เรื่องของคนแซ่ฮุน "เมฆย่อมลอยอยู่บนท้องฟ้า"


นิตยสารผู้จัดการ( ตุลาคม 2529)



กลับสู่หน้าหลัก

ต้นสกุลของตระกูลเป็นชาวไหหลำได้อพยพมาจากเมืองจีนมาในประเทศไทยในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 โดยมีหัวหน้าตระกูลชื่ออุ่นตุ้ย แซ่ฮุน ต่อมาเริ่มประกอบกิจการเป็นพ่อค้าทำขนมปังและได้สมรสกับอำแดงคำบุตรสาวของนายปิ้นและนางหุ่น จันตระกูลเจ้าของตลาดน้อยในสมัยนั้น

ข้อมูลจากหนังสือ "คนจีน 200 ปีภายใต้พระบรมโพธิสมภาร" โดยภาษิต จิตรสว่าง บันทึกไว้ว่าบุตรและธิดาของอุ่นตุ้ยกับนางคำมีทั้งสิ้น 10 คนดังต่อไปนี้

"โกศล ฮุนตระกูล เกื้อ ฮุนตระกูล กิมเหลียง ฮุนตระกูล จิ้มลิ้ม ฮุนตระกูล (เสียชีวิตในวัยเด็ก) เทียนย้ง ฮุนตระกูลและเทียนฮอก ฮุนตระกูล"

เมื่อโกศล ฮุนตระกูลหรือชื่อเดิมฮุนกิมฮวดอายุได้เพียง 19 ปีผู้เป็นบิดาก็เสียชีวิต ทิ้งน้อง ๆ ที่ยังเยาว์ทั้งชายและหญิงให้อยู่ในความดูแลถึง 7 คน เด็กชายเทียนเลี้ยงซึ่งต่อมาได้เป็นขุนนางคนแรกของตระกูลนี้อายุเพียง 6 ขวบ เด็กชายเทียนฮอกน้องคนสุดท้องอายุยังไม่เต็มขวบเสียด้วยซ้ำ

สิ้นบุญผู้เป็นพ่อ โกศล ฮุนตระกูล ก็ไม่ได้ย่อท้อรับภาระหัวหน้าครอบครัวประกอบกิจการค้าจนได้รับความเจริญรุ่งเรืองในเวลาต่อมา โดยเริ่มต้นจากทำเครื่องดื่มน้ำมะเน็ดโซดาในปี 2446 และในปี 2449 ได้ขยายกิจการออกไปทางด้านขายยาตั้งเป็นห้างชื่อฮุนซุยโห เมื่อการค้าเติบโตขึ้นจึงได้ร่วมกับพ่อค้าชาวจีนก่อตั้งบริษัทเรือเมล์สยามในปี 2451 ถัดมาอีก 1 ปี ได้รวมทุนกับพ่อค้าไหหลำด้วยกันก่อตั้งธนาคารบางกอกซิตี้แบงก์โดยตนเองดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการ

โกศล ฮุนตระกูล จัดได้ว่าเป็นผู้ประกอบการชาวจีนที่มีสานตายาวไกลและทันสมัย สำหรับคนจีนด้วยกันในยุคสมัยนั้น เพราะในขณะที่พ่อค้าจีนอื่นนิยมส่งลูกหลานกลับไปเรียนที่เมืองจีน โกศลกลับตัดสินใจส่งน้องชายของตนคือเทียนเลี้ยงเข้าศึกษาที่โรงเรียนอัสสัมชัญ ส่วนเทียนย้งกับเทียนฮอกนั้นส่งเข้าเรียนที่ราชวิทยาลัย ต่อมาจึงได้ส่งเทียนเลี้ยงกับเทียนฮอกไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษทางด้านกฎหมายโดยมีจุดมุ่งหมายจะให้เป็นข้าราชการ ด้วยโกศล ฮุนตระกูล รู้ดีว่าพ่อค้านั้นจะก้าวหน้าไปอย่างมั่นคงต้องอาศัยข้าราชการขุนนางที่ใกล้ชิดเจ้านายเป็นประการสำคัญ

