|
วิจารณญาณของ David Cameron
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( สิงหาคม 2554)
กลับสู่หน้าหลัก
เรื่องอื้อฉาวของ News of the World ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับวิจารณญาณของนายกรัฐมนตรี David Cameron คำถามเหล่านี้จะตามหลอกหลอนเขาไปอีกนาน
นายกรัฐมนตรี David Cameron ของอังกฤษ เปิดแถลงข่าวที่สำนักนายกรัฐมนตรี ถนน Downing Street เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ทันทีที่เรื่องอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ News of the World ล้วงข้อมูลโทรศัพท์มือถือเริ่มลุกลามใหญ่โต และตำรวจถูกกล่าวหาว่ารับสินบนจากหนังสือพิมพ์ดังกล่าว
Cameron ยอมรับว่า หลายปีที่ผ่านมา นักการเมืองอังกฤษละเลยสัญญาณหลายๆ อย่าง ที่บ่งชี้ถึงการประพฤติไม่ชอบที่กำลังขยายวงกว้างภายในวงการหนังสือพิมพ์อังกฤษ นักการเมืองไม่กล้าแตะต้องหนังสือพิมพ์ เพราะกลัวจะสูญเสียการสนับสนุนจากหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่และสื่อมวลชนไป
Cameron กล้าพอที่จะรวมตัวเองอยู่ในนักการเมืองพวกนี้ด้วย แต่เขายอมรับว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง พร้อมกับให้สัญญาว่า ความสัมพันธ์ในอนาคตของนักการเมืองกับบรรดานักธุรกิจ บรรณาธิการและนักข่าว จะต้องใกล้ชิดกันน้อยลง ถ้าหากว่าต้องการจะฟื้นความไว้วางใจของสาธารณชนให้กลับคืนมา
ในการแถลงข่าวนี้ เขาเกือบจะตัดสัมพันธ์กับ Rebekah Brooks ผู้บริหารสูงสุดของ News International เจ้าของ News of the World และเคยเป็นอดีตบรรณาธิการของ News of the World ผู้เป็นเพื่อนกับเขา แม้จะไม่ถึงขั้นเรียกร้องให้ Brooks ลาออกก็ตาม
ทั้งนี้ News of the World หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์วันอาทิตย์ชื่อดังของอังกฤษ คือชนวนเรื่องอื้อฉาวแฮ็กโทรศัพท์ที่กำลังเขย่าวงการสื่อ ตำรวจอังกฤษและนักการเมืองอังกฤษอยู่ในขณะนี้จนต้องปิดตัวไปแล้วอย่างถาวร
Cameron ยังประกาศด้วยว่า ควรจัดให้มีการไต่สวนสาธารณะ โดยมีผู้พิพากษาเป็นประธาน และสามารถเรียกตัวพยานมาให้ปากคำภายใต้คำสาบานได้ โดยจุดประสงค์ของการไต่สวนเพื่อตอบคำถามสำคัญ 3 ข้อ ข้อแรก ทำไมการสอบ สวนเรื่องแฮ็กโทรศัพท์ของตำรวจครั้งแรกเมื่อปี 2006 จึงล้มเหลวโดยสิ้นเชิง สอง เกิดอะไรขึ้นกันแน่ในหนังสือพิมพ์ News of the World และสาม แล้วในหนังสือพิมพ์ฉบับอื่นๆ มีการกระทำแบบเดียวกันนี้หรือไม่ Cameron เสนอให้มีการตั้งตำรวจสอบสวนอิสระ เพื่อสอบสวนข้อหาตำรวจรับสินบนจากหนังสือพิมพ์ด้วย
นอกจากนี้ Cameron ยังเสนอให้มีการไต่สวนสาธารณะเกี่ยวกับระบบการควบคุมในวงการหนังสือพิมพ์ด้วย หลังจากระบบปัจจุบันที่ให้หนังสือพิมพ์ควบคุมตัวเองใช้ไม่ได้ผล และควรมีระบบใหม่ที่เป็นอิสระอย่างสมบูรณ์ Cameron กล่าวอย่างชัดเจนว่า องค์กรควบคุมหนังสือพิมพ์ของอังกฤษที่มีชื่อว่า Press Complaints Commission ไม่ได้ทำอะไรเลย และปล่อยให้เรื่องอื้อฉาวหนังสือพิมพ์แฮ็กโทรศัพท์เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายลุกลามบานปลาย จึงควรจะต้องมีการจัดตั้งองค์กรใหม่ขึ้นมาเพื่อควบคุมดูแลหนังสือพิมพ์ให้มีความประพฤติที่ดี
อย่างไรก็ตาม การแถลงข่าวในวันนั้น เหมือนกับมี Cameron 2 คน คนแรกแถลงอย่างมั่นใจ สุขุม และทำในสิ่งที่ฉลาด ด้วยการยอมรับการกระทำผิดพลาดของนักการเมืองที่เกี่ยวกับหนังสือพิมพ์
