|
จากเวียดนามข้ามสู่พม่า
โดย
เอกรัตน์ บรรเลง
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( มีนาคม 2555)
กลับสู่หน้าหลัก
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์อุตสาหกรรมการค้าของเวียดนามได้นำเสนอรายงานชิ้นหนึ่ง เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
รายงานดังกล่าวระบุว่าในช่วงกว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมา มีชาวเวียดนามเกือบ 200 คนได้ไปยังสถานกงสุลใหญ่พม่าประจำนครโฮจิมินห์เพื่อขอวีซ่า ในจำนวนนั้น กลุ่มคนที่น่าสนใจล้วนเป็นนักธุรกิจที่กำลังแสวงหาโอกาสไปค้าขายกับพม่า
ตัวเลขดังกล่าวเปรียบเทียบกับในปี 2554 ที่เฉลี่ยแต่ละเดือนมีชาวเวียดนามเพียงประมาณ 50-60 คนเท่านั้น ที่ได้ไปยังสถานกงสุลพม่าเพื่อขอวีซ่าเข้าพม่า
ด่าม ตรุง บั๊ก กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ของพม่าประจำนครโฮจิมินห์ ได้กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า จำนวนนักธุรกิจที่มายังสถานกงสุลใหญ่มีจำนวนเพิ่มขึ้น ในนั้นไม่เพียงมีนักธุรกิจชาวเวียดนาม แต่ยังมีทั้งนักธุรกิจชาวต่างประเทศที่อยู่ในเวียดนาม ก็สนใจแวะมาไต่ถามเกี่ยวกับตลาดพม่า อาทิ กลุ่ม Daewoo จากเกาหลี ที่ต้องการเข้าไปลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงบรรดาสถานประกอบการจากญี่ปุ่นก็แสดงความสนใจ ตั้งแต่ต้นปี 2555 ในระยะเวลา 1 เดือนกับอีก 10 กว่าวันที่ผ่านมามีนักธุรกิจเกือบ 200 คน มาขอวีซ่าเพื่อเข้าพม่า ในนั้นจำนวนคนที่ไปด้วยจุดประสงค์ท่องเที่ยวและการค้าคิดเป็น 80% ส่วนที่เหลือเป็นการเดินทางเพื่อวัตถุประสงค์ทางศาสนา และการทูต
กงสุลใหญ่พม่าประจำนครโฮจิมินห์บอกว่าเนื่องจากปริมาณคนขอวีซ่าเพื่อเข้าพม่าเพิ่มขึ้นมากดังกล่าว ส่งผลให้เวลาในการพิจารณาอนุมัติวีซ่าจึงยืดเยื้อถึง 10-12 วัน แทนที่จะเป็น 7 วันเหมือนเมื่อก่อนนี้
โดยปกตินักธุรกิจที่ขออนุมัติวีซ่าเข้าพม่าเพื่อการท่องเที่ยวมีมากกว่าวีซ่าเพื่อการค้า เพราะการทำเรื่องขอวีซ่าเพื่อการค้ามีความซับซ้อนกว่า โดยต้องมีเอกสารบางอย่างประกอบ เช่นหนังสือเชิญของคู่ค้าเป็นต้น
ด่าม ตรุง บั๊กกล่าวว่า เมื่อถามถึงวัตถุประสงค์ นักธุรกิจเวียดนามได้ให้คำตอบที่แสดงความสนใจในการลงทุนในตลาดพม่า
ก่อนอื่นสถานประกอบการหลายแห่งสนใจการค้าที่สำคัญคือการนำเข้าผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากพม่า เช่น ไม้ของป่า สินแร่ สัตว์น้ำ
ด้านการส่งออกก็มีบริษัท Robot ที่ต้องการนำหม้อ แปลงไฟฟ้าของเวียดนามเข้าไปจำหน่ายในพม่า เขาบอกว่า วงการธุรกิจเวียดนามไม่เข้มแข็งและมีพลังเท่าประเทศอื่นๆ เพราะฉะนั้นนักธุรกิจเวียดนามจึงเพิ่งเริ่มตื่นตัวในการเข้าไปในพม่า ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ได้เข้าไปลงทุนในพม่ามานานแล้ว
อย่างไรก็ดี เขาพยากรณ์ว่าปีนี้อาจจะมีการเปลี่ยน แปลงทางบวกเกี่ยวกับสถานประกอบการเวียดนามที่ต้องการเข้าสู่ตลาดพม่า
ปัจจุบันพม่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เปรียบเทียบกับเวลาก่อนมีการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 นับถึงเวลานี้ พม่าได้บังคับใช้กฎหมาย 18 ฉบับ คาดว่าเร็วที่สุดคือในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ที่พม่าจะผ่านกฎหมายแก้ไขเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการลงทุนและดึงดูดการลงทุนต่างประเทศ ด้วยเนื้อหาเปิดเผยชัดเจน เช่น ยกเว้นภาษี 8 ปีให้แก่สถานประกอบการที่เข้าไปลงทุนโดยตรง
นอกจากนี้พม่าจะจัดการเลือกตั้งซ่อมเพิ่มจำนวนผู้แทนในรัฐสภา ในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ และอองซาน ซูจี (แกนนำฝ่ายค้าน) จะเข้าร่วมการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|