|
'อาร์สยาม' ปั้นช่องใหม่ รองรับเป้าหมายอายุ 40 ปีอัพ
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(10 สิงหาคม 2554)
กลับสู่หน้าหลัก
หลังจากค่ายเพลงอาร์สยามประสบความสำเร็จจากทำตลาดแบบ 360 องศาจนสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทตามเป้าที่วางไว้ 640 ล้านบาทอย่างแน่นอน เห็นจากครึ่งปีแรกยอดรายได้สูงเกิดกว่าเป้า 11% แล้วปีนี้จึงเกิดแนวคิดที่จะขยายช่องทางใหม่อีกช่อง คือ เปิดช่องสำหรับกลุ่มเป้าหมายอายุ 40 ปีขึ้นไป เพื่อระบายคอนเทนต์ที่มีอยู่มากจนไม่สามารถลงช่อง “สบายดี ทีวี” ได้
ศุภชัย นิลวรรณ รองกรรมการผู้อำนายการ สายงานเพลงลูกทุ่ง/ธุรกิจเพลง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการค่ายเพลงอาร์สยาม ได้เปิดเผยถึงความสำเร็จของการทำตลาดผ่านกลยุทธ์ One Stop Service Music Marketing ด้วยการมองหาพันธมิตรที่มีลูกค้าเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน เพื่อทำการตลาดร่วมกันแบบ 360 องศา ในขณะที่ค่ายอื่นทำธุรกิจเพลงอย่างเดียว แต่อาร์สยามเน้นการทำตลาดทุกรูปแบบ เนื่องจากธุรกิจขายเพลงไม่มีการเติบโต แต่ธุรกิจรอบข้างเพลงเติบโต
โดยอาศัยจุดแข็งด้านสื่อและศิลปินที่มีอยู่ เพื่อสร้างความพอใจให้กับลูกค้าในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น เช่น การเป็นพรีเซนเตอร์สินค้า การจัดกิจกรรมโรดโชว์ต่างๆ และการจัดคอนเสิร์ต หรือการผูกบุคลิกของศิลปินเข้าไปกับตัวสินค้า หรือการ Tie-in สินค้าเข้าในมิวสิควีดีโอ นับเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยบริหารความเสี่ยงและลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีการออกสินค้า MP 3 ในราคา 99 บาทเพื่อแข่งขันกับตลาดผีด้วย
“ก่อนที่เราจะออกสินค้า MP 3 เราก็กลัวว่าจะไปตีกับลูกค้าที่ซื้อซีดี แต่เอาเขาจริงๆ เป็นคนละกลุ่มกันทำให้ไม่มีปัญหา การที่บริษัทใช้กลยุทธ์แบบOne Stop Service Music Marketing ส่งผลให้ปีนี้อาร์สยามมีส่วนแบ่งตลาดเพลงลูกทุ่งอยู่ 40-45% จากภาพรวมของตลาดเพลงลูกทุ่งในปัจจุบันที่มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 1,500 ล้านบาท”
นอกจากนี้ ยังเป็นผลมาจากการตั้งช่อง “สบายดี ทีวี” ซึ่งคอนเซ็ปท์ช่องคือเพลงไทยหลากสไตล์ ดูสบายทั้งครอบครัวทำให้ธุรกิจเพลงของอาร์สยามได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ชมทั่วทั้งประเทศไทยและลาวเห็นได้จากการสำรวจของนีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช ระหว่างมิถุนายน - กรกฎาคม ที่ผ่านมา ยกให้ช่อง “สบายดี ทีวี” ในเครืออาร์เอส เข้าวินมาเป็นอันดับ 1 ครองใจผู้ชมในทุกกลุ่มอายุมาอย่างต่อเนื่อง
“ก่อนหน้านี้เราไม่เคยมองตลาดลาวเลย แต่ตอนนี้เราเริ่มหันมามองแล้ว เราคงไม่เข้าไปทำตลาดซีดีเพราะเขามีการละเมิดลิขสิทธิ์กันมาก เราคงทำตลาดดิจิตอลแทน พวกดาวน์โหลดลงมือถือ กำลังจะไปคุยกับโอปอเรเตอร์ที่นั้น”
อย่างไรก็ดี คาดว่าสิ้นปี 2554 นี้จะสามารถนำช่อง “สบายดี ทีวี” ให้ทำรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน โดยถึงสิ้นปีนี้วางรายได้ไว้ที่ 640 ล้านบาท เพราะจากตัวเลขครึ่งปีแรกสามารถทำรายได้ 325 ล้านบาท หรือมากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ 11% โดยปีที่ผ่านมาสามารถทำรายได้ 500 กว่าล้านบาท
“ครึ่งปีหลักอาร์สยาม และสบายดี ทีวี ยังมีคอนเสิร์ตใหญ่ และกิจกรรมต่างๆ อีกมากมาย เช่น คอนเสิร์ตลูกทุ่งเฟสติวัล สบายดีสัญจร โรดโชว์ไปตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้อาร์สยามทำรายได้เข้าเป้าปลายปีอย่างแน่นอน”
ทั้งนี้ หากรายได้เป็นตามเป้าที่วางไว้ จะทำให้บริษัทคุ้มทุน โดยแต่ละปี “สบายดี ทีวี” ใช้เงินลงทุน 50-60 ล้านบาท ซึ่งจากนี้ไปมีแนวโน้มว่าจะเปิดช่องใหม่ที่จะเอาคอนเทนต์สำหรับคนที่อายุ 40 ปีขึ้นไปมาเผยแพร่ เนื่องจากมีคอนเทนต์อยู่มากทำให้ลงในช่อง “สบายดี ทีวี” ได้เพียงพอ และกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไปก็เป็นกลุ่มที่น่าสนใจ
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|