แต่ Cameron ดูเหมือนกลายเป็นคนละคน เขาดูเครียด ใจร้อน และปกป้องตัวเอง เมื่อพยายามให้เหตุผลที่ไม่เพียงพอว่า ทำไมเขาถึงได้ตัดสินใจเลือก Andy Coulson อดีตบรรณาธิการ News of the World ซึ่งถูกตำรวจจับไปแล้วในวันเดียวกับที่ Cameron แถลงข่าว มาเป็นหัวหน้าฝ่ายสื่อของเขา เมื่อถูกยิงคำถามว่า เขารู้เห็นอะไรด้วยหรือไม่เกี่ยวกับเรื่องการแฮ็กโทรศัพท์ และเรื่องที่ตำรวจรับสินบน Cameron ก็เฝ้าแต่แก้ตัวซ้ำๆ ว่า เขาเพียงแต่ต้องการให้โอกาสครั้งที่ 2 แก่ Coulson เท่านั้น
หลังจากที่ Coulson ต้องลาออกจาก News of the World และรู้สึกเสียใจ ที่โอกาสครั้งที่ 2 นั้นไม่มีประโยชน์อะไรเลย Cameron บอกว่า Coulson แสดงสปิริตที่ตัดสินใจลาออกจาก News of the World เมื่อปี 2007 หลังจากที่นักข่าวสายพระราชสำนักของ News of the World และนักสืบเอกชนที่แฮ็กโทรศัพท์ให้นักข่าวต้องติดคุกในข้อหาแฮ็กโทรศัพท์ของสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ
Cameron บอกว่า เขาได้ตรวจสอบจนมั่นใจแล้วว่า Coulson ไม่รู้ไม่เห็นอะไรเกี่ยวกับการแฮ็กโทรศัพท์เลย พร้อมกับเปิดเผยด้วยว่า เขาถึงกับจ้างบริษัทเอกชนให้ตรวจสอบภูมิหลังของ Coulson ด้วย แต่ก็ไม่ได้ผลเช่นกัน Cameron พยายามยืนยันว่า ไม่เคยมีใครบอกเขาเรื่องพฤติกรรมไม่ดีของ Coulson เลย
แต่ในสายตาของนักข่าวอังกฤษที่ฟังการแถลงข่าวในวันนั้น นี่เป็นเพียงคำแก้ตัว Cameron แสดงให้เห็นว่า เขามีปัญหาในด้านการตัดสินใจ ตั้งแต่ที่เขาเลือก Andy Coulson มาเป็นหัวหน้าฝ่ายสื่อในปี 2007 ในสมัยที่เขายังเป็นฝ่ายค้านแล้ว ปัญหานี้ยังเห็นชัดมากขึ้น เมื่อ Cameron ยังคงเลือก Coulson มาเป็นหัวหน้าฝ่ายสื่อ เมื่อเขาได้เป็นรัฐบาลในปี 2010
ทั้งๆ ที่หนังสือพิมพ์ Guardian และหนังสือพิมพ์อื่นๆ ได้เตือนถึงข้อกล่าวหาร้ายแรงต่างๆ ที่เกี่ยวกับ Coulson มาตั้งแต่ปี 2009
คำแก้ตัวของ Cameron ที่ว่า เป็นการให้โอกาส Coulson ครั้งที่ 2 หลังจากที่ฝ่ายนั้นต้องลาออกจากบรรณาธิการ News of the World นั้น ฟังไม่ขึ้น ในฐานะนายกรัฐมนตรี หน้าที่ของ Cameron ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใครมาทำงานในตำแหน่งสำคัญนี้ ไม่ใช่การให้โอกาสใครเป็นครั้งที่ 2 ไม่ใช่การสอบสวนอดีตที่มีปัญหาของ Coulson แต่ต้องเป็นการประเมินข้อกล่าวหาที่ Coulson ถูกกล่าวหาอยู่ในขณะนั้น เพื่อจะสรุปให้ได้ว่า Coulson เป็นคนหลอกลวงหรือไม่
นักข่าวที่มีประสบการณ์การทำข่าวประจำวันทุกคน ไม่มีใครเชื่อคำแก้ตัวของ Coulson เลยสักคน ที่ว่าเขาในฐานะบรรณาธิการ ไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลยเกี่ยวกับวิธีการได้มาซึ่งข่าวเด็ดของนักข่าวใต้บังคับบัญชาของเขา นั่นไม่ใช่เพียงคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น หากแต่ยังเป็นการดูถูกสติปัญญาของคนอื่นด้วย
ครึ่งหนึ่งของบรรณาธิการข่าวการเมืองและนักข่าวที่ฟังการแถลงข่าวของ Cameron ในวันนั้น รู้จักคนที่เคยเตือน Cameron และคนสนิทของเขาว่า การเลือก Coulson จะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดครั้งใหญ่ และนักข่าวบางคนที่เคยเตือน Cameron ก็อยู่ที่นั่นด้วย จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งกับคำแก้ตัวของ Cameron
