จากแร่ดีบุกสู่ธุรกิจท่องเที่ยว

โดย นภาพร ไชยขันแก้ว
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( ตุลาคม 2554)



กลับสู่หน้าหลัก

“ถ้าหากไม่นับกรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย ภูเก็ตสามารถเป็นเมืองหลวงได้เช่นกัน” วลีดังกล่าวของผู้บริหารรายหนึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเจริญด้านเศรษฐกิจของไข่มุกอันดามันแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี

ความทรงจำเกี่ยวกับสึนามิเมื่อปลาย ปี 2547 ณ หาดป่าตอง ภูเก็ต รางเลือนไปทุกที หลังจากเห็นนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางเข้าออกสนามบินนานาชาติภูเก็ต แม้ว่าในเดือนกันยายนเป็นฤดูฝนที่เป็นช่วง โลว์ซีซันก็ตาม

นักท่องเที่ยวเกือบ 6 ล้านคนที่เลือก ภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางในเวลานี้ และในอีก 3 ปีข้างหน้า (ปี 2557) จะเพิ่มมาก ขึ้นเป็น 12 ล้านคน ทำให้เมืองแห่งนี้มีแผน จะขยายสนามบินเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยแบ่งพื้นที่ออก 2 ส่วน เพื่อรอง รับผู้โดยสารในประเทศและต่างประเทศ

ภูเก็ตมีแผนสร้างรถรางวิ่งรอบเกาะ ตามแผนที่ภูมิศาสตร์ สนามบินสร้างอยู่ตอนบนของเกาะ ขณะที่เมืองอยู่ทางใต้ตอน ล่าง ดังนั้นรถรางจึงอำนวยความสะดวกให้ กับเหล่านักเดินทาง เพื่อลดข้อจำกัดที่มีถนนสายหลักเพียงเส้นเดียวที่วิ่งจากเหนือลงใต้ คือถนนเทพกระษัตรี มีระยะทาง 45 กิโลเมตร แผนสร้างรถรางยังเป็นกรอบ ความคิดเท่านั้น เพราะแผนดังกล่าวเป็นนโยบายของอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ตอนนั้นอยู่ในขั้นตอนกระบวนการศึกษา โดยมีประเทศจีนและเกาหลีอาสาเข้ามาร่วมศึกษาในเรื่องดังกล่าว

การปรับผังเมืองใหม่ที่เริ่มใช้ในปีนี้ เพื่อให้มีการบริหารจัดการพื้นที่สีเขียวให้มากขึ้น รวมถึงการจราจรและการจัดการ ด้านน้ำและขยะ กลายเป็นเรื่องท้าทายของกลุ่มนักธุรกิจเก่าและใหม่

ความเจริญของภูเก็ตก็เร่งขยายตัว อย่างไม่หยุดยั้งจากทั้งนักลงทุนต่างประเทศในประเทศ ทำให้ธุรกิจโรงแรมและอสังหา ริมทรัพย์เห็นโอกาสมากมาย รวมถึงนักธุรกิจท้องถิ่น

“กลุ่มคุณคณิต ยงสกุล” เป็นหนึ่งในนักธุรกิจท้องถิ่นในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงรู้จักกันดี ในฐานะคหบดีที่มีธุรกิจหลากหลายและเติบโตไปตามยุคสมัยปัจจุบัน

กรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และผู้บริหารธนาคารไทยพาณิชย์ นำสื่อมวลชนไปพบลูกค้ารายใหญ่ ให้เห็นกับตามากกว่ารับฟังเพียงอย่างเดียว

กลุ่มธุรกิจของคณิตสะท้อนให้เห็นบทบาทของนักธุรกิจในจังหวัดภูเก็ต ที่เริ่ม ทำธุรกิจจากสัมปทานเหมืองแร่ดีบุก แต่หลังจากทรัพยากรธรรมชาติหมดไป จึงทำให้กิจการเหมืองแร่ต้องปิดตัวลง

ผู้ประกอบการธุรกิจเหมืองแร่ดีบุก ต้องปรับตัวครั้งใหญ่ หนึ่งในนั้นคือคณิต ยงสกุล ซึ่งหันมาบริการที่จอดเรือหรูให้กับมหาเศรษฐีทั้งในและต่างประเทศ เริ่มต้นจากก่อตั้งบริษัท ภูเก็ตโบ๊ทลากูน จำกัด เมื่อปี 2537 มองว่าภูเก็ตเป็นจังหวัดที่ติดทะเลฝั่งอันดามันมีทัศนียภาพสวยงาม เป็นเสน่ห์ทำให้ผู้คนหลงใหล ประจวบกับโดยส่วนตัว คณิตชอบแล่นเรือ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ลงตัว

