างอื่น ที่ไม่ใช่ไอทีก็ตาม แต่เราก็จะทำแบบนี้" นี่คือเสียงประกาศของซิสโก้ ซิสเต็มส์ ประเทศไทย



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.