|
ช้างชนสิงห์บนเกมMusic Marketing ลิงกิ้นปาร์ค ปะทะ เดวิด ฟอสเตอร์
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(19 กันยายน 2554)
กลับสู่หน้าหลัก
มิวสิค มาเก็ตติ้ง ยังคงเป็นกลยุทธ์ฟีเวอร์ที่บรรดาแบรนด์สินค้า โดยเฉพาะประเภทเครื่องดื่มตั้งแต่น้ำอัดลมถึงแอลกอฮอล์และนอน แอลกอฮอล์ ที่น่าสนใจ คือ คู่แข่งตลอดจากค่าย “ไทยเบฟ VS สิงห์”ที่บนเกมการตลาดที่ต้องชิงมวลชน ลูกค้า ผ่านกลยุทธ์มิวสิคมาเกตติ้ง โดยเฉพาะการเป็นสปอนเซอร์ชิฟคอนเสิร์ตต่างประเทศให้กับวง หรือศิลปินชื่อดังก้องโลก ซึ่งจัดเป็นไม้เด็ดที่ทำขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์การแบรนด์ดิ้งและขายสินค้าไปพร้อมกัน สำหรับปีนี้ “ลิงกิ้น ปาร์ค VS เดวิด ฟอสเตอร์” คือ แม่เหล็กที่นำมาใช้สื่อสารแบรนด์ไปยังลูกค้าที่ค่ายไทยเบฟ และค่ายสิงห์ เลือกนำมาใช้ในช่วงปลายปี
ช้างผนึกพรีนาด้า
คว้าลิงกิ้นปาร์ค
ศุกร์ที่ 23 กันยายน 2554 ณ ลานแอคทีฟแสควร์ เมืองทองธานี คือ กำหนดการที่ค่าย ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เจ้าของแบรนด์โซดาช้างและค่ายโปรโมเตอร์คอนเสิร์ตนอกชื่อดังอย่าง “พรีนาด้า”จัดขึ้น เพื่อเปิดการแสดงคอนเสิร์ตวงร็อคชื่อดังระดับโลกอย่าง Linkin Park ซึ่งมีแฟนเพลงเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของ “โซดาช้าง”
“ มันเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ “โซดาช้าง” ที่สร้างความแตกต่าง และเป็นแบรนด์ที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ และคนที่กล้าที่จะแตกต่างอย่างแท้จริง เหมือน Character ของวง Linkin Park ที่เป็นวงร็อคที่โด่งดังและถูกขนานนามว่าเป็นวงร็อคที่เล่นคอนเสิร์ตได้มันส์ที่สุดวงหนึ่งของโลก ซึ่ง “โซดาช้าง” จะนำความซ่าส์แบบแหวกแนวมาให้ลูกค้าโซดาช้าง รวมถึงแฟนเพลง Linkin Park ทุกคน ตามแนวคิดของผลิตภัณฑ์ที่ว่า “เปิดรับความซ่า เปิดโซดาช้าง” ผู้จัดการฝ่ายการตลาดค่าย ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด สรกฤต ลัทธิธรรม (Marketing Manager บอกถึงเป้าหมายการทำMusic Marketing ครั้งนี้
ไม่เพียงการแสดงคอนเสิร์ต ค่ายไทยเบฟฯ ได้เริ่มด้วยบูทกิจกรรมของโซดาช้าง ด้วยการนำ 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ โซดาช้างรส Bitter Lime-Lemon, Apple Mint และ Blue Magic มาให้ผู้ชมคอนเสิร์ตได้ลองลิ้มชิมรสความซ่าในรสชาติที่แตกต่างกันอย่างไม่อั้น เพื่อให้ทุกคนได้ค้นพบตัวตนว่าเหมาะกับรสชาติไหน และช่วยเพิ่มอรรถรสการชมคอนเสิร์ตให้มีความสุขสนุกซ่ามากขึ้น
ทางด้าน กรรมการผู้จัดการบริษัท พีนาด้า เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ นิติ ณ สงขลา ในฐานะโปรโมเตอร์ได้กล่าวเสริมอีกว่า คอนเสิร์ตครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 3 ของวงลิงกิ้น ปาร์ค ซึ่งก่อนหน้า 2 ครั้ง ค่ายบีอีซี เทโซ ได้จัดเป็นโปรโมเตอร์วงดังกล่าวเมื่อปี 2547 และปี 2550 โดยมีสปอนเซอร์รายใหญ่ คือ ค่ายสิงห์ โดยทั้งสองครั้งมีผู้ชมการแสดงประมาณ 3 หมื่นคน อย่างไรก็ตาม ครั้งล่าสุดที่บริษัทพรีนาด้าเป็นโปรโมเตอร์ให้กับวงลิงกิ้นปาร์ค ได้เป็นพันธมิตรกับสปอนเซอร์รายใหญ่ นั่นคือ ค่ายไทยเบฟฯหรือค่ายช้าง
