ไพฑูรย์ วิโรจน์โภคาก้าวขึ้นดำรงตำแหน่ง DIRECTOR OPERATIONS ของ AMERICAN
EXPRESS (THAI) CO.,LTD. ซึ่งอยู่บนชั้น 11 ของตึกธนาคารกรุงเทพ จำกัด สำนักงานใหญ่อย่างสง่าผ่าเผย
ไพฑูรย์นั่งทำงานอยู่บนนั้นในมาดนักบริหารผู้สมถะด้วยวัยเพียง 37 ปี เขาสามารถก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทข้ามชาติอย่างที่น้อยคนนักจะก้าวขึ้นมาได้เร็วเช่นเขา
จากลูกชายคนทำเหมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไพฑูรย์ เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ
ที่โรงเรียนสัจจวิทยา จากนั้นไปศึกษาต่อที่ปีนังตามความนิยมของคนใต้ที่มักจะส่งลูกไปเรียนที่นั่นในสมัยนั้น
เรียนจบทำงานเป็นล่ามและครูอยู่ที่หาดใหญ่ได้ปีกว่า ไพฑูรย์ก็ผันชีวิตตนเองสู่สหรัฐอเมริกาเพื่อเรียนต่อระดับปริญญาตรีและโททางเศรษฐศาสตร์ที่
UCLA (UNIVERSITY OF CALIFORNIA AT LOS ANGELIS)
ไพฑูรย์ส่งเสียตัวเองเรียนมาตลอด เขาทำทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น WARE HOUSE
หรือเด็กปั๊ม เพราะเวลานั้นพ่อของเขาได้จากเขาไปอย่างไม่มีวันกลับ "มันดีครับทำให้เราได้รู้คุณค่าของชีวิตขึ้นมากทีเดียว"
เขาว่า
ไพฑูรย์เริ่มงานที่ SECURITY PACIFIC BANK ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่อันดับสองใน
CALIFORNIA โดยเข้าอยู่ใน MANAGEMENT PROGRAM และทำอยู่ที่นี่ 4 ปีเต็ม ๆ
จากนั้นไพฑูรย์กลับเมืองไทยเข้าทำงานที่ BANK OF AMERICA อีก 4 ปีกว่า
ที่นี่เขาผ่านงานหลายประเภทตั้งแต่ PERSONAL TRAINING, OPERATION RESEARCH
และ OPERATION
จนถึงตำแหน่งล่าสุด ASSISTANT VICE PRESIDENT เขาบอก "ผู้จัดการ"
ว่า
"ช่วงนั้นรู้สึกว่าผมจะเป็นคนแรกที่ได้ตำแหน่งนั้นเร็วที่สุด"
จาก BANK OF AMERICA ไพฑูรย์กลับไปสหรัฐอีกครั้งเพื่อทำงานกับ SECURITY
PACIFIC BANK เป็นเวลาปีกว่าจนเมื่อกลับเมืองไทยเขาก็เข้าทำงานกับ AMERICAN
EXPRESS ทันที
AMERICAN EXPRESS ให้ OFFER ที่ผมปฏิเสธไม่ได้" ไพฑูรย์บอกเหตุผล
ไพฑูรย์เริ่มงานกับ AMERICAN EXPRESS เมื่อปีที่แล้วโดยเข้ามาเป็น DIRECTOR
เพื่อที่จะ DEVELOP PRODUCT ขึ้นมาใหม่ คือ ระดับบัตรบริษัท (CORPORATE CARD)
บัตรเครดิต AMERICAN EXPRESS นั้น มีบัตรทอง บัตรเขียวซึ่งเป็นของบุคคล
แต่ในระบบบัตรบริษัท บริษัทจะป็นผู้เลือกที่จะออกบัตรนี้ คือบัตรที่จะออกในนามของบริษัทแต่ในบัตรจะมีชื่อของบุคคลที่บริษัทต้องการให้มี
แล้วมีชื่อบริษัทอยู่ข้างล่าง เป็นระบบการควบคุมการใช้จ่ายอย่างหนึ่งให้บริษัท
ในแง่การ ENTERTAIN ลูกค้า หรือในแง่การเดินทาง ฯลฯ
"ผมทำ MARKETING RESEARCH ทางด้านนี้แล้วก็ DEVELOPE ให้มันดีขึ้นอีกในแง่ของระบบ
แล้วศึกษาดูตลาดเริ่มเอาการบริการระบบบัตรบริษัทออกสู่ตลาด ก็ทำมาเรื่อย
ๆ ในที่สุดเขาให้ผมมาอยู่ OPERATION" ไพฑูรย์เล่าถึงหน้าที่การงานของเขาในปัจจุบัน
งาน OPERATION ของ AMERICAN EXPRESS แบ่งเป็นสองด้าน คือด้านการตลาดซึ่งเป็นฝ่ายที่เจาะเข้าไปในตลาดในแง่การชักชวนให้คนเป็นสมาชิก
พิจารณาอนุมัติสมาชิกอีกด้านหนึ่งเป็นเรื่องของการให้ SERVICE เป็นการควบคุมค่าใช้จ่ายต่าง