ปัจจุบันคณิต ยงสกุลในวัย 64 ปี ในฐานะประธานกรรมการยังดูแข็งแรงและ บริหารงานอยู่ แม้ว่าจะมีผู้ช่วยมืออาชีพ อย่างบุญเจริญ ตราชู กรรมการผู้จัดการ เพื่อนรู้ใจร่วมทำงานมากว่า 20 ปี ยังมีทายาทอีก 4 คนร่วมกันบริหารในฐานะรอง กรรมการผู้จัดการ

บนพื้นที่ 300 ไร่ ณ ตำบลเกาะแก้ว ถนนเทพกระษัตรี มีเรือหรูหลายร้อยลำที่จอดนิ่งทั้งบนบกและในน้ำ บางลำมีคนงาน กำลังซ่อมแซมอย่างขะมักเขม้น

บุญ ยงสกุล วัย 34 ปี รองกรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ภูเก็ตโบ๊ทลากูน จำกัด ทายาทคนแรกของคณิต ไกด์กิตติมศักดิ์ เล่าให้ฟังว่า เรือที่เข้ามาจอดมีราคาตั้งแต่ 10 กว่าล้านไปถึง 100 กว่าล้าน มีทั้งเรือยอชต์ เรือใบ และเรือสปีดโบ๊ต

ในอาณาบริเวณพื้นที่เยี่ยมชมไม่ได้มี เฉพาะท่าจอดเรือเท่านั้น มีโรงแรม บ้านพัก คอนโดมิเนียม ร้านอาหาร ธนาคาร อาคารเช่า แม้แต่คลินิกทำฟันครบครัน

บ้านพักหลังมหึมาพร้อมพื้นที่ใช้ สอยที่ผุดขึ้นมาสามารถคาดเดาได้ว่าราคาแต่ละหลังพอๆ กับเรือที่มาจอดเลยทีเดียว

การเนรมิตพื้นที่ชุมชนรองรับมหาเศรษฐี คงไม่มีใครนึกภาพออกว่า พื้นที่แห่ง นี้ในอดีตเคยเป็นเหมืองแร่ดีบุกของตระกูลยงสกุลมาก่อน ใช้เวลาปรับสภาพหน้าดินกว่าปีครึ่งเพื่อทำเป็นที่จอดเรือ

ภาพธุรกิจของบริษัท ภูเก็ตโบ๊ท ลากูน จำกัด เป็นการบริหารงานครบวงจร โดยมีบริษัทหลัก 3 แห่ง เป็นผู้ดำเนินงาน คือบริษัท โบ๊ทลากูนมารีน่า จำกัด ให้เช่าพื้นที่จอดเรือ มีพื้นที่จอดเรือบนบก 250 ลำ จอดในน้ำ 170 ลำ

บริษัท โบ๊ทลากูน รีสอร์ท จำกัด บริหารงานโรงแรมจำนวน 300 ห้อง ในภูเก็ต และโรงแรมในจังหวัดพังงา ส่วนบริษัท โบ๊ทลากูนมารีน่าเรสซิเด้นซ์ จำกัด บริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และคอนโด มิเนียม

แนวทางธุรกิจครบวงจรที่เริ่มต้น จากเป็นที่จอดเรือและขยายไปสู่ธุรกิจอื่นๆ เริ่มเกิดขึ้นและเห็นภาพชัดมากขึ้นในรุ่นลูก ที่เข้ามาช่ายบริหารงานร่วม 10 ปี

ความหมายของธุรกิจครบวงจรของ บริษัท ภูเก็ตโบ๊ทลากูน ไม่ได้มองว่าต้องการทำอะไรเป็นสิ่งแรก แต่มองความต้อง การของลูกค้าเป็นหลัก ดูวงจรการทำงานและการใช้ชีวิตของเหล่าเศรษฐีต่างประเทศเป็นหลัก เพราะลูกค้าร้อยละ 95 เป็นลูกค้า ต่างชาติ มาจากยุโรป และออสเตรเลีย แม้แต่ในอนาคตอันใกล้เริ่มมีเศรษฐีจากประเทศจีน และในกลุ่มเอเชียเริ่มเข้ามาใช้บริการบ้างแล้ว