หาก Cameron ไม่ได้เลือก Coulson เรื่องอื้อฉาวทั้งหมดนี้ก็จะเป็นเพียงเรื่องในอดีตที่เกิดขึ้นในสมัยของรัฐบาลอื่น แต่การตัดสินใจเลือก Coulson ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับวิจารณญาณของ Cameron โดยตรง และเป็นเหตุผลที่ทำให้เรื่องอื้อฉาวนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่และจะไม่จบลงง่ายๆ
ในวันนั้น Cameron ถูกรุมยิงคำถามเกี่ยวกับการรู้หรือไม่รู้ และถ้ารู้ รู้ตั้งแต่เมื่อใด เช่นเขาถูกถามว่า เขารู้หรือไม่ว่า Alan Rusbridger บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ Guardian เคยเตือนคนสนิทของเขาถึงข้อกล่าวหาร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับ Coulson ที่ยังไม่ได้ถูกแฉออกมา Cameron ถูกถามอีกว่า มีใครเตือนเขา หรือ เขารู้หรือไม่ว่า มีอีเมลที่เป็นหลักฐานยืนยันว่า มีการจ่ายเงินติดสินบนตำรวจโดย News of the World
คำตอบของ Cameron คือ เขาไม่เคยรู้เรื่องอีเมลเหล่านั้น และเขาไม่เคยได้รับข้อมูลที่ “เจาะจง หรือใช้การได้” เกี่ยวกับการกระทำผิดของ Andy Coulson
คำถามทำนองนี้มีแต่จะเพิ่มจำนวนมากขึ้น และจะตามหลอกหลอน Cameron ไปตลอด ตราบใดที่เขายังไม่มีคำตอบที่ดีกว่านี้
เหตุผลอีกข้อที่จะทำให้เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ เป็นเพราะ Cameron มีภาพลักษณ์เป็นคนดีและน่าเชื่อถือ แต่ “แบรนด์ Cameron” ซึ่งเป็นเครื่องรับประกันภาพลักษณ์ใหม่ที่เดินสายกลางของพรรคอนุรักษนิยมกำลังตกอยู่ในอันตราย เมื่อ Cameron ถูกยิงคำถามว่า เขาคิดว่าสถานการณ์ที่เขากำลังเผชิญในตอนนี้ จะสร้างความเสียหายแก่ชื่อเสียงของเขา เหมือนกับที่ Tony Blair เคยเผชิญในสงครามอิรักหรือไม่ Cameron ตอบว่า สถานการณ์ของเขาแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับวิกฤติสงครามอิรัก Cameron ยังกล่าวเสริมอีกด้วยว่า และไม่ควรนำสถานการณ์ของเขาไปเปรียบกับเรื่องอื้อฉาวของ Blair ที่เกี่ยวกับโฆษณาบุหรี่อีกด้วย
คำตอบของ Cameron พาดพิงถึงเรื่องอื้อฉาวในสมัยที่ Tony Blair เพิ่งเป็นนายกฯ อังกฤษใหม่ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ Bernie Ecclestone แห่งการแข่งขันรถ Formula 1 ซึ่งเคยบริจาคเงินสนับสนุนให้พรรคแรงงานของ Blair ในปี 1997
หลังจากนั้น รัฐบาลพรรคแรงงานก็ได้ยกเว้นข้อห้ามการโฆษณาบุหรี่ให้แก่ Formula 1 ซึ่งทำให้รัฐบาลถูกวิจารณ์อย่างหนัก จนต้องคืนเงินบริจาคให้ Ecclestone ในที่สุด ในตอนนั้น Blair แก้ตัวอย่างมั่นใจว่า ประชาชนรู้ดีว่าเขาเป็นคนที่ใจซื่อมือสะอาด หลังจากนั้น ความไม่เชื่อถือในตัว Blair ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลายคนก็เห็นว่า เรื่องอื้อฉาวดังกล่าวคือจุดเริ่มต้นของการหมดความนิยมในตัว Blair ในเวลาต่อมา
การกล่าวพาดพิงถึงกรณี Ecclestone ในวันนั้น อาจเป็นเพียงการพลั้งปากของ Cameron หรืออาจเป็นการเปิดเผยความวิตกลึกๆ ที่ซ่อนเร้นอยู่ในใจของเขาโดยไม่ตั้งใจ เมื่อตัวเขาเองก็ต้องมาเผชิญกับภัยคุกคามครั้งใหญ่ครั้งแรกต่อภาพลักษณ์ของตัวเอง ซึ่งนับเป็นส่วนสำคัญที่สุดในแผนการปฏิรูปภาพลักษณ์ของพรรคอนุรักษนิยม หรือ Cameron อาจกำลังกลัวว่า นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้คนเริ่มตั้งคำถามว่า เขาเป็นคนที่ใจซื่อมือสะอาด จริงหรือไม่
แปล/เรียบเรียง เสาวนีย์ พิสิฐานุสรณ์
เรื่อง ดิ อีโคโนมิสต์
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|