จอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ส เป็นนักแสดงละครเชกสเปียร์ เกิดที่เมืองเล็กๆ
ในมลรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา เขาจบการศึกษาจากวิทยาลัยลาฟาเยต์ ก่อนจะเป็นนักแสดงละคร
และดาราหนังเงียบนั้นเพาเวอร์ส เคยทำงานกับบริษัทขายหุ้นมาก่อน
เพาเวอร์แต่งงานกับดาราด้วยกันชื่อ อลิซ เฮทาเวย์ เบอร์ตัน หลังจากแต่งงานได้ไม่นานก็ย้ายไปอยู่ที่นิวยอร์ก
และได้พบประกาศหานางแบบ ทั้งคู่จึงรวบรวมเพื่อนดาราที่กำลังหางานอยู่ในขณะนั้น
จัดตั้งบริษัทจัดหานางแบบขึ้นเป็นแห่งแรกเมื่อปี 2466
ภายใน 20 ปีต่อมาบริษัทจอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ส มีนางแบบในสังกัดถึง 400
คน มีชื่อเสียงและมีสาขาในเมืองสำคัญต่างๆ มากกว่า 70 แห่งทั่วโลก
นอกจากนั้นหลักสูตรการสอนของสถาบันก็ไม่ได้มุ่งสร้างนางแบบหรือนายแบบเพียงอย่างเดียว
หากแต่เน้นไปที่หลักสูตรการพัฒนาบุคลิกภาพสำหรับคนทั่วๆ ไปด้วย
เพาเวอร์ส มีความเชื่อว่า "ทุกคนทั้งหญิงและชายต่างก็มีเสน่ห์ในตัว
เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะนำเสน่ห์นั้นออกมาได้อย่างไร"
และเผอิญเพาเวอร์สคิดว่า เขาช่วยนำเสน่ห์ของแต่ละคนออกมาได้ ความเชื่อดังกล่าวนี้จึงถูกกำหนดเป็นหลักการของสถาบันจอห์น
โรเบิร์ต เพาเวอร์ส ซึ่งยึดถือปฏิบัติกันตลอด 60 กว่าปี กระทั่งปัจจุบัน
จอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ส อำลาโลกไปนานหลายปีแล้ว
แต่สถาบันของเขายังคงอยู่อย่างเป็นปึกแผ่นและขยายกิ่งก้านสาขาออกไปเรื่อยๆ
รวมทั้งจอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ส ที่กรุงเทพฯ ด้วยแห่งหนึ่ง
สถาบันจอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ส ที่กรุงเทพฯ เพิ่งจะก่อตั้งขึ้นเมื่อต้นเดือนกันยายนนี้เอง
โดยมีประณม ถาวรเวช ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสถาบัน
"ถ้าจะถามถึงเบื้องหลังการก่อตั้ง ดิฉันก็คงต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่คิดมานานแล้ว
ตั้งแต่สมัยยังทำงานกับโอเรียนเต็ล ซึ่งทำด้านจัดเลี้ยงเพราะมีอยู่บ่อยๆ
ที่เจ้าภาพมักจะมาต่อว่า ว่าทำไมอาหารไม่พอเลี้ยงแขก เราก็ชี้แจงว่าเรายกอาหารออกมาหมดแล้ว
ไม่ได้ขยักไว้เลย แต่ก็อยากจะให้เจ้าภาพไปดูบ้างว่า แขกตักอาหารไปเหลือทิ้งเหลือขว้างแค่ไหน
ดิฉันจึงคิดเสมอว่า เราน่าจะมีการสอนเกี่ยวกับมารยาทในการไปงานเลี้ยงกันบ้าง
สอนกันในชั้นเรียนเป็นหลักสูตรของกระทรวงศึกษาฯ เลยก็ได้ พอดีมีเพื่อนชาวต่างประเทศคนหนึ่งเขาทำงานกับสถาบันจอห์น
โรเบิร์ต เพาเวอร์ส เขาคุมย่านเอเชียทั้งหมด เขาก็อยากจะตั้งสถาบันขึ้นในกรุงเทพฯ