วิถีชีวิตของลูกค้าต้องการความสะดวกสบายมากที่สุด เพราะเขาเหล่านี้มีศักยภาพใช้จ่ายสูง เมื่อมีที่จอดเรือก็ต้องการที่อยู่อาศัยระดับหรูและสถานที่ซ่อมแซมเรือ ไม่เพียงเท่านั้นในขณะที่พักผ่อนต้องสามารถทำงานได้ด้วย

ดังนั้นอาคารสำนักงานให้เช่าจึงเกิดขึ้นเพื่อรองรับผู้เช่าต่างชาติเพื่อทำหน้าที่บริหารการเงินให้กับผู้มั่งคั่งได้ตลอดเวลา

“เรามีบริษัทที่ทำหน้าที่บริหารจัดการ ด้าน Wealth Management ของลูกค้าที่มาเช่าเรือ และมีบริษัทต่างชาติที่มีความรู้ความชำนาญในการซ่อมเรือมาอยู่ที่นี่ และเรือที่จอดมีหลายยี่ห้อ เช่น ฮอนด้า โตโยต้า และโรลสลอยซ์ ยังมีปั๊มน้ำมันบริการเติมน้ำมันให้กับเรือ 500-1,000 ลิตรต่อลำ” บุญอธิบายให้ฟังในขณะที่พาสื่อมวลชนนั่งรถชมอาณาจักรของบริษัท

แม้ว่าคณิตและทีมผู้บริหารบริษัท ภูเก็ตโบ๊ทลากูน จำกัด จะไม่เปิดเผยรายได้ ทั้งหมดของกลุ่มธุรกิจทั้งหมด แต่รายได้ส่วนหนึ่งที่เก็บจากค่าเช่าจอดเรือที่เก็บเป็นฟุต เก็บค่าบริการ 23 บาทต่อฟุตต่อวัน หรือให้ค่าบริการเช่าเรือ 2 แสนบาทต่อวัน สะท้อนให้เห็นรายได้ส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจ แต่บริษัทเปิดเผยมูลค่าการลงทุนของกลุ่มมีมูลค่าเกิน 1 พันล้านบาท เทียบเท่ากับวงเงินสินเชื่อที่ธนาคารพาณิชย์พร้อมที่จะให้กู้ แต่บริษัทเลือกที่จะใช้เงินลงทุนของบริษัทเป็นหลัก เพื่อลดภาระดอกเบี้ย

ธุรกิจของกลุ่มคณิตไม่ได้มีเพียงบริษัท ภูเก็ตโบ๊ทลากูน จำกัด ไม่ได้จำกัด ในการบริหารที่จอดเรือ โรงแรม และอสังหา ริมทรัพย์เท่านั้น แต่ยังมีบริษัทในเครืออีกหลายแห่งที่เข้ามาเสริมธุรกิจ เช่น บริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด ทำหน้าที่พัฒนาอสังหา ริมทรัพย์ โดยเฉพาะนำที่ดินของตระกูลมา บริหาร ส่วนบริษัท โบ๊ทลากูนโยธา จำกัด ทำหน้าที่รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งรับก่อสร้างให้กับธุรกิจในเครือเป็นหลักและยังมีธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ภายใต้บริษัท ภูเก็ต เซ็นเตอร์ อพาร์ทเม้นท์ รวมทั้งมีธุรกิจโรงแรมบ่อแสนวิลล่า ธุรกิจรีสอร์ตแอนด์สปาในจังหวัดพังงา ซึ่งยังไม่รวมถึงที่ดินอีกจำนวนมหาศาลที่ไม่ได้เปิดเผย

ธุรกิจของกลุ่มคณิต ยงสกุล ไม่ค่อย ได้รับการเปิดเผยมากนัก เพราะแนวทางการบริหารงานเป็นไปในรูปแบบ conserva-tive แม้ว่าธุรกิจจะบริหารงานโดยครอบครัวเป็นหลัก แต่การมีผู้บริหารมืออาชีพอย่างเช่น บุญเจริญ ตราชู กรรมการผู้จัดการ ช่วยแบ่งเบาภาระให้กับคณิตไม่น้อย โดยเขาออกตัวว่า

