การลดความอ้วนด้วยการใช้หลักโภชนาการนั้นนับเป็นความคิดที่แหวกแนวจากวิธีการลดความอ้วนโดยทั่วๆไป
แม้ว่าการลดความอ้วนแบบนี้เพิ่งจะเริ่มเป็นที่นิยมของคนไทยเมื่อต้นปี 28
นี้ก็ตาม แต่ความจริงแล้วในต่างประเทศใช้วิธีการนี้แพร่หลายกันมาตั้งนานแล้ว
สำหรับในเมืองไทยนั้นแม้จะมีวิธีการลดความอ้วนด้วยการบริหารร่างกายแอโรบิก
แดนซ์ อดอาหาร กินยา จนถึงผ่าตัดเอาไขมันออกก็ตาม แต่วิธีการเหล่านี้ก็ค่อนข้างจะยุ่งยากและอันตรายมากด้วย
อย่างเช่นการเต้นแอโรบิกนั้นจะต้องเสียเวลาเดินทางไป-กลับ รวมกับเวลาที่ออกกำลังกาย แล้วก็ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า
3 ชั่วโมง จึงทำให้คนส่วนมาก ซึ่งต้องทำมาหากินกันตัวเป็นเกลียวในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้
ไม่สามารถไปใช้บริการได้
แต่เมื่อมีการลดน้ำหนักโดยใช้หลักโภชนาการนี้เข้ามา โดยใช้จุดขายคือ ไม่ต้องอดอาหาร
ไม่ต้องออกกำลังกาย ไม่ต้องกินยา และไม่ต้องเสียเวลา รวมกับความตั้งใจจริงของลูกค้าแล้วก็จะสามารถลดน้ำหนักได้เป็นสิบๆ
กิโลตามที่โฆษณาเอาไว้
กรรมวิธีในการลดความอ้วนนั้น ก่อนอื่นสมาชิกที่สมัครเข้ารับการลดน้ำหนักจะต้องพบกับพยาบาลเพื่อชั่งน้ำหนัก
วัดส่วนสูง ดูโครงสร้างและรูปร่างว่าน้ำหนักตัวในปัจจุบันเมื่อเทียบกับอายุแล้วควรจะมีน้ำหนักเป็นเท่าใด
หลังจากนั้นสมาชิกจะถูกส่งไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพโดยทั่วไป และหาสาเหตุของความอ้วน
จากนั้นแพทย์จะเป็นผู้วางโปรแกรมว่าสมาชิกควรจะลดน้ำหนักตัวลงเท่าใด
หลังจากนี้ก็จะพบกับโภชนากรซึ่งจะให้ความรู้และแนะนำเรื่องการรับประทานอาหาร
โดยจะทำเป็นตารางอาหารประจำวันในแต่ละมื้อ ซึ่งผู้ลดน้ำหนักจะสามารถทานอาหารได้ทุกมื้อ
นอกจากนี้ยังมีอาหารเสริมซึ่งมีลักษณะเป็นผง มีให้เลือกหลายรส ใช้สำหรับชงละลายน้ำรับประทานวันละมื้อ
อาหารเสริมนี้จะไม่ให้คุณค่าทางอาหารเลย เพียงแต่ให้ความอิ่มเท่านั้น เพื่อให้เกิดความอยากอาหารน้อยลง
ถ้าสมาชิกทำตามคำแนะนำของโภชนากรโดยตลอดแล้ว จะสามารถลดน้ำหนักได้ไม่ต่ำกว่า
5 กิโลกรัมต่อเดือน
อัตราค่าบริการนี้ก็มี 2 แบบ คือ แบบเหมาเป็นโปรแกรม 5 กิโล 10 กิโล และ
10 กิโลขึ้นไป กับอีกแบบคือคิดเป็นราคาต่อ 1 กิโล ซึ่งถัวเฉลี่ยทั้ง 2 แบบแล้วก็ตกราวๆ
กิโลกรัมละพันกว่าบาท
สำหรับสถานบริการนั้น รายแรกที่เปิดตัวเองออกก่อนเมื่อต้นปี '28 นี้ คือ
ค่ายโปรเฟสชั่นแนล สลิมมิ่ง เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทจากต่างประเทศ ตามติดด้วยสลิมมิ่ง
เซ็นเตอร์ ของคนไทยล้วน แล้วก็มีอีกหลายแห่งชักแถวตามกันมา
การลดน้ำหนักแบบโภชนาการนี้เติบโตได้อย่างรวดเร็วเพราะลูกค้าพอใจ ในกรรมวิธีการที่ไม่ยุ่งยากมากนัก
และวิธีการนี้ก็เป็นวิธีการธรรมดาในวงการแพทย์ และสามารถเรียนรู้กันได้ จึงทำให้มีการเปิดสถานบริการกันมากขึ้น
ซึ่งตอนนี้นอกจากจะทำยุทธภูมิกันในกรุงเทพฯ แล้วก็ยังเริ่มขยายฐานไปต่างจังหวัดกันบ้างแล้ว