ถ้าเอ่ยชื่อถาวรคอมพิวเตอร์ คนที่อยู่ใน FIFLD คอมพิวเตอร์คงรู้จักกันดี
แต่ถ้าเอ่ยชื่อ จิระ จิริยะสิน คงมีไม่กี่คนที่รู้ว่าเขาเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท
ถาวรคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตและจำหน่าย PERSONAL COMPUTER ชื่อคนไทยเป็นบริษัทแรก
ขณะนี้จิระอายุ 26 เป็นกรรมการผู้จัดการมาแล้ว 4 ปีกว่า และในปีนี้เขาตั้งใจว่า
จะทำยอดขายให้ได้ประมาณ 40 ล้านบาท ขณะที่ปีแรกของการดำเนินกิจการบริษัทถาวรคอมพิวเตอร์
มียอดขายเพียง 2 ล้านกว่าเท่านั้น
ปี 2524 ไมโครคอมพิวเตอร์เริ่มบูมโดยเฉพาะที่ไต้หวันมีการรับเอาเทคโนโลยีจากอเมริกาและแหล่งผลิตอื่น
ๆ เข้าประเทศในทุกรูปแบบ ไต้หวันในช่วงนั้นเป็นแหล่งผลิตไมโครคอมพิวเตอร์และส่งออกในราคาถูกมาก
ๆ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่จิระดำเนินธุรกิจประกอบโทรทัศน์ขาวดำในเมืองไทย
เมื่อได้เดินทางไปติดต่อซื้ออะไหล่หรือส่วนประกอบโทรทัศน์ที่ไต้หวัน จิระจึงเห็นตลาดคอมพิวเตอร์ที่นั่น
เขาเล่าว่าเขาไปติดต่อซื้ออะไหล่ที่บริษัทต้าถุงในไต้หวัน และได้เห็นเด็กนักเรียนเล่นคอมพิวเตอร์ที่บริษัทตั้งโชว์ไว้อย่างสนุกสนาน
เขาคิดว่าเมืองไทยน่าจะเป็นอย่างนี้บ้าง...นับตั้งแต่วันนั้นมาจิระก็ศึกษาและสะสมความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เรื่อยมา
ปลายปีเดียวกันนั้น ธุรกิจประกอบโทรทัศน์ขาวดำของจิระซึ่งร่วมหุ้นกับบริษัทพระโขนง
ทีวี ประสบปัญหา
"ตอนนั้นทีวี เริ่มแย่ เพราะรัฐบาลชุดนั้นขึ้นภาษีนำเข้าในรูป KCD
จากเดิมประมาณ 10% เป็น 55% และเศรษฐกิจช่วงนั้นก็ซบเซา เคยขายได้เดือนละพันกว่าเครื่องลดลงเหลือไม่กี่ร้อย
กำไรแทบไม่มีเราเห็นว่าถ้าสถานการณ์เป็นเช่นนี้ไปไม่รอดแน่เลยเลิก ทางโน้นเขามี
PROJECT ทำทีวีสีต่อ ก็ย้ายโรงงานออกไปนอกเมือง" จิระเล่าถึงจุดจบของบริษัท
ถาวร อีเลคทริค จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจประกอบโทรทัศน์ขาว-ดำ
ความผันแปรในชีวิตการทำธุรกิจในครั้งนั้น เป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญที่สำคัญที่สุดของจิระ
เมื่อเลิกประกอบโทรทัศน์ขาว-ดำ แล้ว ด้วยความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่สะสมไว้จากการเดินทางไปไต้หวันบ่อยๆ
ได้ดูโรงงานประกอบคอมพิวเตอร์ตามที่ต่างๆ ความคิดเรื่องทำธุรกิจคอมพิวเตอร์จึงผุดขึ้นในสมอง
ช่วงนั้นตลาดคอมพิวเตอร์ในประเทศไทยยังไม่มีการแข่งขันกันมากนัก บริษัทจำหน่าย
PERSONAL COMPUTER ในตลาดมีไม่กี่ราย และราคาแพง จากประสบการณ์ธุรกิจจิระรู้ดีว่าผู้ริเริ่มเป็นรายแรกๆ