ๆ ของสมาชิก รวมทั้งดูแลเรื่องบัตรปลอมด้วย
"ถ้าสมาชิกบัตรมี 50,000 คน หน้าที่ความรับผิดชอบก็คือทั้ง 50,000
คนนั่นแหละ" ไพฑูรย์กล่าว
ไพฑูรย์ทำงานแบงก์มาตลอดเมื่อมาอยู่ AMERICAN EXPRESS หน้าที่การงานของเขาหนักไปทางการตลาด
แต่เขากลับไม่หนักใจเพราะประสบการณ์จากการทำงานแบงก์กลับช่วยส่งเสริมให้เขามองอะไรได้กว้างขึ้น
"ความรู้ที่ผมมีมาช่วยให้ผมวิเคราะห์ทุกสิ่งทุกอย่างได้ดีมองทุกสิ่งทุกอย่างได้ชัดเจนขึ้น...ประสบการณ์ทางด้านแบงก์
ความจริงมันช่วยได้ ทำให้เข้าใจภาพพจน์ของเศรษฐกิจดีขึ้น ที่จะช่วยวิเคราะห์ผลกระทบกระเทือนทางการตลาดได้"
ไพฑูรย์สาธยาย
แต่ไพฑูรย์ก็ยอมรับว่าเมื่อเขาเข้าทำงานกับ AMERICAN EXPRESS ใหม่ ๆ เขาต้องศึกษาตลาดบัตรเครดิตเมืองไทยอย่างมาก
และในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาการพัฒนาของธุรกิจบัตรเครดิตมีมากทีเดียว เพราะคนต้องเดินทางกันมาก
การติดต่อสื่อสารถึงกันมากขึ้น สินค้าต่าง ๆ มีมากขึ้น มาในระยะหลัง ๆ การแข่งขันในธุรกิจบัตรเครดิตจึงมากขึ้นด้วย
"DINER'S CLUB ก็เป็นคู่แข่งของเราโดยตรงเหมือนกันสำหรับบัตรเครดิตต่าง
ๆ ที่ธนาคารพาณิชย์ออกมาก็เป็นคู่แข่งในระดับหนึ่ง อาจไม่ใช่คู่แข่งโดยตรงทีเดียวเพราะเป้าหมายมันคนละเป้ากัน"
ไพฑูรย์มองบัตรเครดิตของ AMERICAN EXPRESS ว่า "ในแง่ของการเป็นสมาชิกหรืออะไรเนี่ย
เราไม่ค่อยจะ STRICT เหมือนแบงก์ รู้สึกว่าแบงก์ต้องมี DEPOSIT ด้วย ของเราไม่จำเป็นถึงขนาดนั้น
อีกอย่างลักษณะบัตรของเราผู้ถือบัตรหรือเป้าของเราค่อนข้างสูงเป็นคนละระดับ"
บัตรเครดิต AMERICAN EXPRESS เข้ามาในเมืองไทยเป็นรายแรก ๆ และเมื่อ 4
ปีที่แล้วก็เริ่มโหมตลาดอย่างหนักจนถึงขณะนี้ได้กลายเป็นผู้นำตลาดไปแล้วโดยมี
MARKET SHARE เกือบ 60%
แต่สำหรับปัญหาที่ AMERICAN EXPRESS ขาดทุนมาตลอดในเมืองไทย 3 ปีติดต่อกันตั้งแต่ปี
2525-2527 นั้น ไพฑูรย์กล่าวว่า
"เป็นการมองเฉพาะตัวเลขอย่างเดียว AMERICAN EXPRESS มองระยะ 4 ปี
นี่เป็นการปูทางมากกว่า ต้องมีการ INVESTMENT เพื่อพัฒนาตลาดให้ขึ้นมาในระดับที่ต้องการจริง
ๆ"
"การที่คุณจะได้ระยะยาวคุณต้องยอมเสียระยะสั้นบ้างแล้วตอนนี้เราก็ดีขึ้นแล้ว"
ไพฑูรย์นั้นทำงานกับบริษัทข้ามชาติมาตลอด เขาได้เรียนรู้ระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพ
ได้รับโอกาสในการแสดงออกทางความคิดเห็น การตัดสินใจ ได้แสดงความสามารถได้เต็มที่
"ผมคิดว่ามันขึ้นอยู่กับความสามารถของเรา มันอยู่ที่ตัวเราเองว่าจะพิสูจน์ให้เขาเห็นได้แค่ไหน
การที่เราเป็นคนไทย เราอาจมีนายเป็นชาวต่างชาติก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะวิเศษวิโสกว่าเรา
การที่เขาจะยอมรับเราแค่ไหนมันขึ้นอยู่กับตัวเราว่าเราสามารถแสดงออกได้แค่ไหนว่าเรามีความสามารถทัดเทียมกัน"
ด้วยเหตุนี้คงไม่แปลกใจอะไรที่ไพฑูรย์เคยก้าวถึงตำแหน่ง ASSISTANT VICE
PRESIDENT ของ BANK OF AMERICA มาแล้ว
เพียงแต่ที่ AMERICA EXPRESS ความสามารถของเขาทำให้เขาก้าวได้เร็วขนาดไหนเป็นสิ่งที่ต้องติดตาม