แมลงเม่าสร้างเงินให้โบรกฯกฟผ.พร้อมเข้าตลท.ต้น47


ผู้จัดการรายวัน(20 ตุลาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

โบรกเกอร์หัวฝรั่งยังเน้นบริการลูกค้าสถาบันเป็นหลัก ส่วนโบรกเกอร์หัวเอเชียมองต่างมุม เน้นดึงลูกค้ารายย่อยเป็นฐานลูกค้าสำคัญ ด้วยข้อเท็จจริงแมลงเม่าไทยครอบงำการซื้อขายราย วัน สร้างรายได้คอมมิชชั่นให้บริษัทหลักทรัพย์เป็นหลัก รวมถึงแนวโน้มอนาคต ขณะที่ ก.ย. คุณเน็ตครอบงำตลาดหุ้นไทย มูลค่าซื้อขายสูงสุดในรอบ 9 เดือนแรกปีนี้ ถึงกว่า 31% ของมูลค่าทั้งหมด ขณะที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ขานรับมติ ครม.ยันความพร้อมแปลงสภาพ เป็นบริษัทมหาชนภายในปี 47 มั่นใจการกระจายหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยของ กฟผ. ต้นปีหน้า

คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 14 ต.ค. อนุมัติในหลักการให้ กฟผ. แปลงสภาพทั้งองค์กรเป็นบริษัทจำกัด รวมทั้งมอบหมายกระทรวงพลังงาน กำกับดูแลให้การเตรียมการก่อนกระจายหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ของ กฟผ. ราบรื่นตามกำหนด

นายสิทธิพร รัตโนภาส ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่ากฟผ.พร้อมจะสนองนโยบายรัฐบาล แปลงสภาพองค์กรเป็นบริษัท เพื่อเพิ่มความคล่องตัว ความโปร่งใสดำเนินการ รวมทั้งกระจายหุ้นเพื่อเปิดโอกาสประชาชนเป็นเจ้าของ กฟผ. ซึ่งเป็นองค์กรให้บริการสาธารณูปโภคที่สำคัญของประเทศ โดยเตรียมการเบื้องต้นไปแล้วบางส่วน และจะเร่งดำเนินการทันที เพื่อให้เป็นไปตามกำหนด โดยมั่นใจว่าการแปลงสภาพและนำบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะเป็นไปได้ราบรื่น ด้วยความร่วมมือและการสนับสนุนจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

ขั้นตอนต่อไปของการแปลงสภาพ กฟผ.คือแต่งตั้งคณะกรรมการเตรียมการตั้งบริษัทคณะกรรมการชุดดังกล่าว จะทำหน้าที่พิจารณารายละเอียดตั้งบริษัท กฟผ.ใหม่ ส่วนด้านแปลงสภาพองค์กรและจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน คาดว่าจะดำเนินการเสร็จ ช่วง ธ.ค.2546-ม.ค.2547 หลังจากนั้นจะกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้ช่วงเดือน มี.ค. 2547

"การนำกฟผ. เข้าตลาดหลักทรัพย์ปีหน้า จะช่วยกระตุ้นการเติบโตเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะตลาด ทุน และเสริมบรรยากาศการลงทุนได้อย่างดี การระดมทุนของ กฟผ. จะช่วยสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ" นายสิทธิพรกล่าว

ปัจจุบัน กฟผ.เตรียมการแปลงสภาพองค์กร โดยแต่งตั้งที่ปรึกษาการเงิน 6 บริษัท แบ่งเป็นที่ปรึกษาการเงินในประเทศ 3 บริษัท คือ บล.เมอร์ริล ลินช์ ภัทร บล.ไทยพาณิชย์ และบล.ทิสโก้ ที่ปรึกษาการเงินต่างประเทศ 3 บริษัท คือ ซิตี้กรุ๊ป เจ.พี. มอร์แกน และมอร์แกน สแตนเล่ย์

แหล่งข่าวโบรกเกอร์ต่างชาติรายหนึ่งกล่าวว่า การที่บริษัทหลักทรัพย์ขนาดใหญ่บางรายใช้นโยบาย เน้นให้บริการนักลงทุนสถาบันหรือต่างประเทศมากกว่านักลงทุนรายย่อย ถือเป็นการบริหารผิดพลาด เนื่องจากหลังวิกฤตเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้จากการเก็งกำไรระยะสั้นของนักลงทุนรายย่อย มากกว่าการที่นักลงทุนสถาบัน หรือต่างชาติเข้ามาเทรดรวมทั้งเมื่อพิจารณาสัดส่วนนักลงทุนสถาบัน ไม่มาก

ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการมองระบบตลาดหุ้นไทยผิดพลาด เพราะตลาดหุ้นไทยเติบโตจาก การเก็งกำไร เป็นตลาดฯ เพื่อการลงทุนระยะสั้น หากต้องการให้ตลาดหุ้นไทยเติบโตมีเสถียรภาพ ต้องจัดการคุณภาพสินค้าในตลาดหุ้นไทยก่อน โดยเฉพาะหุ้นเล็กที่ปรับตัวขึ้นอย่างไร้ปัจจัยพื้นฐานรองรับ

