|
HARLEY-TRIUMPH เติบโตตามเป้า ลูกค้าขยาย-Big Bike เน้นลุยตจว.
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(9 กุมภาพันธ์ 2555)
กลับสู่หน้าหลัก
HARLEY-DAVIDSON เผยยอดขาย ’54 เติบโตตามเป้า ชี้ความต้องการผู้บริโภคเปลี่ยน เน้นเดินทาง ผจญภัยมากขึ้น ส่วน TRIUMPH จากอังกฤษ เน้นขยายไลน์รถตอบสนองลูกค้าครบทุกกลุ่ม พร้อมลุยตลาดต่างจังหวัด ขยายช่องทางโต
Triumph : เน้นบุกต่างจังหวัด
ดอม เหตระกูล กรรมการบริหาร บริษัท บริทไบค์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ TRIUMPH พร้อมทั้งอุปกรณ์ตกแต่ง และเครื่องแต่งกายอย่างเป็นทางการจากอังกฤษ กล่าวกับ “ผู้จัดการ 360 องศา รายสัปดาห์” ว่า ช่วง 5-7 ปีที่ผ่านมา กระแสตอบรับมอเตอร์ไซค์ใหญ่ หรือ Big Bike ในตลาดเมืองไทยดีมาก เป็นผลมาจากการที่ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์รายใหญ่ ประกอบด้วย KAWASAKI DUCATI รวมถึง TRIUMPH ให้ความสนใจลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น
“KAWASAKI มีโรงงานอยู่แล้วที่ระยอง TRIUMPH มีที่ชลบุรี ที่เพิ่งมาล่าสุดคือ DUCATI ทั้งหมดนี้เป็นสัญญาที่ดีว่า บ้านเราได้รับความสนใจ เรื่องการเติบโตของอุตสาหกรรมรถมอเตอร์ไซค์ขนาด 500 ซีซี.ขึ้นไป ตรงนี้เป็นที่มาที่ทำให้ผู้บริโภคมองว่า มอเตอร์ไซค์ใหญ่เป็นไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจ นอกจากนั้น ฮอนด้ากับยามาฮ่า ก็มีการสร้างโรงเรียนสอนขับขี่ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องในการขับขี่มอเตอร์ไซค์ใหญ่”
ดอม กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมา ตลาด “รถสองล้อ” ในไทย เติบโตมากับรถจักรยาน มอเตอร์ไซค์ขนาดเล็ก ทำให้มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้มอเตอร์ไซค์ โดยเฉพาะเรื่องการแต่งตัว และความปลอดภัย
แนวโน้มที่เกิดขึ้น คือ ค่ายต่างๆให้ความสนใจกับเรื่องเครื่องแต่งกาย เครื่องป้องกันต่างๆด้วย ไม่ใช่แค่สินค้าคือตัวรถ
“นั่นคือแต่ละแบรนด์ก็จะมีสินค้าของตัวเองออกมาด้วย ก็จะได้ทั้งเรื่องความปลอดภัย ความสวยงาม เป็นแฟชั่น เด็กๆที่เคยขี่รถเล็กๆ ก็อยากขี่รถใหญ่ อยากแต่งตัวหล่อๆ เท่ๆ ขี่รถใส่กางเกงขายาว รองเท้าบูต ถุงมือ ทำให้ตลาดของกลุ่มนี้เริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ”
พริตตี้ที่บูธ TRIUMPH ปี 2554 ที่ผ่านมา TRIUMPH ทำยอดขายรวม 115 คัน รายได้ประมาณ 80 ล้านบาท ปี 2555 ตั้งเป้ายอดขาย 125-135 คัน
ปัจจุบัน บริทไบค์ จำหน่าย TRIUMPH 6 ตระกูล ประกอบด้วย Roadster, Adventure, Supersport, Classic, Cruiser และ Touring โดยปีที่ผ่านมา 3 ตระกูลแรกเติบโตสูงมาก โดยมีศูนย์บริการอยู่ที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต
ปีที่แล้ว บริษัทเปิดตัว SPEED TRIPLE 1050 โดยโมเดลนี้ให้ประสบการณ์การขับขี่ระดับ Super Naked Class พร้อมรูปโฉมใหม่ที่โฉบเฉี่ยวและดุดัน แรงบิดที่เพิ่มขึ้น 8% ส่งผลให้แรงม้าเพิ่มเป็น 133 แรงม้า พร้อมระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ขายหมดอย่างรวดเร็ว
ส่วน TIGER 800/TIGER 800XC ซึ่งอยู่ในตระกูล Adventure ที่มีสมรรถนะสำคัญคือ เครื่องยนต์ 3 สูบ 799 ซีซี. ให้กำลัง 94 แรงม้า พร้อมแรงบิดที่ 79 นิวตันเมตร ระบบเบรก ABS เปิด-ปิดได้
Tiger 800 มากับล้ออัลลอยหน้าขนาด 19 นิ้ว ในส่วน Tiger 800XC มาพร้อมกับล้อซี่ลวดขนาด 21 นิ้ว ทำให้การขับขี่ Tiger ทั้ง 2 รุ่นง่ายดายในทุกสภาพถนน มีกุญแจแบบ Key-coded Immobiliser และเจเนอเรเตอร์ขนาด 550 วัตต์ รองรับอุปกรณ์ตกแต่งไฟฟ้า ตอบสนองทุกความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งลูกค้าตลาดต่างจังหวัดขยายตัวมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ผู้ใช้ต่างจังหวัดชอบใช้รถในสไตล์กึ่งวิบาก การขับขี่บนภูเขา อย่างที่เชียงใหม่เราขายได้ดี และเชื่อว่าจะทำให้มีคู่ค้าเพิ่มมากขึ้นในภาคต่างๆ ของประเทศ”