“ค่ายไทยเบฟฯเป็นสปอนเซอร์หลักคอนเสิร์ตลิงกิ้น ปาร์คครั้งนี้ เพราะต้องการสื่อสารแบรนด์โซดาสิงห์ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายอีกทั้งคอนเสิร์ตลิงกิ้นปาร์คตอบโจทย์ตัวเองในแง่ผู้ชมวัยทีน ตั้งแต่ 17 ปีถึง30ปี กลุ่มบีบวก ทั้งชายและหญิงในสินค้ากลุ่มฟังก์ชั่นนอล ดริ๊ง”
เขากล่าวว่า คอนเสิร์ตครั้งนี้ว่าทางต้นสังกัดได้ขนเอาโปรดักชั่นชุดใหญ่มาเอง รวมถึง ระบบเสียง และระบบแสงที่ดีที่สุด ทั้งนี้เพื่อรักษามาตรฐานระดับสากลในการแสดงของพวกเขาที่จะไม่มีความแตกต่าง ไม่ว่าจะแสดงที่อเมริกา, ยุโรป หรือกรุงเทพ พร้อมด้วยเพลงฮิตสุดมันที่ทุกคนจดจำ และรอคอย อย่าง Somewhere I Belong , In the END , Crawling ,What’s I’ve Done , NUMB, Don’t Stay
ล่าสุด IRIDESCENT เพลงประกอบภาพยนตร์ Transformers 3 ที่โด่งดัง ตลอดจนด้านความพร้อมความปลอดภัยของสถานที่ ยังได้จัดเตรียมเป็นอย่างดี ให้สมกับที่ได้รับสิทธิในการจัดคอนเสิร์ต ซึ่งมีเพียงไม่ไม่กี่ประเทศที่ได้รับเกียรตินี้ พร้อมกันนี้ทางวง Linkin Park เองจะหักรายได้ทุก 1 ดอลล่าส์( 30 บาท ) ต่อทุก 1 บัตรในทุกราคา เพื่อนำมอบให้กับมูลนิธิ Music For Relief ในการทำสาธารณประโยชน์ต่อไป
สิงห์แก้เกมการตลาด
ดึงเดวิด ฟอสเตอร์ดูดคนดู
ทางด้านค่ายสิงห์ กับการตลาดโดยใช้มิวสิค มาเก็ตติง มาเป็นเครื่องมือแบรนด์ดิ้งสินค้าหรือส่งเสริมการตลาดในครึ่งปีหลังนี้ ได้ร่วมกับจับมือกับ สก๊อต ฟอร์เอฟเวอร์ และค่าย บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จัดคอนเสิร์ต “สิงห์ คอร์เปอเรชั่น แอนด์ สก๊อต ฟอร์เอฟเวอร์ ยัง พรีเซ้นท์ ฮิต แมน รีเทิร์นส เดวิด ฟอสเตอร์ แอนด์ เฟรนด์ส ไลฟ์ อิน แบ็งคอค 2011” (Singha Corporation and Scotch Forever Young present Hit Man Returns David Foster and Friends Live in Bangkok 2011)ในวันจันทร์ที่ 31 ตุลาคมนี้ ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
พร้อมการกลับมาพร้อมกับศิลปินคุณภาพระดับโลกอย่าง ไมเคิล โบลตัน (Michael Bolton), ฟิลิป เบเลี่ (Philip Bailey), รัสเซล วัทสัน (Russell Watson) และสาวน้อยพลังเสียงมหัศจรรย์ ชารีซ (Charice)แบบจัดเต็ม อันเป็นการแก้เกมการตลาด หลังจากพ่ายดีลลิงกิ้น ปาร์ค ซึ่งค่ายไทยเบฟสามารถคว้าได้ก่อน สำหรับ บัตรจำหน่ายในราคา 1,000 / 2,000 / 3,000 / 4,000 และ โกลด์แพ็คเกจ 5,000 บาท ส่วนบัตรจำหน่ายคอนเสิร์ต ลิงกิ้น ปาร์คจำหน่ายใน บัตรราคา 1,000 , 1,500 , 2,000 , 2,500 และ 3000 บาท
“ทั้งเดวิด ฟอร์สเตอร์และลิงกิ้น ปาร์ค เป็นคนดังและวงดัง ดังนั้นสินค้าที่ต้องการแบรนด์ดิ้ง เมื่อนำมาใช้เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดด้านมิวสิค มาเก็ตติ้ง ช่วยให้การสื่อสารแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ตรงกลุ่มยิ่งขึ้น”แหล่งข่าวจากวงการโปรโมเตอร์คอนเสิร์ตนอกบอก
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|