มักประสบความสำเร็จเสมอ เพราะก่อนที่จิระจะทำธุรกิจประกอบโทรทัศน์ขาว-ดำ
จิระเคยร่วมหุ้นกับเพื่อน ๆ เปิดร้านให้เช่าม้วนเทปวิดีโอ เป็นร้านที่สองของเมืองไทยเมื่อตลาดวิดีโอบูม
จิระกับเพื่อนก็รับไปไม่รู้เท่าไรมาแล้ว
ผลพวงจากการติดต่อกับบริษัทอะไหล่โทรทัศน์ในไต้หวัน ทำให้การติดต่อซื้อส่วนประกอบและเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทำได้ไม่ยาก
และช่วงนั้นในเมืองไทย SEGMENT คอมพิวเตอร์ราคาถูกยังไม่มีคู่แข่ง จิระวางตำแหน่งคอมพิวเตอร์ยี่ห้อถาวรในราคาถูกทันที...จิระและถาวรคอมพิวเตอร์จึงเกิดได้เต็มตัว
เดือนกรกฎาคม ปี 2525 บริษัทถาวรคอมพิวเตอร์ จำกัด เกิดขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน
2 ล้านบาท ซึ่งเป็นทุนของครอบครัว "จิริยะสิน" มีจิระเป็นกรรมการผู้จัดการ
มีอำนาจการตัดสินใจบริหารได้เต็มที่เมื่ออายุ 22 เศษ ๆ
"เราสั่งของเข้ามา LOT แรก ๆ รู้สึกกว่าต้นทุนมันสูง ผมก็เลยหาทางมาประกอบในนี้หรือผลิตในนี้บางส่วน
พยายามนำชิ้นส่วนเข้ามาซื้อเทคโนโลยี ซื้อ LICENCE บางส่วนให้เขาส่งช่างมาบ้างเราส่งช่างไปบ้าง
มาช่วงหลังราคาถูกลงมาก คนซื้อไปใช้เยอะคุณภาพก็เป็นที่ยอมรับ...เราใช้ยี่ห้อถาวรตั้งแต่แรกเลย"
เขาเล่าถึงการปรับตัวธุรกิจของเขา
"คอมพิวเตอร์ที่เราขายจะเป็น 2 ลักษณะคือ เครื่องที่เป็นยี่ห้อถาวรที่ขายออกไป
กับอีกส่วนหนึ่งที่เป็นลักษณะขายส่ง ซึ่งขายเป็นลักษณะ NO BRAND ไปให้ลูกค้าติดยี่ห้อเอง"
จิระ กล่าวถึงคอมพิวเตอร์ของเขา
จิระช่วงแรก ๆ ใช้ทุนจากครอบครัวพอมาระยะหลังกิจการขยายตัวมากขึ้นจึงติดต่อกับธนาคาร
จิระโชคดีที่ได้บัญชีของลุงซึ่งเป็นลูกค้าที่ดีของธนาคารมาหลายปีเมื่อลุงของจิระเลิกทำกิจการแผ่นเสียงจึงโอนบัญชีให้เขา
จิระจึงได้เครดิตในเรื่องโอ/ดี และเงินกู้ต่าง ๆ ...เพียงแต่
"บางช่วงที่ติดขัดจริง ๆ ก็ไปรบกวนคุณพ่อคุณแม่บ้าง ไปหยิบยืมมาแล้วก็คืนให้"
จิระบอกกับ "ผู้จัดการ" ตรงๆ
ตลอดเวลา 4 ปีกว่าที่ดำเนินกิจการมาจิระรู้ตัวดีว่าเขาไม่มีพื้นฐานทางด้านคอมพิวเตอร์โดยตรง
และอายุยังน้อยอีกด้วยการไม่ได้รับการยอมรับจากคนในวงการคอมพิวเตอร์ภายนอกบริษัทเป็นเรื่องน่าลำบากใจมาก
แต่จิระก็รู้ดีว่าการไม่ได้รับการยอมรับจากพนักงานในบริษัทเป็นเรื่องน่าลำบากใจมากกว่า
จิระต้องใช้เวลาศึกษาคอมพิวเตอร์มาก เมื่อมีเวลาว่างทุก ๆ เย็นหลังบริษัทปิดแล้วเขาจะอยู่ที่บริษัทจนค่ำมืดคลุกคลีอยู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์
ยิ่งเมื่อเครื่องรุ่นใหม่เข้ามาเขาจะต้องได้จับก่อนใครในบริษัทและศึกษาจนเข้าใจก่อน