ตอนนั้นดิฉันก็แนะนำคนไทยให้เขาติดต่อด้วยหลายคน แต่ก็เงียบๆ ไป จนเดือนมกราคมนี่เองเขามาอีกแล้วถามดิฉันว่าดิฉันสนใจจะทำเองไหม
ดิฉันก็เลยขอรายละเอียดเขามาก่อน อ่านแล้วก็ว่ามันตรงกับสิ่งที่เราเคยคิดหลายอย่าง
ก็เลยตอบตกลง หลังจากนั้นก็เดินทางไปเข้าฝึกอบรมที่สำนักงานใหญ่บอสตัน 3
เดือน…" ประณม ถาวรเวช เล่ากับ "ผู้จัดการ"
ประณม เป็นบุตรีคนโตของ พล.อ.ท.ตระกูล และแพทย์หญิงชุลี ถาวรเวช เรียนชั้นอนุบาลจนถึงชั้นเตรียมอุดมที่โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย
และได้ศึกษาในแผนกวิชาโรงแรมต่อที่โรงเรียนโฮเต็ลเซ็กเค็ททาเรียลอาร์ท ชูเลท์
(HOTEL SEKKETARIATSSCHULE)ที่เมืองคูรท์ และที่เฮาส์ เฮาท์ทงส์ ชูเลท์ (HAUSHALTUNGSSCHULE)
ที่เมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ประณมเข้าเริ่มงานครั้งแรกที่โรงแรมโอเรียนเต็ล ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการแผนกอาหารและเครื่องดื่มเมื่อปี
2515 และลาออกจากโอเรียนเต็ล เมื่อปี 2521
ปัจจุบันนอกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันจอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ส แล้ว
ก็มีตำแหน่งเป็นเลขาธิการของสมาคมศิษย์เก่าวังหลังวัฒนาด้วยอีกตำแหน่งหนึ่ง
"ด้านการลงทุน ดิฉันก็ลงทุนเองร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน โดยเราได้
FRANCHISE จากสถาบันจอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ส …" ประณมเล่าต่อ
สถาบันจอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ส กรุงเทพฯ มีหลักสูตรการสอนที่เรียกว่า
หลักสูตรพัฒนาบุคลิกภาพสำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
"ซึ่งกลุ่มเป้าหมายก็คือ กลุ่มคนชั้นกลาง อย่างเช่น เลขานุการ พนักงานขาย หรือผู้บริหารระดับกลาง ที่กำลังจะรุ่งโรจน์ในหน้าที่การงานและต้องการเสริมสร้างเสน่ห์ในตัว
เพื่อให้ผู้ที่รู้จักหรือพบเห็นเกิดความประทับใจ…" ประณมกล่าวอีกตอนหนึ่ง
ส่วนด้านชั้นเรียนนั้น จะแยกกันเด็ดขาดระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย โดยจะเป็นชั้นเรียนที่แต่ละชั้นจะมีคนเรียน
10 คน หรืออย่างมากไม่เกิน 12 คน
"เราต้องการชั้นเรียนที่คนไม่มากจนเกินไป เพราะเราอยากให้วิทยากรสามารถดูแลได้อย่างใกล้ชิดและทั่วถึง
เพื่อให้ผู้เรียนได้รับประโยชน์มากที่สุด" ประณมให้เหตุผล
หลักสูตรสำหรับผู้หญิงนั้นก็จะประกอบด้วย การแต่งหน้าหรือการแก้ไขส่วนบกพร่องในใบหน้า
ก็จะเป็นการสอนให้รู้จักใช้เครื่องสำอาง เทคนิคในการแต่งหน้าเพื่อให้เหมาะสมกับใบหน้าและกาลเทศะ
ซึ่งช่วยสร้างหน้าตาให้ชวนมองยิ่งขึ้น
