|
ทายาทรุ่น 2 “นิธิฟู้ดส์” เปิดเกมรุกบุกตลาดโลก
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(8 กันยายน 2554)
กลับสู่หน้าหลัก
“นิธิฟู้ดส์” เดินเกมรุกภายใต้การบริหารงานของทายาทรุ่น 2 ด้วยการสร้างนวัตกรรมใหม่เขย่าวงการอาหารสำเร็จรูป มั่นใจตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องใช้เวลาอย่างเร่งรีบ พร้อมวางเป้าหมาย 5 ปี สร้างรายได้จากตลาดในประเทศและต่างประเทศไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท
นิธิฟู้ดส์ บริษัทผู้ผลิตสินค้าแปรรูปการเกษตรโดยผู้บริหารที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี ในธุรกิจอุตสาหกรรมอาหาร ภายใต้ตราสินค้า “เบลล์ฟู้ดส์” และ “เออร์เบิร์น ฟาร์ม” กำลังเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนที่ท้าทาย ภายใต้การบริหารงานของคนรุ่นใหม่ “สมิต ทวีเลิศนิธิ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิธิฟู้ดส์ จำกัด ทายาทรุ่นที่ 2 ด้วยวัย 32 ปี กับการสานต่อธุรกิจของครอบครัว ภายใต้ปณิธาณ “การทำธุรกิจของเราคือ จะเป็นผู้ผลิตเครื่องเทศที่ลูกค้าคิดถึงเป็นอันดับหนึ่ง และเดินตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืนแก่ผู้ร่วมงาน” นี่เป็นความท้าทายของนักบริหารหนุ่มรุ่นใหม่คนนี้
สมิต เป็นนักบริหารที่มีประสบการณ์เกินวัย ด้วยประสบการณ์จากการทำงานที่หลากหลาย ล่าสุดได้เข้ามาบริหารกิจการครอบครัว ต่อจากรุ่นแรกที่ร่วมก่อตั้งคือนายกอบชัย และนายสุรพล ทวีเลิศนิธิ ที่ก่อตั้งมากว่า 20 ปี ด้วยมาตรฐานการผลิตที่การันตี โดยตั้งเป้าหมายตลาดในประเทศและส่งออก 300 ล้านบาทภายใน 5 ปี และตั้งปณิธานเป็นผู้ผลิตเครื่องเทศที่ลูกค้าคิดถึงเป็นอันดับ 1
นวัตกรรมยึดครอง
หัวใจผู้บริโภค
สมิต เล่าถึงความเป็นมาของผลิตภัณฑ์ เออร์เบิร์น ฟาร์ม ที่เป็นนวัตกรรมว่า “เราเห็นว่าทุกวันนี้คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ไม่มีเวลาในการทำอาหาร จึงต้องพึ่งพาอาหารนอกบ้านหรืออาหารแช่แข็ง แล้วคนก็เลยกังวลว่าทุกวันนี้เราไม่ค่อยได้ดูแลด้านการกินให้ตัวเองเลย นิธิฟู้ดส์จึงตั้งโจทย์ที่จะนำอาหารที่คนชื่นชอบ มาทำให้ปรุงง่ายๆ โดยใครๆ ก็ทำได้ เราพบว่าข้าวผัดที่ทำง่ายที่บ้านน่าจะตอบโจทย์ชีวิตสมัยใหม่ได้”
“ความเป็นนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ซอสผงปรุงข้าวอบตราเออร์เบิร์น ฟาร์ม คือลดขั้นตอนการทำข้าวผัดให้เหลือขั้นตอนเดียว แค่ฉีกซองแล้วหุงพร้อมข้าว ใช้เพียงหม้อหุงข้าว คุณพ่อคุณแม่สามารถให้เด็กๆ ทำเองได้ที่บ้าน ปลอดภัย ไม่ต้องใช้เตาไฟ แถมยังอร่อยโดยไม่มีผงชูรสอีกด้วย” สมิต กล่าว
นอกจากประโยชน์ด้านสุขภาพที่ไม่มีผงชูรส และไขมันน้อยกว่าการทำข้าวผัดถึง 3 เท่า ผลิตภัณฑ์เออร์เบิร์น ฟาร์ม ยังส่งเสริมสถาบันครอบครัวโดยให้ทุกคนทำอาหารกินที่บ้านทานได้ง่ายๆ คุณแม่มั่นใจในความสะอาดปลอดภัย ลดค่าใช้จ่ายการเตรียมอาหาร และไม่ต้องผจญรถติดระหว่างเดินทางโดยไม่จำเป็น ไม่ต้องอารมณ์เสีย เหลือเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นอีกด้วย
ด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์ สร้างจุดเด่นถึงความทันสมัยแต่ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ด้วยลายไทยประดิษฐ์ และรูปอาหารที่น่ารับประทาน การแสดงวิธีทำที่ชัดเจน มีภาพประกอบช่วยให้เข้าใจง่าย การใช้สีเพื่อให้การอ่าน 2 ภาษาแยกกันได้ง่าย โดยต้องการยกระดับความเป็นมิตรต่อผู้บริโภคของบรรจุภัณฑ์อาหารไทยให้เทียบเท่าประเทศญี่ปุ่น ที่ถือว่าเป็นสุดยอดการออกแบบด้านบรรจุภัณฑ์อาหาร
