“อาร์เอส” รุกธุรกิจแซทเทลไลท์ทีวี เต็มสูบ จ่อคิวปรับขึ้นราคาค่าโฆษณา 30% รับเม็ดเงินโฆษณาทีวีดาวเทียมทะลุ 5,000 ล้านบาทในปีหน้า ส่วนเอซีนีลเส็นปฏิวัติการสำรวจเรตติ้งใหม่ ขยายฐานกลุ่มตัวอย่างเป็น 3 เท่า รับการแข่งขันเดือด ชี้รายย่อยไม่แกร่งล้มหายเพียบ
นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมแซทเทลไลท์ ทีวี ในปี 2012 ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก จากการสำรวจพบว่าปัจจุบันมีผู้ติดตั้งจานรับสัญญาณที่รับชมโทรทัศน์ผ่านแซทเทลไลท์ ทีวี มีจำนวนมากถึง 50% ของครัวเรือนทั่วประเทศ อีกทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในทุกปีและจะเข้ามาแทนที่เสาก้างปลาในที่สุด ซึ่งก็เป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการหลายรายหันมารุกธุรกิจแซทเทลไลท์ ทีวี
อีกทั้งเม็ดเงินโฆษณาในธุรกิจนี้ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าในปี 2012 จะมีมูลค่ามากถึง 3,500 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 ล้านบาท ในปี 2013 จึงทำให้ธุรกิจแซทเทลไลท์ทีวีเป็นธุรกิจที่มีเสน่ห์ และดึงดูดใจผู้ประกอบการหลายราย อีกทั้งยังก่อตั้งได้ด้วยเงินทุนไม่มาก ช่องโทรทัศน์ดาวเทียมจึงผุดขึ้นมากมายหลายช่องในเวลาไม่นาน แต่การที่จะยืนหยัดอยู่อย่างแข็งแกร่งเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า โดยเครื่องมือสำคัญในการชี้วัดเรตติ้งหรือค่าความนิยมของผู้ชมแซทเทลไลท์ ทีวี ในปัจจุบัน เราอ้างอิงจากผลการสำรวจของเอซีนีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช ซึ่งได้การยอมรับในระดับโลก
เอซีนีลเส็น ได้ปรับปรุงการสำรวจกลุ่มตัวอย่างผู้ชมแซทเทลไลท์ ทีวี ครั้งใหญ่ ด้วยการเพิ่มจำนวนตัวอย่างอีก 3 เท่า ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป อันจะส่งผลดีกับเจ้าของคอนเทนต์ ที่สามารถอ้างอิงเรตติ้งที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ถ้าช่องโทรทัศน์นั้นๆเป็นช่องที่ได้รับความนิยมก็จะส่งผลดีในตัวเลขผู้ชมที่ชัดเจน แต่ในทางกลับกันถ้าช่องโทรทัศน์นั้นๆไม่ได้อยู่ในมาตรฐานหรือมีผู้ชมไม่มากพอก็จะแสดงเรตติ้งที่ลดลงอย่างชัดเจนด้วยเช่นกัน จึงเห็นได้ว่าในปีที่ผ่านมามีจำนวนช่องแซทเทลไลท์ ทีวี หลายช่องที่ล้มหายตายจากไป เพราะจำนวนช่องโทรทัศน์ที่มีมากกว่า 100 ช่องในปัจจุบัน ไม่ใช่การตอบโจทย์ที่ตรงจุดของผู้ชม เพราะผู้ชมแต่ละคนจะมีช่องโปรดที่เลือกชมเป็นประจำไม่เกิน 10 ช่อง การที่เราผลิตคอนเทนต์ที่ตรงใจผู้บริโภคจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าการผลิตช่องป้อนตลาดมากแต่ผู้ชมไม่เลือกชม
ปัจจุบันอาร์เอส มีช่องโทรทัศน์ในเครือทั้งหมด 4 ช่อง ได้แก่ ช่องสบายดี ทีวี , YOU CHANNEL , ช่อง 8 และYAAK TV คาดว่าทั้ง 4 ช่อง น่าจะทำรายได้รวมอยู่ที่ 550 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนมากกว่า 100% ซึ่งจะทำให้อาร์เอสมีส่วนแบ่งในตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 30-40% ขึ้นแท่นเบอร์ 1 เม็ดเงินโฆษณาโทรทัศน์ดาวเทียม หลังครองแชมป์เรตติ้งตลอดปี พร้อมปรับขึ้นราคาค่าโฆษณาในช่องแซทเทลไลท์ ทีวี อีก 30% ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบค่า CPM (Cost Per Thousand) แล้ว ถือว่าคุ้มค่าและถูกมากเมื่อเปรียบเทียบกับฟรีทีวี
เมื่อคุณภาพคือสิ่งสำคัญ เริ่มต้นศักราชใหม่ อาร์เอสจึงเปิดแผนปรับผังเฟส 2 ของช่อง 8 ฟรีทีวี วาไรตี้ 24 ชม. ที่ได้รวบรวมเอารายการเด่น ละครเด็ด และวาไรตี้บันเทิงแบบครบรส ที่ส่งตรงความบันเทิงให้กับผู้ชมทั่วประเทศแบบจุใจ ในรูปแบบฟรีทีวี หวังเรียกเรตติ้งตั้งแต่ต้นปี พร้อมเพิ่มทางเลือกให้กับเอเจนซี่และเจ้าของสินค้าได้เลือกทำการวางแผนทางการตลาดที่เข้าถึงและคุ้มค่าสูงสุด
ด้านนายองอาจ สิงห์ลำพอง ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 กล่าวว่า ตั้งแต่ช่อง 8 ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อตอนต้นปี 2011 โดยมีกระแสตอบรับค่อนข้างดีมาก ซึ่งผังใหม่ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้ จะมีรายการและละครใหม่แกะกล่องมาเสนอให้ผู้ชมได้ดูกันทั้งสาระความรู้ หรือความบันเทิง เช่น ก้อง-ปิยะ เศวตพิกุล ,นานา ไรบีนา , อ้น-สราวุธ มาตรทอง , อิม-อชิตะ ธนาศาสตนันท์