บริการใหม่จากซินไฉฮั้ว

บริการใหม่จากซินไฉฮั้ว

นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( กันยายน 2554)

กลับสู่หน้าหลัก

ภาพลักษณ์ของซินไฉฮั้ว ในฐานะรับจ้าง ซัก อบ รีด เสื้อผ้ามา 77 ปี กำลังพยายามจะเปลี่ยนแปลงบุคลิกให้ดูดีเพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัย ล่าสุดเปิดบริการใหม่ THE CLOSET จับลูกค้าไฮโซโดยเฉพาะ

ปิยะพล กัญจนาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ ซินไฉฮั้ว กรุ๊ป ผู้บริหารรุ่น 3 เล่าถึงแนวคิด THE CLOSET ให้ฟังว่าไลฟ์สไตล์ของลูกค้าระดับบนจะสวมใส่เสื้อผ้าราคาแพง รวมไปถึงการใช้กระเป๋า รองเท้าแบรนด์ดัง และลูกค้าเหล่านี้ต้อง การให้มีการดูแลรักษาทำความสะอาดเป็นอย่างดี

ดิ คลอเซ็ท จึงเป็นบริการทำความสะอาด ซ่อม และแก้ไข เพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว ทำให้ซินไฉฮั้วตัดสินใจเปิดศูนย์บริการแห่งแรกภายใต้บริการ Exclusive Cleaning

และได้เลือกห้างสรรพสินค้าเกษร พลาซ่า เป็นศูนย์บริการ เพราะเห็นว่าตรงกับกลุ่มคนกำลังซื้อสูงมากที่สุด เนื่องจากไม่มีคนพลุกพล่านมากเกินไป

ดิ คลอเซ็ทจะอยู่บริเวณล็อบบี้ด้านล่างของห้างเกษรพลาซ่า และใช้งบประมาณจำนวน 5 ล้านบาทเพื่อตกแต่งร้านให้ดูเรียบหรู เน้นสีแดงและน้ำตาล ตู้กระจกที่มีเสื้อผ้า และรองเท้าแขวนอยู่ พร้อมกันนี้ได้แบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งให้ลูกค้าไว้แต่งตัว และแต่งหน้า ทำผม เพื่อออกงานได้ทันที โดยมีพนักงานดูแล 2-3 คน

แนวคิดให้บริการลูกค้าระดับบนของซินไฉฮั้วในครั้งนี้ ยังไม่ได้ถูกกำหนดให้อยู่ในแผนธุรกิจระยะยาว แต่เป็นการทดลองต้นแบบเพื่อทดสอบความต้องการของตลาดว่าจะเป็นไปตามแนวคิดหรือไม่ เพราะราคาค่าบริการเริ่มตั้งแต่หลักร้อยบาท เช่น ซักรีด กางเกงยีนส์ 180 บาท ทำความสะอาดรองเท้าบูท 950 บาท หรือราคาที่แพงที่สุดในรายการซักรีดคือหมวดเฟอร์นิเจอร์รถยนต์ ค่าบริการ 6,000 บาท

เหตุผลที่ราคาค่าบริการค่อนข้างแพง เป็นเพราะกระบวน การทำความสะอาด หรือซ่อมแซม จะใช้มือทำทั้งหมดโดยไม่ใช้เครื่องจักร

ในวันเปิดตัวศูนย์บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2554 เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นไฮโซ บริษัทได้เชิญสุมณี คุณะเกษม เป็นประธานเปิดงานและมีบุคคลที่มีชื่อเสียง ร่วมงาน

นโยบายการปรับภาพลักษณ์ของซินไฉฮั้ว เพื่อเจาะลูกค้าระดับบน นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงของซินไฉฮั้วอย่างมาก เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทจะเป็น B+

การปรับภาพลักษณ์เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น เพราะบริษัทมีแผนปรับจุดบริการ 40 แห่งให้มีความทันสมัยเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันจุดรับสินค้าของบริษัทที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นเพียงเคาน์เตอร์เล็กๆ มีที่แขวนเสื้อผ้าเพื่อรับ-ส่งให้กับลูกค้า และมีพนักงาน 1 คนให้บริการ

สำหรับแนวคิดใหม่จะปรับปรุงเคาน์เตอร์ให้ทันสมัยมากขึ้น และติดตั้งระบบความปลอดภัย ซึ่งจะใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท และใช้เวลา 3 ปี

การบริหารงานภายใต้ผู้บริหารรุ่น 3 ที่มุ่งเน้นปรับภาพลักษณ์ของซินไฉฮั้ว อายุ 77 ปี แสดงให้เห็นแล้วว่าธุรกิจซักอบรีด ไม่ได้จำกัดอยู่ในวงแคบที่มีผู้เล่นไม่กี่ราย แต่ตรงกันข้ามกลับมี หน้าใหม่ผุดขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกตลอดเวลา และผู้บริหารก็ยอม รับว่าธุรกิจนี้มีการแข่งขันสูง และเป็นธุรกิจที่ทำไม่ง่าย ไม่ยาก

ทว่าผู้จะอยู่รอดได้ต้องแตกต่าง

กลับสู่หน้าหลัก

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย