My World ของแสนสิริ


นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( สิงหาคม 2554)



กลับสู่หน้าหลัก

บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดหวูดเดินหน้าทันทีเมื่อประเทศไทยได้รัฐบาลใหม่ โดยลุยแผนสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนอย่างต่อเนื่องในช่วงปีหลัง ทั้งในและต่างประเทศ โดยล่าสุดเพิ่งร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและบริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เดินทางไปโรดโชว์ร่วมงาน SET/CIMB Malaysia Roadshow ณ ประเทศมาเลเซีย และเตรียมไปอีกหลายประเทศ

เศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นักลงทุนทั้งหมดประทับใจกับโมเดลธุรกิจของบริษัทที่สามารถสร้างยอดขายและกำไรก้าวกระโดดเกินเป้าหมาย โดยคาดการณ์รายได้ทั้งปี 2554 อยู่ที่ 20,500 ล้านบาท เติบโตขึ้นเกือบ 10% จากปี 2553 ที่มีรายได้ทั้งปี 18,755 ล้านบาท และมียอดขายล่วงหน้าที่รอรับรู้รายได้อีกประมาณ 32,500 ล้านบาท เป็นหลักประกันในการทำกำไรต่อเนื่องยาวถึง 3 ปีข้างหน้า และเป็นแหล่งกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง

ต้องยอมรับว่า ความพยายามปลุกปั้นตัวเลขรายได้อย่างสวยหรูมาจากการรุกทำตลาดที่อยู่อาศัยแบบกินรวบทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์และคอนโดมิเนียม โดยสร้างจุดขายของแต่ละทำเล จับกลุ่มลูกค้าระดับบนจนถึงไฮเอนด์และเปิดโครงการใหม่แบบถี่ยิบ

ในตลาดบ้านเดี่ยว ซึ่งถือเป็นรายได้หลักนั้น แสนสิริเพิ่งเปิดตัวโครงการระดับพรีเมียม เศรษฐสิริ ศรีนครินทร์-พระราม 9 มูลค่า 2,300 ล้านบาท โดยชูจุดขายการออกแบบบ้านที่สอดคล้องกันระหว่างวิถีชีวิตกับธรรมชาติ หรือ “Modernized Bangkok” คือ พื้นที่ใช้สอยให้ประโยชน์สูงสุดและสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างแท้จริง ในราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท และกำลังพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวใหม่อีกหลายทำเล ไม่ว่าจะเป็นย่านวัชรพล เอกมัย-รามอินทรา สุขาภิบาล 2 และพระราม 2 มูลค่าโครงการการขายรวมแล้วประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยเตรียมแผนทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 3 จนถึงสิ้นปีนี้

ถ้าดูสัดส่วนการขายบ้านเดี่ยวในครึ่งปีแรกพุ่งพรวดถึง 50% โดยเฉพาะโครงการบ้านเดี่ยวระดับบนจนถึงระดับพรีเมียม เช่น โครงการบ้านแสนสิริ สุขุมวิท 67 ซึ่งซื้อคืนมาจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บ้านแสนสิริ จำนวน 24 ยูนิต เมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมาและเปิดการขายอีกครั้งในเดือนตุลาคม สามารถปิดการขายภายใน 8 เดือน ราคาขายต่อยูนิตตั้งแต่ 35-60 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน หากพิจารณาตัวเลขยอดขาย (Pre-Sale) เฉพาะโครงการบ้านเดี่ยวตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ทำไปได้แล้ว 1,056 ยูนิต กอบโกยยอดขายรวมประมาณ 6,333 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ 11,200 ล้านบาท

ล่าสุด บริษัทเพิ่งเปิดตัวแคมเปญใหม่เพื่อผลักดันตลาดทาวน์เฮาส์เป็นเป้าต่อไป โดยการถ่ายทอดถึงวิถีคิดที่ไม่ต้องการให้ทาวน์เฮาส์เป็นแค่บ้านแคบๆ แต่เป็นที่ที่ชีวิตได้พบกับบ้านและแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตอย่างมีสีสันภายใต้แนวคิด “My World” มีโครงการเรสซิเดนซ์ สุขมวิท 65 เป็นทาวน์เฮาส์ต้นแบบ และยังเป็นการชิมลางผุดทาวน์เฮาส์ระดับลักชูรี่โมเดิร์นบนถนนสุขุมวิท

ที่นี่ออกแบบบนแนวคิด “A Timeless Legacy” เป็นทาวน์เฮาส์ 4 ชั้น หน้ากว้างถึง 7.5 เมตร พร้อมสวนหลังบ้าน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 300 ตารางเมตร เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่ชอบการอยู่อาศัยใจกลางเมืองใกล้รถไฟฟ้าและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่สำคัญมีเพียง 10 ยูนิต ราคาเริ่มต้นจึงสูงถึง 19 ล้านบาท หลังจากนั้นจะเปิดตัวโครงการทาวน์ อเวนิว ศรีนครินทร์ และฮาบิทาวน์ วัชรพล ซึ่งตัวเลข 7 เดือนที่ผ่านมา บริษัทพัฒนาและเปิดการขายทาวน์เฮาส์ไปทั้งสิ้น 7 โครงการ มียอดขายแล้ว 2,630 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 1,745 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นกว่า 50%

สำหรับแคมเปญ “My World” เป็นแคมเปญย่อยภายใต้แคมเปญเสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กร “Life Comes Home” ที่ต้องการสร้างความแตกต่างของบ้านแสนสิริจากคู่แข่งรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว, คอนโดมิเนียม หรือทาวน์เฮาส์จะมีการใส่ใจในรายละเอียดของชีวิต

ไม่ว่าคุณอยู่ในระดับความสูงแค่ไหน หรือไกลแค่ไหน แต่ความหมายของคำว่า “บ้าน” ไม่เคยเปลี่ยน

อย่างว่า มีเงินทำได้หมด แถมเศรษฐีไทยยังมีกำลังจ่ายอีกเยอะเสียด้วย


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.