แบรนด์ใหม่ของพฤกษา


นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( ตุลาคม 2554)



กลับสู่หน้าหลัก

ความท้าทายของพฤกษา เรียลเอสเตท ในอีก 6 ปีข้างหน้าเพื่อสร้างรายได้ให้ได้ 1 แสนล้านบาท จากปัจจุบันมี 2 หมื่นล้านบาท ทำให้องค์กรแห่งนี้เร่งปรับตัวอย่างมาก โดยเฉพาะเปิดแบรนด์ใหม่ๆ เพื่อขยายตลาด

บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด อ้างว่าเป็นเจ้าตลาดทาวน์เฮาส์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่คงไม่สามารถ ทำให้พฤกษาไปสู่เป้าหมายได้ ธุรกิจคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวเป็นอีกส่วนหนึ่งที่พฤกษาพยายามสร้างโอกาสให้ตัวเอง

ปิยะ ประยงค์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท บอกว่าบริษัทมีนโยบายเข้าไปเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ โดยเลือกทำเลที่ไม่เคยเข้าไปลงทุนมาก่อน

บริษัทเริ่มศึกษาโครงการต่างจังหวัดตั้งแต่ปี 2553 เพื่อมองหาพื้นที่ที่มีศักยภาพและคุ้มต่อการลงทุน พบว่าหัวเมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยวยังมีโอกาสให้พฤกษาเข้าไปเปิดตลาดและตัดสินใจสร้างที่อยู่อาศัยแนวราบ

บ้านเดี่ยวเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่บริษัทใช้เพื่อเปิดตลาดใหม่ ล่าสุดได้แบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อบ้านพฤกษานารา โดยก่อนหน้านี้มีแบรนด์บ้านเดี่ยว 5 แบรนด์ คือ ภัสสร, พฤกษาวิลเลจ, เดอะ แพลนท์, เนเชอร่า และพฤกษาปูริ

แบรนด์พฤกษานาราสร้างขึ้นเพื่อเจาะตลาดต่างจังหวัด พร้อมเลือก 3 จังหวัดนำร่อง คือ พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี และขอนแก่น

จากการศึกษาพบว่ามูลค่าตลาดที่อยู่อาศัยใน 3 จังหวัดแตกต่างกันไป เช่น ชลบุรี 6,000 ล้านบาท พระนครศรีอยุธยา 3,000 ล้านบาท และขอนแก่น 1,500 ล้านบาท ส่วนบริษัทจะใช้งบประมาณใน 3 จังหวัด จำนวน 2,600 ล้านบาท

“นารา” หมายถึงที่อยู่อาศัย และบ้านของพฤกษานาราเป็นบ้านที่สร้างภายใต้แนวคิด “ให้รางวัลชีวิต” ได้ทุกวันที่นี่ มีสไตล์ Modern Tropical ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาด 35-50 ตารางวา ราคาตั้งแต่ 2.39-4 ล้านบาท

ราคาบ้านเดี่ยวของพฤกษานารา หากเปรียบเทียบกับราคา บ้านในต่างจังหวัดนับว่ามีราคาสูงกว่า จึงทำให้บริษัทพยายามที่เน้นกลุ่มเป้าหมายมีรายได้ตั้งแต่ 35,000 บาทต่อเดือน มีอายุระหว่าง 30-45 ปี เหมาะกับครอบครัวเริ่มต้น หรือครอบครัวที่มีพ่อ แม่ ลูก แต่บริษัทจะสร้างจุดเด่นให้เห็นถึงความปลอดภัยมีพนักงานรักษาความปลอดภัย และมีพื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน

บริษัทได้เลือกจังหวัดอยุธยาเป็นจังหวัดแรกเพื่อเปิดขายโครงการดังกล่าว ซึ่งหมู่บ้านพฤกษานาราได้สร้างอยู่ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมโรจนะเพียง 1-2 กิโลเมตรเท่านั้น และในรัศมีดังกล่าวที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่จะเป็นหอพัก ในขณะที่บ้านจัดสรรยังมีไม่มากนัก

จึงทำให้บริษัทคาดหวังว่า ลูกค้าที่จะมาซื้อบ้านคือกลุ่มผู้บริหารและพนักงานที่ทำงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าว และมีการจองประมาณร้อยละ 30

บริษัทได้เปิดขายบ้านในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมกับเปิดขายในบ้านพฤกษานาราชลบุรี (หนองมน-ชลบุรี) และในปลายปีนี้เปิดตัวที่จังหวัดขอนแก่น อยู่บนถนนศรีจันทร์-ขอนแก่น ซึ่งเป็นถนนหลักของจังหวัด

ส่วนกระบวนการสร้างบ้านของบริษัทยังใช้วัสดุสำเร็จรูปโดยเฉพาะผนัง ส่วนจุดเด่นของบ้านไม่มีเสา ไม่มีคาน แต่จะใช้ผนังบ้านรับน้ำหนัก

ถึงแม้บริษัทจะเอ่ยว่าตลาดบ้านเดี่ยวในต่างจังหวัดยังมีศักยภาพก็ตาม แต่ตลาดก็ไม่หวือหวา นั่นแสดงให้เห็นว่าบ้านอาจจะไม่สามารถใช้เวลาในการปิดโครงการอย่างรวดเร็ว และไม่แน่ใจว่าผลตอบแทนรายได้ในตลาดต่างจังหวัดจะเป็นแรงผลักดันให้บริษัทมีรายได้ทะยานไปถึง 1 แสนล้านบาทในช่วงระยะเวลา 6 ปีได้หรือไม่


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.