แนะ ตลท.จัดระเบียบตลาดหุ้น

"บริษัทขนาดเล็กแห่งหนึ่ง มีความสามารถในการทำกำไรปีละประมาณ 3-5 ล้านบาท แต่มูลค่าซื้อ ขายหุ้นเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 400-500 ล้านบาท หุ้นบางบริษัทใช้วิธีปล่อยข่าวไล่ราคาเห็นได้ชัด ตลาดฯ ควรจัดระบบคุณภาพสินค้าให้ดีก่อน เพื่อสร้างระบบที่ดีอนาคต" แหล่งข่าวกล่าว

ช่วงตลาดหุ้นไทยคึกคักส่วนแบ่งตลาดมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์บริษัทโบรกเกอร์หลายแห่งลดลงจาก 3% เหลือ 1-1.5% เนื่องจากหลายบริษัทไม่มีนโยบายเน้นดึงนักลงทุนรายย่อยที่ซื้อขายรายวัน เป็นลูกค้า

ทางด้านนายสุวิทย์ มาไพศาลศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บล. เมอร์ริล ลินช์ ภัทร กล่าวว่าแม้สภาพการลงทุนตลาดหุ้นไทย ยังอยู่ในลักษณะหุ้นขนาดเล็กปรับตัวขึ้น และเก็งกำไรระยะสั้นสูง บริษัทไม่มีแผนจะปรับเพิ่มสัดส่วนลูกค้าที่เป็นนักลงทุนรายย่อย

"ผมยอมรับว่าในช่วงที่ภาวะตลาดฯ คึกคัก และปรับตัวขึ้นจากการเก็งกำไรของนักลงทุนรายย่อย บริษัทได้รับผลกระทบในเรื่องส่วนแบ่งตลาดฯ ที่ลดลงจากเดิม เพราะบริษัทไม่มีนโยบายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายย่อย" นายปลิว มังกรกนก ประธานกรรมการ บง.ทิสโก้ กล่าว

รายย่อยฐานรายได้สำคัญตลาดหุ้นไทย

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานกรรมการ บล. กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ในเครือกลุ่มกิมเอ็งจากสิงคโปร์ กล่าวว่า นักลงทุนรายย่อยยังเป็นฐานรายได้สำคัญตลาดหุ้นไทย เพราะยังเป็นนักลงทุนที่ลงทุนตลาดหุ้นแต่ละวันมากที่สุด เป็นฐานที่มั่นคง ขณะที่นักลงทุนต่างชาติ จะสามารถโยกย้ายเงินออกไปได้ตามภูมิภาค และตามสถานการณ์ตลาดฯ ที่เกิดขึ้น

ปัจจุบัน บริษัทฐานลูกค้า 1.1 หมื่นบัญชี เกือบทั้งหมดเป็นลูกค้ารายย่อย ทยอยเปิดบัญชีใหม่ 70 บัญชีต่อวัน หากเป็นสัดส่วนมูลค่าซื้อขายนักลงทุนสถาบัน 10-15% ของลูกค้าบริษัททั้งหมด ซึ่งเมื่อพิจารณาจำนวนราย ไม่มาก

อย่างไรก็ตามบริษัทยังมีนโยบายเน้นบริการนักลงทุนรายย่อย เนื่องจากเป็นฐานรายได้หลักบริษัทอยู่แล้ว การที่เงินฝากธนาคารในไทยขณะนี้ 2 ล้านล้านบาท และผู้เข้ามาลงทุนจำนวนไม่มาก เขามอง ว่าตลาดนักลงทุนรายย่อย ยังมีอัตราเติบโตอีกมาก ดังนั้นระยะยาว ยังเชื่อว่ารายย่อยยังมีความสำคัญต่อตลาดหุ้นไทย

"คุณเน็ต"ก.ย.ครอบงำตลาดฯ

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า การซื้อขายหุ้นบัญชีหักกลบลบหนี้วันเดียวกัน (Net Settelment) ก.ย.อัตราเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 9 เดือน โดยอยู่ที่ 31.22% จาก ส.ค. 26.11% เนื่องจากวันที่ 17 ก.ย. วอลุ่มซื้อขายตลาดหุ้นไทยสูงสุดในรอบ 28 ย่าง 29 ปีตลาดหลักทรัพย์ไทย ถึง 5.95 หมื่นล้านบาท เมื่อพิจารณามูลค่าบัญชี Net Settelment เพิ่มเท่าตัวเมื่อเทียบเดือนก่อน

ส.ค.มูลค่าซื้อขายบัญชีดังกล่าว 1.12 แสนล้านบาท มูลค่าซื้อขายรวม 4.32 แสนล้านบาท ก.ย.มูลค่ารวม 2.15 แสนล้านบาท มูลค่าซื้อขายรวม 6.90 แสนล้านบาท



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.