วิชานี้วิทยากรคือผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล คอสเมติกส์ ตัวแทนจำหน่ายเครื่องสำอางเพี้ยซ
ต่อมาคือเรื่องแบบผมและการดูแลรักษา ดำเนินการสอนโดยอาจารย์จากโรงเรียนสอนทำผมจันทนา
เรื่องสุขภาพและโภชนาการ สอนโดยอาจารย์จากกรมพลศึกษา
เรื่องการวางท่าทาง การนั่ง การเดิน สอนโดยอาจารย์จากกรมพลศึกษา
เรื่องการวางท่าทาง การนั่งและเดิน สอนโดย นราวดี อิงคะวัต ซึ่งสำเร็จวิชาการละครจากอังกฤษ
การพูดหรือการสื่อภาษาตลอดจนทักษะในการสนทนา สอนโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ดร.เพียรศิริ วงศ์วิภานนท์ อาจารย์จากจุฬาฯ
มารยาทในสังคมและการรู้จักเข้าสังคม สอนโดย ม.ร.ว.วลัยลักษณ์ รังสิต
นอกจากนั้นก็ยังมีเรื่องเกี่ยวกับเสื้อผ้าและอีกมาก
ส่วนหลักสูตรสำหรับผู้ชายก็จะคล้ายๆ กัน อาจจะแตกต่างกันบ้างนิดหน่อย
"มีผู้สนใจอยากเรียนหลายคนโทรศัพท์มาคุย พอเล่าให้ฟังก็ร้องว่า นี่..จะมาเปลี่ยนดิฉันให้เป็นสาวเปรี้ยวหรือไง
จริงๆ แล้วสถาบันไม่ได้เปลี่ยนคุณเลย คุณก็ยังเป็นคุณอยู่ เพียงแต่เราจะเพิ่มเสน่ห์ที่บางทีคุณก็ไม่รู้ให้กับคุณเท่านั้น…"
ประณมชี้แจงให้ฟัง
"อย่างสมมุติคุณมีตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับกลางๆ คนหนึ่ง จะต้องเดินเข้าไปเสนองานให้กับที่ประชุมของผู้บริหารระดับสูง
ถ้าคุณหน้าตาหมดจดสดใส ทรงผมเรียบมีเสน่ห์ เสื้อผ้ามีรสนิยม พูดจาฉาดฉาน ท่วงท่าไม่เคอะเขิน
มันก็ดูสมบูรณ์ไปหมดใช่ไหม นี่แหละ ที่จอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ส จะช่วยคุณได้
ให้คุณเป็นคนอย่างนั้น" ประณมถือโอกาสประชาสัมพันธ์เสร็จ
ด้านราคาค่าเรียนนั้นดูเหมือนจะต้องเสียค่าลงทะเบียน 600 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ
จะต้องจ่ายกันอีกเท่าไหร่" เราอยากให้มาคุยโดยตรงเลย เพราะเราเรียนทั้งหลักสูตร
51 ชั่วโมง คุณจะพร้อมเรียนได้ในวันไหน ช่วงเวลาไหน เป็นเรื่องตกลงกันได้
ส่วนค่าใช้จ่ายเราจะแยกเก็บเป็นงวดๆ อย่างเช่น 2 งวด 3 งวด จนถึง 6 งวด
ดูให้เหมาะสมกับงบประมาณที่คุณพอจะจ่ายได้" ประณมชี้แจงอีกครั้ง
คัมภีร์ที่ฉลาดปราดเปรื่อง มักจะสอนว่า เราจะตัดสินความดีเลวของหนังสือจากปกของมันไม่ได้
แต่ในความเป็นจริงสำหรับโลกสมัยนี้ ก็คือ คนจำนวนมากจะมองดูที่ปกหนังสือก่อนแล้วจึงพลิกไปอ่านเนื้อหาข้างในทีหลัง
สำหรับคนที่มีความมั่นใจ ซึ่งแสดงออกมาให้เห็นภายนอก เป็นที่สะดุดตา เปิดเผยมีเสน่ห์
จึงมักจะเป็นผู้ที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในยุคนี้"
ก็ไม่ใช่สิ่งที่ "ผู้จัดการ" อยากจะบอกหรอก สถาบันจอห์น โรเบิร์ต
เพาเวอร์สเขาบอกไว้อย่างนั้น จริงเท็จอย่างไรลองค้นหาคำตอบจากประสบการณ์ตรงกันเองก็คงไม่เสียหลายแน่