นอกจากนี้จิระยังตระหนักดีว่าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์นั้นก้าวหน้าและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
ๆ เขาต้องคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวตลอดเวลา จิระต้องอ่านหนังสือมากโดยเฉพาะนิตยสารต่างประเทศที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เขาอ่าน
10 กว่าฉบับ
"จะอ่านนิตยสารจากไต้หวัน ญี่ปุ่น อเมริกา ฮ่องกง จะได้ประโยชน์จากการดูโฆษณาด้วย
ส่วนเรื่องไหนที่สนใจมาก ๆ แต่ไม่ค่อยเข้าใจ ก็จะให้พนักงานที่รับผิดชอบเรื่องนั้น
ๆ โดยตรงไปอ่านแล้วมาคุยกัน แล้วผมก็พยายามไปชมนิทรรศการในต่างประเทศ อย่างเช่น
เวลาไปไต้หวันผมจะใช้เวลาตระเวนไปตามโรงงานต่าง ๆ ให้มากที่สุด แห่งละครึ่งชั่วโมงก็ยังดี
เพราะเขามีอะไรใหม่ ๆ ตลอดเวลา" จิระเล่า
ถึงแม้จิระจะไม่มีความรู้พื้นฐานทางด้าน MARKETTING แต่ประสบการณ์ธุรกิจที่ผ่านมาทำให้จิระใช้กลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างครบเครื่อง
ซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้คอมพิวเตอร์ถาวรเกิดและกำลังโตไม่หยุด
คอมพิวเตอร์ถาวร เข้าตลาดได้เพราะขายสินค้าในราคาถูก ถ้าเทียบกับยี่ห้อดัง
ๆ ราคาถูกกว่า 2-3 เท่าเลยทีเดียว เมื่อแรกเข้าตลาดเน้นที่การขายปลีกแต่มาช่วงหลัง
ๆ เริ่มจับหน่วยราชการ โดยใช้กลยุทธ์ช่วยจัดสัมมนาให้แล้วนำเครื่องไปให้ทดลองใช้ทางด้านตลาดเอกชนก็จะมีเซลส์เข้าไปคุยกับเจ้าของกิจการต่าง
ๆ ถึงปัญหาของเขาและกลับมา PLAN งานแก้ไขปัญหาให้โดยใช้คอมพิวเตอร์เข้าช่วย
พร้อมบริการหลังการขายเพียบ
จิระเข้าใจประโยชน์ของการโฆษณามาก เขาใช้โฆษณาเข้าช่วยตั้งแต่ปี 2527 ด้วยงบปีละเกือบล้านบาทมาตลอด
ทำให้ชื่อคอมพิวเตอร์ถาวรติดปากติดตาผู้พบเห็นด้วยการโฆษณาเน้นความเป็นไทย
ให้ความเชื่อมั่นในความแปลกใหม่และการพัฒนาเทคโนโลยีโดยคนไทย ถ้าใครเคยเห็นโฆษณาของคอมพิวเตอร์ถาวรและติดตามบ้างจะรู้ว่าแคมเปญของเขาทำได้ไม่แพ้
AGENCY มืออาชีพเลย
จิระเข้าใจถึง CONCEPT การเปิดตัวดีทำให้เขาไม่เคยพลาดการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า
และการเข้าใจในเรื่องนี้ทำให้ถาวรคอมพิวเตอร์เปิดตลาดต่างประเทศได้สำเร็จ
"ตอนนี้เพิ่งเริ่มส่งออกไปแถบสวีเดนนอรเว เขามาหาเราเองจากงานแสดงคอมพิวเตอร์ไทยงานหนึ่ง
กับงานอุตสาหกรรมส่งออกของกระทรวงพาณิชย์อีกงานหนึ่งและช่วงนี้อยู่ในระหว่าง
CONTRACT กับอีก 2-3 บริษัท" จิระบอกถึงตลาดต่างประเทศ