“ที่ผ่านมา เราเข้าหาผู้บริโภคผ่านการทำ Road Trip ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในการใช้งาน Road Show เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เห็นว่าแบรนด์ TRIUMPH มาพร้อมกับอะไรบ้าง”
กรรมการบริหาร บริทไบค์ ผู้จัดจำหน่าย TRIUMPH สรุปถึงโอกาสการเติบโตของบริษัท
“เอกลักษณ์ของ Triumph มี 3 อย่าง คือ หนึ่ง-เครื่องยนต์ที่แข็งแรง ทนทาน มั่นใจได้ สอง-วิศวกรรมในการออกแบบเฟรมและแชสซีส์ ทำให้ควบคุมการขับขี่ได้ง่าย และสาม-ผลิตภัณฑ์มีครบทุกแบบทุกสไตล์”
“โมเดลที่ทำให้เราประสบความสำเร็จคือ รถขนาดกลาง อย่าง HARLEY-DAVIDSON DUCATI BMW เขาขายตัวใหญ่ๆ เพิ่งปีที่แล้วที่ดูคาติส่งขนาดกลางลงมา ราคาประมาณ 4 แสนบาท แต่นั่นก็เป็นเซกเมนต์ของเขา ขณะที่ของเรามี Classic ขนาด 900 ซีซี. ที่เราขายได้ดี”
“สำหรับ 800 ซีซี. บีเอ็มดับเบิลยู เป็นเจ้าของตลาดรถวิบาก Touring ขนาดใหญ่อยู่ แต่ Tiger ของเรา เมื่อลูกค้าได้ทดลอง มีประสบการณ์ที่ดี ก็มียอดจองเข้ามา”
“แต่ที่สำคัญคือ ศูนย์บริการ ผมในฐานะเป็นผู้บริโภคมาก่อน เรามองว่าเป็นเรื่องการพัฒนาบุคลากร คือถ้าเรามีอะไหล่ อุปกรณ์ตกแต่งพร้อม ช่างได้ทำงาน ช่างก็จะเกิดความชำนาญ Turnover ในการบริการก็จะเร็ว เราก็จะมีรถวิ่งอยู่บนถนนมากขึ้น มีผลต่อแบรนด์โดยตรง”
สมชนก ธรรมประภาส ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท พาวเวอร์ สเตชั่น มอเตอร์สปอร์ต จำกัด ผู้แทนจำหน่าย HARLEY-DAVIDSON ในประเทศไทย
HARLEY-DAVIDSON: ผู้หญิงสนใจมากขึ้น
ด้าน สมชนก ธรรมประภาส ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท พาวเวอร์ สเตชั่น มอเตอร์สปอร์ต จำกัด ผู้แทนจำหน่าย HARLEY-DAVIDSON อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า ยอดขายปี 2554 ทำได้ 225 คัน มูลค่ารวมประมาณ 225 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ราคาขายอยู่ระหว่าง 5.9 แสนบาท-2.4 ล้านบาท
แยกตามรุ่น ยอดขายสูงสุดคือ SPORTSTER FORTY-EIGHT ตามด้วย SOFTAIL FAT-BOY และ TOURING STREET GLIDE ซึ่งแต่ละตระกูลกลุ่มเป้าหมายหลักแตกต่างกัน
“SPORTSTER ลูกค้าหลักจะเป็นกลุ่มผู้หญิง เป็น First Time Biker เป็นรถคันแรกที่อยากลองขี่ กลุ่มนี้ก็อาจขยับขึ้นไปเป็น FAT-BOY หรือ Touring ขึ้นอยู่กับว่าเขาเห็นอะไร ชอบอะไร บางคนก็ชอบ FAT-BOY เพราะเคยเห็นอาร์โนลด์ (ชวาร์เซเนกเกอร์-ดาราแสดงนำเรื่อง คนเหล็ก-Terminator) บ่อยๆ Touring ก็จะเหมาะกับลูกค้าขี่ทางไกล เขาชอบ”
พริตตี้สาวกับ HARLEY-DAVIDSON สมชนก ให้ความเห็นว่า ความแข็งแกร่งของ HARLEY-DAVIDSON คือ มีทั้งสินค้าและบริการครบวงจร โดยเฉพาะรถมีทุกแบบ ทุกสี ได้เห็นของจริง ไม่ใช่เห็นแต่รูป ช่วยในการตัดสินใจของลูกค้า ด้านการเงิน มีไฟแนนซ์ให้ อัตราดอกเบี้ย 0% 2 ปี หรือบางรุ่น 5.25% ระยะเวลาสูงสุด 60 เดือน
สำหรับการแข่งขัน แต่ละแบรนด์จะมีบุคลิกหลักชัดเจนอยู่แล้ว ยกตัวอย่าง HARLEY-DAVIDSON อยู่ในกลุ่ม Cruiser คู่แข่งอย่าง BMW เน้น Touring ส่วน TRIUMPH เด่นเรื่อง Classic และ DUCATI เน้น Sport แต่ทุกแบรนด์ก็จะมีสินค้าครบ ขณะที่ปีที่ผ่านมา HARLEY-DAVIDSON ทำตลาดได้ดี มีลูกค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงให้ความสนใจจำนวนมาก
ปี 2555 คาดว่าจะขายได้มากกว่า 300 คัน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากกลยุทธ์ราคาที่ทำต่อเนื่องมาจากปีที่แล้ว ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจจับจองเป็นเจ้าของง่ายขึ้น จุดเด่นสำคัญอีกเรื่องคือ มีสินค้าพร้อมส่งมอบทันที ปัจจุบัน HARLEY-DAVIDSON มีลูกค้าทั่วประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี สุราษฎร์ธานี ฯลฯ
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|