“คุณบุญเจริญดูทั้งหมด ผมไม่ค่อย รู้เรื่องอะไร เป็นเรื่องที่ดี ถ้ารู้ไปหมด ผมจะไม่รู้จักปล่อยวาง”

แม้ว่าคณิตจะไม่บริหารรายวัน แต่เขายังร่วมกำหนดทิศทางและวิสัยทัศน์ของธุรกิจ และรับเป็นที่ปรึกษาให้กับธุรกิจในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์

การไม่เข้าบริหารงานเป็นรายวัน อาจเป็นเพราะเขาเปิดโอกาสให้ทายาทจำนวน 4 คนเข้ามาบริหารงานอย่างเต็มที่ โดยมีบุญ ยงสกุล วัย 34 ปี คนโต ศรีญา ยงสกุล วัย 32 ปี วริศ ยงสกุล วัย 30 ปี และกรกนก ยงสกุล วัย 28 ปี

บุญ ในฐานะลูกชายคนโตดูแลบริหารธุรกิจเกือบทั้งหมด ส่วนศรีญา คนที่ สองร่วมบริหารกับบุญเช่นเดียวกัน และเธอ ได้รับมอบหมายให้ดูกิจการที่จังหวัดกระบี่อีกหนึ่งแห่ง ภายใต้บริษัท กระบี่โบ๊ทลากูน จำกัด ส่วนวริศดูแลบริษัทในเครือ บริษัท โบ๊ทลากูน ยอร์ทติ้ง จำกัด และบริษัท โบ๊ทลากูน ครูซ จำกัด ให้บริการซื้อขายเรือใน ฐานะตัวแทนจำหน่าย เช่น เรือยอชต์ยี่ห้อ princess จากประเทศอังกฤษ ส่วนกรกนก ลูกสาวคนสุดท้องดูแลเรื่องการสื่อสารและประชาสัมพันธ์บริษัทในเครือทั้งหมด

คณิตไม่ได้เปิดทางให้ทายาททั้ง 4 คนมาบริหารงานเท่านั้น เขายังให้โอกาส คนอื่นที่มีฝีมือและประสบการณ์เข้ามาทำงาน เพราะเขาเชื่อว่าการให้โอกาสคนที่มีความสามารถแม้จะไม่มีดีกรีสูง เพราะ คนเลือกเกิดไม่ได้ แต่การให้โอกาสจะส่งผลให้ธุรกิจเจริญเติบโต ปรัชญาในการ ทำงานของเขาคือ การรู้จักให้อภัย เพราะทุกคนสามารถผิดพลาดได้ และเมื่อเจออุปสรรคจงให้เวลาตัวเอง

บุญเจริญรู้จักคณิตมากว่า 20 ปี เขาบอกคณิตเป็นคนที่มีวินัยในทุกๆ ด้าน และสอนให้เราคิดอยู่เสมอ และยังแนะนำให้เล่นหมากรุก เพราะหมากรุกทำให้เรารู้จักคิดเป็น และปรับตัวได้ดี

หากย้อนไปในอดีตพบว่าคณิตจบปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์เหมืองแร่ มหาวิทยาลัยอิมพีเรียล คอลเลจ ประเทศอังกฤษ จากประสบการณ์ทำงานรับราชการ ในกรมทรัพยากรธรณี แสดงให้เห็นถึงความ ตั้งใจเพื่อมาสานต่อธุรกิจครอบครัว

เมื่ออุตสาหกรรมเหมืองแร่ดีบุกเริ่มอยู่ในขาลง จึงเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญของคณิต เพื่อเข้าสู่ธุรกิจท่องเที่ยว ทำให้ลูกๆ ของคณิตต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ เช่น บุญ เรียนปริญญาโท การบริหารจัดการเอ็มบีเอ ที่ศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังจบปริญญาตรีวิศวกรโยธา มหาวิทยาลัย Canpardury เมืองไครสเชิร์ซ ประเทศนิวซีแลนด์ ส่วนศรีญา เรียนปริญญาตรี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท มหาวิทยาลัย Exeter สาขา MSC International Management ประเทศอังกฤษ

การปรับตัวของครอบครัวคณิต ยงสกุล ไม่หนีไปจากฐานรากเดิม แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ที่ยังพึ่งพิงความเป็นภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงที่เจริญเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.