ก็สมดังเจตนารมณ์ของผู้เป็นพี่ชายเมื่อเทียนเลี้ยงสำเร็จการศึกษาที่อังกฤษก็เข้ารับราชการในสถานเอกอัครราชทูตไทยที่กรุงปารีส จากนั้นได้กลับมาเป็นปลัดทูลฉลองกระทรวงต่างประเทศ ในรัชกาลที่ 7 จนได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระยาศรีวิสารวาจา

ส่วนเทียนฮอกเมื่อเรียนสำเร็จก็เข้ารับราชการในกระทรวงการต่างประเทศตามพ่ชาย ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหลวงสิทธิสยามการ ตำแหน่งหน้าที่ล่าสุดเป็นปลัดกระทรวงต่างประเทศ

ในบรรดาน้องชายของโกศล ฮุนตระกูล ทั้งหมดพระยาศรีวิสารวาจาเป็นผู้ที่ถือได้ว่าได้รับความสำเร็จสูงที่สุด เพาะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ 2475 พระยาศรีวิสารวาจาก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการราษฏร และเมื่อมีการตั้งรัฐบาลชุดแรกที่พระยามโนปกรณ์นิติธาดาเป็นนายกรัฐมนตรี พระยาศรวิสารวาจาก็ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศติดต่อจนถึงรัฐบาลชุดที่ 3

และเมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่สองในรัฐบาลชุดที่ 14 ที่มีนายควง อภัยวงศ์เป็นนายกรัฐมนตรี พระยาศรีวิสารวาจาก็ได้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นคนแรกของตระกูล ฮุนตระกูล ตำแหน่งสุดท้ายก็คือเป็นองคมนตรี

ทางสายลูก โกศล ฮุนตระกูล ส่ง ศิริ ฮุนตระกูล ไปเรียนวิชาบัญชี เอ.ซี.เอ. จากประเทศอังกฤษ และส่ง สมหมาย ฮุนตระกูล ไปเรียนเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยริกเกียว (ภายหลังเปี่นชื่อเป็นเคโอะ) เพื่อหวังจะให้กลับมาดูแลธุรกิจของตระกูล

สำหรับตัว โกศล ฮุนตระกูล นั้นแม้ภายหลังธนาคารบางกอกซิตี้แบงก์ต้องไปรวมกับแบงก์จีนสยามเนื่องจากประสบปัญหาหนี้สูญ เนื่องจากกรรมการบางคนปล่อยกู้ให้กับพรรคพวกและกิจการแบงก์เจ๊งไปเมื่อปี 2453 ก็ยังประกอบธุรกิจห้างขายยาและเปิดโรงน้ำแข็งทั้งในกรุงเทพฯ และที่หัวหิน ได้รับการนับหน้าถือตาจากพ่อค้าชาวจีน โดยเฉพาะย่านสำเพ็ง เยาวราชอย่างสูง ถึงกับได้เป็นตัวแทนชาวจีนย่านนั้นเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8 และพระอนุชา (รัชกาลปัจจุบัน) เสด็จเยือนย่านคนจีนที่สำเพ็ง เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2489

ฮุนกิมฮวด หรือ กิมฮวด ฮุนตระกูล หรือ โกศล ฮุนตระกูล เสียชีวิตเมื่อ 2502 ทิ้งบุตรหลานที่สร้างชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูล สร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติไว้มากมายหลายคน

สมดั่งนามสกุลเดิม "ฮุน" ที่แปลว่า เมฆ ย่อมลอยอยู่บนท้องฟ้า ให้ทั้งร่มเงาและน้ำแด่พื้นดิน บางครั้งบางทีอย่างปี 2527-2528 เมฆก็ให้น้ำมากเกินไปจนนักธุรกิจจมน้ำตายไปก็มากเหมือนกัน



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.