ช่องทางการจำหน่ายจิระก็พยายามกระจายออกไปในส่วนภูมิภาคในจุดที่คิดว่าตลาดจะโตขึ้นได้
นอกจากในกรุงเทพฯแล้ว เขายังมีเอเย่นต์ทางภาคเหนือที่เชียงใหม่ทางภาคใต้ก็เคยมีที่หาดใหญ่แต่ถูกของหนีภาษีตีแตกกระจุยเลยต้องถอยทัพกลับ
จิระฝันจะให้คอมพิวเตอร์เป็น MASS PRODUCTION ที่จะช่วยพัฒนาประเทศได้ดังนั้นสำหรับตลาดที่เป็นสถานศึกษาจิระจะช่วยเต็มที่
โดยขายให้ในราคาต่ำมาก ๆ เพื่อให้นักเรียนนักศึกษาได้มีโอกาสใช้กันแพร่หลาย
ตลาดในช่วงนี้จิระเน้นสถานศึกษาประมาณ 30% ขายปลีก 30% ที่เหลือเป็นขายส่ง
เมื่อแรกเริ่มกิจการที่ใช้ชื่อคอมพิวเตอร์ถาวร จิระยอมรับเองว่ามีปัญหาเรื่องค่านิยมความไม่น่าเชื่อถือในคุณภาพ
เพราะไม่ใช่ของนอก แต่จิระก็สู้พยายามสร้างภาพพจน์ที่ดีให้สินค้าทางโฆษณาและใช้กลยุทธ์ด้านราคาเข้าช่วยทำให้มีการทดลองใช้มากขึ้น
จนขณะนี้ปัญหาเรื่องเป็นคอมพิวเตอร์ไทยคุณภาพสู้ของนอกไม่ได้เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
ปัญหาเรื่องคนระดับรองลงมาที่จะแทนจิระได้ก็กำลังเป็นปัญหาของถาวรคอมพิวเตอร์
ระบบการตัดสินใจของถาวรคอมพิวเตอร์ขณะนี้ จิระตัดสินใจเพียงคนเดียว ไม่มีคณะกรรมการควบคุมการทำงานหรือที่ปรึกษาเป็นคณะถาวร
และไม่มีการจัดระบบที่ชัดเจนมากนัก การวางแผนก็เป็นเพียงระยะสั้น ๆ ในอนาคตจิระคงจะต้องเอาใจใส่ในเรื่องนี้มากขึ้นถ้าเขาจะขยายอาณาจักรถาวรคอมพิวเตอร์ออกไปให้เป็น
MASS PRODUCTION ดังที่เขาใฝ่ฝันไว้
ด้วยวัยเพียง 26 จิระเลิกคิดที่จะเรียนต่อที่คณะรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ให้จบเพราะ
DROP มาหลายเทอมแล้ว ขณะนี้ได้แต่มุ่งทำงานหนักวันละกว่า 10 ชั่วโมงหลายวันในหนึ่งเดือนจิระจะนอนที่บริษัท
จิระจะตื่นเช้ามาทำงาน 8 โมงเช้าเป็นประจำด้วยเงินเดือนเลข 5 ตัวระดับต้นกับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการจิระรับเงินเดือนน้อยกว่าพนักงานบริษัทบางคนด้วยซ้ำไป
เขาใช้ชีวิตง่าย ๆ กลางวันกินข้างแกงข้างบริษัท กลางคืนถ้าไม่มีงานเลี้ยงลูกค้าก็จะอยู่ทำงานจนดึกแทบจะไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว
แต่คนในถาวรคอมพิวเตอร์รู้ดีว่ากรรมการผู้จัดการของเขาไม่ค่อยว่างนักโดยเฉพาะในหนึ่งเดือนจิระจะไม่ได้นอนสองวันสองคืนติดกัน
เพราะจะไปเดินง่วนอยู่ที่โรงงาน
"เป็นวันที่เราออกของ เราจะออก LOT ใหญ่ ๆ เดือนละครั้งแล้วต้องผลิตทันทีในช่วงผลิตเป็นงานเร่งผมจะไปดูเอง
โรงงานก็มีคนคุมอยู่แล้วแต่ผมก็ชอบไปดู อย่างน้อยถ้าเราไปอยู่กำลังใจของเขาก็ดี
เขาทำงานไปเราก็เดินไปเดินมา 2 คืน" จิระบอกผู้จัดการพร้อมกับหัวเราะหึหึ