โอกาสธุรกิจ
และเป้าหมายการทำตลาด
ทางด้านโอกาสทางธุรกิจที่เรียกได้ว่าเป็นน่านน้ำสีคราม (Blue Ocean) ที่ทาง นิธิฟู้ดส์ เล็งเห็น และใช้นวัตกรรมตอบสนองความต้องการของผู้ที่ไม่เคยบริโภค เนื่องจากไม่รู้วิธีทำ หรือไม่มีเวลาให้ทำได้ง่าย อร่อย และตอบโจทย์ด้านสุขภาพ เป็นตลาดที่สำคัญในประเทศ กับ 1 ล้านครอบครัวสมัยใหม่ คาดว่ามีมูลค่าตลาดหลายร้อยล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ 100 ล้านบาทให้ได้ภายใน 5 ปี
สมิต กล่าวต่อถึงตลาดต่างประเทศว่า “สำหรับตลาดที่ใหญ่กว่าคือตลาดอาหารไทยในต่างประเทศ ที่ทุกวันนี้ได้รับความนิยมมาก แต่มีราคาแพง คนต่างชาติทำรับประทานเองที่บ้านไม่ได้ เพราะไม่สามารถหาวัตถุดิบได้ในต่างแดน และไม่รู้ว่ารสชาติต้นตำรับเป็นอย่างไร ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการบริโภค ผลิตภัณฑ์เออร์เบิร์น ฟาร์ม ได้รับการตอบรับดีมากๆ ที่งาน ThaiFex ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทุกประเทศที่บ้านมีหม้อหุงข้าวให้ความสนใจมาก โดยเฉพาะรสต้มยำ ที่ยังไม่เคยมีใครพัฒนารสชาติได้อร่อยและทำง่ายเท่านี้ คาดว่ามูลค่าตลาดจะมากกว่าในประเทศไทย 3-4 เท่า ตั้งเป้ายอดขาย 200 ล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า
อีกตลาดหนึ่งที่น่าสนใจคือ ตลาดของฝากจากประเทศไทย ซึ่งในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองไทยปีละ 16 ล้านคน แต่การซื้อของฝากที่เป็นอาหารไทยยังน้อยอยู่ เนื่องจากมีน้ำหนักที่มาก และถ้าต้องปรุงเองในต่างประเทศ ผู้รับของฝากก็คงทำไม่เป็น สินค้าใหม่จึงเน้นทำง่าย อร่อย ไม่ต้องปรุงเพิ่ม มีรสชาติต้มยำและแกงเขียวหวานที่เป็นสุดยอดความนิยม น่าจะเป็นสินค้าของฝากใหม่ที่จะทำให้คนต่างชาติที่ได้รับของฝากอยากมาเที่ยว มาชิม ที่ประเทศไทยมากขึ้นด้วย
แผนการทำตลาดในอนาคต
นิธิฟู้ดส์มุ่งหน้าสู่การเป็นผู้นำด้านเครื่องปรุงรสเพื่อสุขภาพ สำหรับคนไม่มีเวลา (Healthy Seasoning Products for Busy People) โดยเน้นความสะดวก และสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค ตั้งใจนำอาหารไทยสู่ตลาดโลก โดยที่ทุกคนต้องทำได้ง่ายๆ ในช่วงนี้จึงเน้นทำตลาดทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง มีแผนประชาสัมพันธ์ ที่เตรียมทั้งการจัดบูทชวนชิมให้คนรู้จัก เพราะมั่นใจว่าถ้าใครได้ชิมต้องติดใจ การโฆษณา และส่งเสริมการขาย โดยคงต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ตรงกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ และใช้ความคิดสร้างสรรค์มากๆ เพื่อจะได้ใช้งบการตลาดอย่างคุ้มค่า
ทั้งนี้ นิธิฟู้ดส์อยากเป็นตัวอย่างให้ SMEs อื่นๆ ลองหันมาทำแบรนด์ สร้างนวัตกรรมเพิ่มมูลค่า โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกันให้มากขึ้น และอนาคตทุกคนจะได้เห็นรสชาติใหม่ๆ จากเออร์เบิร์น ฟาร์ม ที่กำลังศึกษาวิจัย เช่น ข้าวอบขิง (รสชาติเหมือนข้าวมันไก่) ข้าวอบมัสมั่น ข้าวอบพริกขี้หนูใบกะเพรา ข้าวอบรสพะโล้ เป็นต้น
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|