2477 ทองไทร บูรพชัยศรีลืมตามองโลกที่อำเภอนครชัยศรี นครปฐม เพราะเหตุนี้
แซ่เอี้ยวของเขาจึงเปลี่ยนเป็นบูรพชัยศรีตามบ้านเกิด
2493 จบการศึกษา ป. 4 เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ติดตามครูสอนภาษาจีนชื่อหวังซีทง
มาอยู่แถว ๆ สะพานเหลือง ครูฝากงานให้ทำครั้งแรกที่โรงพิมพ์วรจักร์ "ผมเดินทางเข้ากรุงเทพฯ
ไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว" เขาบอก "ผู้จัดการ"
2495 ทองไทรเริ่มฝึกงานเป็นช่างในอู่ซ่อมเครื่องยนต์แถวเวิ้งนครเขษม ประสบการณ์ช่วงนี้สำคัญ
เป็นบันไดนำเข้าสู่วงการเครื่องจักรกล เขาบอกเขาชอบเครื่องยนต์เป็นชีวิตจิตใจ
"หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ใหม่ มีการสั่งเครื่องไฟฟ้าใช้แล้วมาใช้
โดยใช้ไฟ 220 โวลท์ เครื่องไฟฟ้าเลยดับเสมอ ๆ ผมเป็นคนแรกในเวิ้งที่สามารถดัดแปลงใช้กันได้"
ทองไทรยังภูมิใจไม่หายต่อผลงานครั้งนั้น ซึ่งต่อมาใคร ๆ เรียกเขาว่านายช่างใหญ่
ประมาณ 2500 ทองไทรเก็บหอมรอบริบมีเงินก้อน และเป็นครั้งแรกที่เขาพ้นสภาพจ้างลูกจ้างมาเป็นเจ้าของกิจการ
เขาซื้อสี่ล้อเล็กรับจ้างขนส่งตามร้านอาหารต่าง ๆ
2502 เนื่องจากความพิสมัยในเครื่องจักรเครื่องยนต์ฝังเข้าในสายเลือด ทองไทรร่วมลงขันกับเพื่อนไปเช่าที่เปิดโรงกลึงหล่อก็อกน้ำที่บางขุนเทียน
"ทำไป ๆ ขาดทุนมาก ผมเลยขายกิจการให้เพื่อนทำคนเดียว"
2503 ทองไทรต้องเริ่มต้นอีกครั้งที่จุดแรกที่เขาเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยซื้อสามล้อเครื่องคันแรกมารับจ้างส่งคนโดยสาร
เป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งถึงร้อยเหมือนนับเลขจริง ๆ ภายในเวลา 5 ปีเขาก็สามารถซื้อสามล้อเครื่องไว้ให้เช่าถึง
100 คัน "สมัยนั้นย่านเฉลิมเขตต์ใคร ๆ ต้องรู้จักเฮียโง้ว แม้ทุกวันนี้ก็ตาม
แต่ถ้าเอ่ยชื่อทองไทร อาจไม่มีใครรู้จัก" คนใกล้ชิดทองไทรพูด
ทองไทรก็ยอมรัว่าตรงจุดนี้เขาสามารถยืนอยู่ในยุทธจักรทางธุรกิจอย่างมั่นคงแล้ว
ในช่วงนั้นจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี และในช่วงท้าย ๆ ของยุคจอมพลสฤษดิ์มีนโยบายจะให้เลิกกิจการสามล้อเครื่อง
"ผมต้องตระเวนออกต่างจังหวัดเพื่อหาลู่ทางทำธุรกิจใหม่ ที่แปดริ้ว ฉะเชิงเทราผมเห็นเรือหางยาวกำลังฮิตมาก
โดยใช้เครื่องยนต์เก่าจากญี่ปุ่น" ทองไทรพูดถึงจุดหักเหทางธุรกิจครั้งสำคัญ
2509 ทองไทรตั้งบริษัทไทยแลนด์มอเตอร์เวอ์ค นำเข้าเครื่องยนต์เก่าจากญี่ปุ่น
ยี่ห้อแรกคืออีซูซุ เขาเป็นผู้จัดการบริษัท ปรากฏว่ากิจการประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
"เริ่มจากนำเข้าเครื่องยนต์เก่าต่อมานำสินค้าเข้าหลายตัว จากเครื่องยนต์มาเป็นรถบรรทุก
ผมมีกำไรบางครั้งถึงกับเหมาเรือเดินสมุทรทั้งลำ" เขาเล่าถึงช่วงชีวิตอันรุ่งโรจน์
และเน้นจากจุดนั้นเองทำให้เขาต้องผันตัวเองเข้าไปสัมผัสกับญี่ปุ่น "ผมค้ากับญี่ปุ่นประมาณ
18 ปี ปีหนึ่ง ๆ ผมอยู่ญี่ปุ่นมากกว่าเมืองไทย รวมทั้งหมดผมอยู่ญี่ปุ่นประมาณ
8 ปี"
ทองไทรพุดภาษาญี่ปุ่นได้ และเขาชื่นชอบ MATSUSHITA ผู้นำที่เข้มแข็งเจ้าของกิจการ
NATIONAL มาก คนใกล้ชิดบอกว่าทองไทรก็เป็นผู้นำธุรกิจที่เข้มแข็งตัดสินใจเฉียบขาด
ยืนหยัดหลักการมากคนหนึ่ง
ปี 2514 รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการผลิตรถยนต์ภายในประเทศ จึงห้ามมิให้มีการนำเข้า
ทองไทรจึงเปลี่ยนไปนำเข้าเครื่องทุ่นแรงเก่าแทน ในขณะเดียวกันก็เปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็นเมโทรแทรกเตอร์
จากชื่อเสียงด้านเครื่องยนต์บวกกับเครื่องทุ่นแรง ชื่อของทองไทร บูรพชัยศรีจึงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการค้าที่เกี่ยวข้องกับญี่ปุ่น
"ใครไม่รู้จักมิสเตอร์ทองไทรในเมืองไทย แสดงว่าไม่รู้จักแทรกเตอร์"
เขากล่าวอย่างอหังการ์
CATERPILLAR มีโรงงานในญี่ปุ่นอยู่นานแล้ว ย่อมจะรู้จักทองไทร บูรพชัยศรี!